Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2535
"ประเทศของข้าเจ็บป่วย"             
 


   
search resources

Thailand
United States
Political and Government




Don't kill people!

Stop killing Right now!

No more Killing!

No more Dictator!

No more Suchinda!

เสียงจากโทรละโข่ง ยังคงก้องดังไปทั่วบริเวณหน้าตึกสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ กรุงนิวยอร์ก 4 วันของการรณรงค์ชุมนุมอยู่หน้าสหประชาชาติของกลุ่มคนไทย และนักเรียนไทยเพื่อให้รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกสุจินดา หยุดเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม

ภาพของการสังหารหมู่จากเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่กระทำต่อประชาชนบริเวณราชดำเนินยังคงติดตา ฝังอยู่ในความรู้สึกของคนในต่างประเทศ "มันเป็นความโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง"

ในคืนที่มีการล้อมปราบอย่างหนักบริเวณราชดำเนินประชาชน ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายอย่างร้ายแรง แต่ข่าวรายการทีวีในเมืองไทยกลับเสนอรายการบันเทิง คนไทยในต่างจังหวัดของประเทศไทยกลับไม่ทราบข่าวสารว่าเกิดอะไรในกรุงเทพฯ

นี่แสดงว่า "รัฐบาลไทยได้ปกปิดความอัปยศที่เกิดขั้นในกรุงเทพฯ"

ภาพข่าวด่วนรายงานพิเศษจากเมืองไทยกลับเล็ดลอดออกมานอกประเทศ กระจายเสียงแพร่ภาพในสหรัฐอเมริกาสถานีโทรทัศน์เกือบทุกช่องในอเมริกา รายงานข่าวการล้อมปราบประชาชน เกิดการชุมนุมประท้วงปะทะกันขึ้น ทหารกระหน่ำยิงเข้าใส่ฝูงชนตามท้องถนน ในความรู้สึกของคนอเมริกันเมื่อเขาเห็นภาพออกอากาศเกี่ยวกับเมืองทยแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

"ยิ่งกว่าเหตุการณ์เทียนอันเหมิน"

หนังสือพิมพ์ในอเมริกาหลายฉบับเอาเรื่องราวการปราบปรามประชาชนไทย ขึ้นพาดหัวข่าววางแผงกรอบเช้าตลอดเกือบสัปดาห์ สำหรับคนไทยที่อยู่ในอเมริกา ก็จับกลุ่มสบถกันตามร้านอาหารไทย "มันโหดร้ายผิดมนุษย์" "ไอ้เหี้ย หัวใจมันทำด้วยอะไรวะ"

คนไทยในอเมริกาแต่ละกลุ่ม แต่ละสมาคม นักศึกษาไทยตามมหาวิทยาลัยในรัฐต่าง ๆ ก็รวมตัวขึ้นทันทีเพื่อคัดค้านการกระทำของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ ร้านอาหารไทย, ร้าน grocery ไทย วัดไทย กลายเป็นแหล่งชุมนุมของคนไทยภายในไม่ทันชั่วข้ามคืนที่มีการล้อมปราบบริเวณราชดำเนิน

"ภาพข่าวที่ออกมานอกประเทศเป็นการกระทำอันทารุณโหดร้ายของผู้ถืออาวุธจากกองทัพ" คนไทยเหล่านี้ เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ทุกคนอัดอั้น กระวนกระวาย สับสน ทำอะไรไม่ถูก

แต่ละคน เมื่อตั้งสติได้ก็โทรศัพท์กลับเมืองไทย

แต่แล้วสายโทรศัพท์ปลายทางในกรุงเทพฯ โทรเข้าไม่ได้

มีอยู่บ้างเหมือนกันสำหรับบางคนที่โทรกลับไปยังต่างจังหวัดกลับได้รับคำตอบจากญาติพี่น้องทางเมืองไทยว่า "ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น โทรทัศน์ก็ยังเปิดรายการบันเทิงอยู่"

นี่มันเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทยอย่างนั้นหรือ ?

กลุ่มนักเรียนไทยในแต่ละรัฐก็ประสานงานกันขึ้นทุกคนรู้ว่าขณะนี้รัฐบาลใช้วิธีการ

"ปิดประตูตีแมว" "ล้อมปราบผู้ชุมนุม"

ปิดบังข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม แต่ข่าวสารกลับมาเปิดเผยในนอกประเทศ ศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจของนักศึกษาไทยในอเมริกาก็เริ่มขึ้นในค่ำคืนของการล้อมปราบปรามเช่นกัน

ในแคลิฟอร์เนีย ศูนย์ประสานงานเกิดขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยของนักเรียนไทย ในลอสแองเจลิส ศูนย์ต่อต้านรัฐบาลไทยก็เกิดขึ้นในวัด ซึ่งภายใต้การนำของกลุ่มนักธุรกิจในอเมริกาใน New York ศูนย์ประสานงานก็เกิดขึ้นในย่าน ฝั่ง oueena เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทุกคนไม่เคยนึกฝันกันมาก่อนว่ารัฐบาลจะกระทำรุนแรงถึงขนาดนี้ ในขณะอีกฝ่ายชุมนุมอย่างสงบ

ทุกคนก็ได้แต่นั่งนับเวลาที่ผ่านไปในแต่ละชั่วโมงว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยในต่างจังหวัดรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เล็ดลอดออกมานอกประเทศ ทุกคนคิดถึงสถานีวิทยุ BBC ภาคภาษาไทยที่กระจายเสียง ณ กรุง LONDON ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล

การส่งข่าวสารจากนักเรียนไทยในอเมริกาก็ผ่านไปยัง BBC

แถลงการณ์จาก THE DEMOCRATIC COALITION IN U.S.A. ออกประกาศว่า

"...ชาวไทยทั้งหลายช่วยกันส่งข่าวสารที่ถูกต้อง เพราะรัฐบาลเปิดหูปิดตาประชาชน บิดเบือนความจริงได้เข่นฆ่าประชาชนมากมายขอให้พวกเราทุกคนส่งข่าวสารทุกชนิดกลับไปเมืองไทยด่วน และให้บอกญาติพี่น้องที่อยู่ทางเมืองไทย หันคลื่นวิทยุไปที่ BBC ภาคภาษาไทย"

การรับข่าวสารจากศูนย์ประสานงานของนักเรียนไทยในแคลิฟอร์เนียจะเป็นแม่ข่ายใหญ่ เพราะมีกลุ่มนักเรียนไทยติดตั้งคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสูงขโมยสัญญาณดาวเทียมออกมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลไทยเป็นการเฉพาะ เพื่อให้หยุดเข่นฆ่าประชาชน

การชุมนุมของคนไทยใน NEW YORK บริเวณหน้าสหประชาชาติยังคงดำเนินอยู่ตลอดที่มีการล้อมปราบเสียงตะโกนผ่านทางโทรโข่ง เพื่อบอกให้นานาประเทศรับรู้ช่วยหยุดยั้งการลั่นกระสุนใส่ประชาชน

STOP KILLING RIGHT NOW! ธงชาติไทยบริเวณหน้าสหประชาชาติก็ถูกเลื่อนขึ้นมาไว้หัวแถวเพื่อบอกให้นานาประเทศรับรู้ว่าประเทศไทยเกิดปัญหาแล้ว

ในตอนเที่ยง เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติพักตอนกลางวันทุกคนเมื่อเดินผ่านเข้ามายังที่ชุมนุมของนักเรียนไทย เพื่อมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ฟังข่าวดูโทรทัศน์ เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติบางคนเมื่อเดินจากไปแล้วก็แวะกลับมาอีกพร้อมอาหาร ขนม มาหนุนช่วย เพื่อบอกเป็นนัยว่า "พวกเขาเป็นกำลังใจให้กับคนไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย"

เจ้าหน้าที่สหประชาชาติหลายคนเมื่อยื่นอาหารให้นักเรียนไทยที่ชุมนุม ทุกคนก็ได้แต่เงียบ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาในขณะที่เดินก้มหน้ากลับไปทำงานยังตึก UN. ดูเหมือนยังมีคำถามค้างคาอยู่ในจิตใจ "นี่หรือสังคมแห่งพุทธธรรม"

ดอกไม้ประชาธิปไตยบานหลายดอกในอเมริกา กลุ่มองค์กรต่าง ๆ เกิดขึ้นตามสถานการณ์ เพื่อคัดค้านการปราบปรามประชาชน บางกลุ่มยื่นจดหมายผ่านไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยยับยั้งรัฐบาลไทยให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่านี้

กลุ่มคนไทยนักธุรกิจในลอสแองเจอลิส ลงมติกันในบริวัดไทยขับไล่นายสุจินดามีข้อความจากลุ่ม THAI DEMOCRATIC COALITION IN U.S.A. ออกแถลงการณ์กล่าวว่า

"...อาชญากรรมที่พลเอกสุจินดา คราประยูรและคณะได้ก่อขึ้นไว้เฉพาะที่สั่งให้ทหารและตำรวจออกปราบปรามประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยจนล้มตายจำนวนมาก บางชมรมจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้มีการดำเนินการตามกฎหมายของบ้านเมืองต่อไป รวมทั้งจะร้องขอต่อบรรดามิตรประเทศมิให้ออกวีซ่า เข้าประเทศให้กับ พล.อ. สุจินดา และคณะ ให้ถือว่าเป็นฆาตรกร และเป็น PRESONNA NON GRATA หรือบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของทุกอารยประเทศ..."

มีแถลงการณ์ยังรัฐบาลไทยให้ตอบคำถามของพวกเขา

"..ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ตายไปจำนวนเท่าไร?

เราทราบดีจากข่าวที่แพร่ภาพเล็ดลอดออกมานอกประเทศ

เขาผู้เสียชีวิตเหล่านี้ทหารไทยไม่ได้ฆ่าเขาใช่ไหม?

ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกมา ทหารเอารถยีเอ็มซีขนซากศพไปทำลาย ใช้ทหารไทยหรือไม่ ?

ทหารที่ดึงสายน้ำเกลือจากผู้บาดเจ็บ และทำร้ายซ้ำไม่ใช่ทหารไทยทำใช่หรือไม่ ?

เราลูกหลานไทยในอเมริกา เรายังสับสนกับผู้ถืออาวุธว่าเขาเหล่านี้เป็นทหารที่เล็ดลอดมาจาก ลาว, เขมร, พม่า หรืออย่างไร?.."

การชุมนุมของนักเรียนไทยหน้าสหประชาชาติ มีกลุ่มคนไทยที่เปิดร้านอาหารใน NEW YORK ต่างทำอาหารมาหนุนช่วยให้กำลังใจผู้ประท้วง ภาพเหล่านี้ไม่ใช่มีเฉพาะในกรุงเทพฯ อีกแล้ว แต่เกิดขึ้นทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะรัฐที่มีชุมชนคนไทยหนาแน่น ! 3 วันที่เมืองไทยตกอยู่ในสภาพกลียุค

3 วันที่กลุ่มนักเรียนไทยทำงานผลักดันให้ต่างประเทศให้รัฐบาลหยุดเข่นฆ่าประชาชน

3 วันที่นักเรียนไทยขาดเรียน อาจารย์ในชั้นถามว่าเกิดขึ้นทำไมไม่มาเรียน เราตอบแกเพียงว่า "ประเทศชาติของข้าพเจ้าเจ็บป่วย"

3 วันที่คนไทยฝันร้ายกับภาพอันโหดร้าย ป่าเถื่อนบริเวณถนนราชดำเนิน

3 วันที่คนไทยในสหรัฐอเมริกาตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า

Don't kill people!

Stop killing Right now!

No more Killing!

No more Dictator!

No more Suchinda!

"วันนี้คนไทยยังไม่ชนะเลย แม่จ๋า"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us