|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไทย เดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังต่างชาติซื้อไม่หยุด แม้ระหว่างวันเจอรายย่อย-กองทุนไทยกระหน่ำขายทำกำไร แค่ 10 วันฝรั่งซื้อ 2.6 หมื่นล้านบาท โบรกเกอร์ชี้นักลงทุนยังลุ้นนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงในสัปดาห์หน้า และจับตาของคำแถลงของประธานเฟดต่อท่าทีในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯรับสภาะเศรษฐกิจถดถอย
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (14 ก.พ.) นักลงทุนยังเข้ามาทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารพาณิชย์เนื่องจากเชื่อมั่นว่าในเร็วๆนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศยกเลิกการใช้มาตรการกันสำรอง 30% แม้ว่าอาจจะมีการออกมาตรการอื่นเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เงินทุนไหลเข้ามาจนทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วจนเกินไป โดยในช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรออกมาส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 832.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด หรือ 0.33% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 844.83 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 829.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,646.35 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,132.80 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 67.22 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,200.02 ล้านบาท โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.- 14 ก.พ. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 26,253.91 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 8,977.18 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 17,276.72 ล้านบาท
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มที่เข้ามาซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มพลังงาน ธนาคาร รวมถึงกลุ่มเดินเรือที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ประเด็นที่ค่อนข้างมีน้ำหนักต่อการลงทุนหลังจากนี้ คือ การประกาศของ นายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ในคืนนี้ (14 ก.พ.) ว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี รวมทั้งความชัดเจนต่อนโยบายในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐที่อยู่ในสภาวะถดถอย โดยจะต้องรอดูการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นดาวโจนส์ว่าตอบรับในเรื่องดังกล่าวอย่างไร เนื่องจากจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลก
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อหุ้นพลังงาน ที่ยังคงมีอัพไซต์ส่วนต่างของราคาเหลืออยู่ เช่น PTT-TOP รวมไปถึงหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง เช่น TCAP-SCIB โดยประเมินแนวรับดัชนีวันนี้อยู่ที่ 830 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 845 จุด และ 860 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศรียานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเนื่องจากตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 200 จุด แต่ในช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างหนักแม้ว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ทั้งนี้ แนวโน้มในวันนี้คาดว่าดัชนีจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้ หากมีปัจจัยสนับสนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งจากคาดหวังในเชิงบวกกับการแถลงนโยบายของรัฐบาลในต้นสัปดาห์หน้า แต่อาจจะมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว ขณะที่ประเมินแนวรับดัชนีฯ ไว้ที่ 826 จุด แนวต้าน 840 จุด
นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน เนื่องจากพื้นฐานยังค่อนข้างแข็งแกร่งรวมทั้งราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับในภูมิภาค โดยประเด็นที่นักลงทุนยังต้องติดตามคือการหารือเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ว่าจะสรุปอย่างไร
ทั้งนี้ ส่วนตัวยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยัง Underperform กว่าตลาดหุ้นอื่นๆ จึงยังถือว่าน่าสนใจที่จะเข้าลงทุน โดยในไตรมาส1/51 บริษัทประเมินดัชนีที่ 850 จุด ขณะที่ทั้งปีนี้คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ 940 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน เนื่องจากยังมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
|
|
 |
|
|