Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2535
"ศุภชัย พานิชภักดิ์ "ไม่มีใครเข้าใจผม"             
 

   
related stories

"ทำไม! กองทัพในแบงก์ทหารไทยไม่มีวันแยกจากไปเด็ดขาด"
"ชื่อนั้น สำคัญฉะนี้ !!!"
"พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ "คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าทหารก็ช่วยแบงก์ทหารไทย"
"อันเป็น…ที่มาของแบงค์ทหารไทย"
"ด่วนมาก"

   
search resources

ธนาคารทหารไทย
ศุภชัย พานิชภักดิ์
Banking




"ผมไม่มีทางพูดอะไรเป็นเรื่องบวกได้เลยในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานไม่ว่าอาจารย์วีรศักดิ์จะไปพูดเรื่องเปลี่ยนชื่อ หรือแบงก์ชาติจะออกมาพูดอะไรก็ตาม เขาจ้องอยู่ทุกฝีก้าว" เจ้าของคำพูดกล่าวด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย

ศุภชัย พานิชภักดิ์หนุ่มอนาคตไกลผู้ผันแปรตัวเอง จากนักวิชาการในแบงก์ชาติมาเป็นการเมืองแล้วจึงก้าวเข้าสู่สนามนักการธนาคารเส้นทางเหล่านี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายสำหรับเขา โดยเฉพาะการเข้ามารับตำแหน่งบริหารแบงก์ที่มีลักษณะพิเศษอย่าง "ทหารไทย" อันเต็มไปด้วยผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สถาบันทหารรวมไปถึงคณะกรรมการก็เป็นทหารเกือบทั้งคณะ แม้ว่าครั้งกระนั้นเมื่อเขาเข้าทำงานใหม่ ๆ เขาเคยชื่นชมกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนที่นี่จนต้องเอ่ยวาจาออกมาว่า "ถ้าผมรู้ว่าแบงก์ทหารไทยต้อนรับผมอย่างนี้ ผมคงจะมาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว" คำกล่าวนี้เขากล่าวเมื่อปี 2531 ไม่ทราบว่าปี 2535 เขายังจะยืนยันคำพูดเดิมหรือไม่

ทุก ๆ ครั้งที่ทหารทำร้ายประชาชนหรือทหารก่อรัฐประหาร แบงก์แห่งนี้มักได้รับผลสะเทือนไปด้วยเสมอ ฉนั้นผู้กุมบังเหียนของแบงก์นี้จึงต้องรับบทหนักถึงกับมีคำพูดหลุดลอยออกมาว่า

"ช่วงนี้ผมเหนื่อยมาก ๆ ข้างหนึ่งประชาชน ข้างหนึ่งทหาร"

ในช่วงพฤษภาทมิฬ ที่ทั่วโลกต้องจารึกถึงความป่าเถื่อนของทหารครั้งนี้ทำให้แบงก์ทหารไทยต้องเผชิญวิกฤตศรัทธาจากประชาชนด้วยเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์คับขันระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคมที่ผ่านมา พนักงานคนอื่นๆ สามารถกลับบ้านตามประกาศหยุดงานได้ แต่ระดับผู้บริหารไม่สามารถไปไหนได้เลยโดยเฉพาะศุภชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่

คนในแบงก์ทหารไทยบรรยายสภาพในวันนั้นให้ฟังว่า อาจารย์ศุภชัยถูกกักตัวไว้ไม่ให้สัมภาษณ์ ไม่ให้พบผู้คนบางคนบอกว่าอาจารย์ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่ตัดสินปัญหาแล้วยังย้ำว่าเดี๋ยวอย่าพูดไปนะ อย่าทำอะไร อย่าไปไหน เกรงว่าถ้าให้สัมภาษณ์ระหว่างเหตุการณ์กำลังรุนแรงอาจารย์จะอัดทหารแล้วจะมีผลกระทบต่อแบงก์ เพราะอาจารย์เป็นคนตรงไปตรงมา และรักประชาธิปไตยพอสมควรส่วนผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็เดินไปเดินมาให้ขวักไขว่ไปหมด เข้าห้องโน้น ออกห้องนี้เรียกได้ว่า สับสนวุ่นวายพอประมาณทีเดียว

วันที่ 18-19 มีความคิดเห็นแตกเป็นหลายฝ่ายเกี่ยวกับการวางท่าทีของแบงก์ส่วนที่เป็นลูกหลานทหาร หรือทหารเก่าที่มีเยอะแยะในแบงก์บอกว่าทหารต้องชนะแน่ สำหรับคนที่เป็นพลเรือนเต็มขั้นบางคนก็อยู่ในอาการใบ้ถามอะไรก็ไม่มีคำตอบเรื่องทุกเรื่องก็ไปสุมที่อาจารย์ศุภชัย แม้กระทั่งเรื่องเครื่องแต่งกายยังต้องถามว่าเราจะทำอย่างไรกันจะแต่งเครื่องแบบมาทำงานได้ไหม

เมื่อ "ผู้จัดการ" สอบถามไปยังศุภชัย ก็ได้คำตอบว่าวันนั้นไปไหนไม่ได้เพราะผู้บริหารคนอื่น ๆ ขอร้องให้อยู่ เนื่องจากไม่มีใครกล้าตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้น วันนั้นมีปัญหา 108

แต่ไม่มีใครเข้าใจผม….!

"หลังวันที่ 20 พฤษภาคม มีข่าวลือถึงแบงก์ทหารไทยในแง่ลบมาตลอดไม่ว่าจะเรื่องปลดป้ายชื่อแบงก์ที่สำนักงานราชดำเนิน หรือคนแห่ถอนเงินจากแบงก์มากมาย ผมรู้ว่ามีนักข่าวติดต่อผมเข้ามาตลอด ผมจัดตัดสินใจที่จะพบนักข่าวในวันที่ 26 เพราะผมเป็นคนที่ชอบคอนแทกค์ ผมต้องการฟังเหมือนกันว่านักข่าวอยากรู้เรื่องอะไร วันนั้นผมตัดสินใจคนเดียว ผมไม่มายไม่วอรี่ ถ้าจะมีการพาดหัวบ้า ๆ บอ ๆ แต่ผมต้องการรู้ความจริงและให้ความจริงปรากฏ" เขากล่าวถึงเบื้องหลังภาวะคับขัน

เขาได้พบนักข่าวตามที่ต้องการแต่เขาเองก็ถูกต่อว่าจากนักข่าวมากพอสมควร เนื่องจากช่วงก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจพบนักข่าวมีหนังสือเพียง 2 ฉบับเท่านั้นที่ได้สัมภาษณ์เขา ทำให้นักข่าวอีกหลายคนที่ลงทุนเฝ้าเขาอยู่หลายวันไม่ได้ข้อเท็จจริงทั้ง ๆ ที่ทุกฉบับก็มีฐานะเป็นสื่อมวลชนเท่ากัน

แต่เหตุการณ์ลักลั่นระหว่างประชาสัมพันธ์กับนักข่าวก็ยังไม่จบเพราะเมื่อ "ผู้จัดการ" ติดต่อขอนัดสัมภาษณ์ศุภชัยก็ต้องพบอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่ต้องทำจดหมายหนแล้วหนเล่าส่งถึงประชาสัมพันธ์ เมื่อถึงเวลาได้สัมภาษณ์ก็ปรากฏว่า ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบงานการข่าวในแบงก์กดโฟนลิ้งค์เรียกนักข่าวอื่น ๆ มาร่วมสัมภาษณ์ด้วย จนนักข่าวต้องถามศุภชัยว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องการให้ทำข่าวหรืออย่างไร

เขาต้องรีบบอกว่าเขาไม่ได้เชิญ ไม่ได้นัดแถลงข่าว ซ้ำช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่เขาเองก็มีปัญหาเยอะมาก

การจัดฉากในวันนั้น (16 มิ.ย. 35) นอกจากศุภชัย จึงมีผู้บริหารคนอื่นๆ อีกหลายคนร่วมโต๊ะคุยกับนักข่าวพร้อมด้วยทีมงานประชาสัมพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนเกือบครบทีม บนโต๊ะเรียวยาวตัวที่นั่งพร้อมหน้ากันมีโมค์โคโฟน 1 ตัว ซึ่งเมื่อ ศุภชัยก้าวเข้านั่งหัวโต๊ะถึงกับบอกว่าให้เอาไมค์ออกจากโต๊ะเพราะไม่ใช่การแถลงข่าว

ในขณะเดียวกันการกดเรียกนักข่าวด้วยโฟนลิ้งค์ก็คัดเรียกเพียง 10 ฉบับเท่านั้น จนนักข่าวที่ไม่ได้ถูกเรียกให้มาทำข่าวที่แบงก์ทหารไทยต่อว่าเขาและมองว่าเขาเลือกที่จะให้ข่าวกับบางฉบับเท่านั้น

กระบวนการเหล่านี้บางคนในแบงก์วิเคราะห์ว่า เป็นการป้องกันไม่ให้เขาคุยกับนักข่าวเฉพาะตัวด้วยเหตุผลเดียวกับการที่ขอร้องให้เขาอยู่เฉย ๆ ในช่วงวิกฤตนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ศุภชัยก็ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความคิดของคณะกรรมการธนาคารเลย และเขาเองก็ได้รับอิสระอย่างเต็มที่ในการบริหารงาน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us