Don't kill people!
Stop killing Right now!
No more Killing!
No more Dictator!
No more Suchinda!
เสียงจากโทรละโข่ง ยังคงก้องดังไปทั่วบริเวณหน้าตึกสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ
ณ กรุงนิวยอร์ก 4 วันของการรณรงค์ชุมนุมอยู่หน้าสหประชาชาติของกลุ่มคนไทย
และนักเรียนไทยเพื่อให้รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกสุจินดา หยุดเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เรียกร้องให้นายกฯ
ลาออกเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม
ภาพของการสังหารหมู่จากเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่กระทำต่อประชาชนบริเวณราชดำเนินยังคงติดตา
ฝังอยู่ในความรู้สึกของคนในต่างประเทศ "มันเป็นความโหดร้าย ป่าเถื่อน
ไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง"
ในคืนที่มีการล้อมปราบอย่างหนักบริเวณราชดำเนินประชาชน ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายอย่างร้ายแรง
แต่ข่าวรายการทีวีในเมืองไทยกลับเสนอรายการบันเทิง คนไทยในต่างจังหวัดของประเทศไทยกลับไม่ทราบข่าวสารว่าเกิดอะไรในกรุงเทพฯ
นี่แสดงว่า "รัฐบาลไทยได้ปกปิดความอัปยศที่เกิดขั้นในกรุงเทพฯ"
ภาพข่าวด่วนรายงานพิเศษจากเมืองไทยกลับเล็ดลอดออกมานอกประเทศ กระจายเสียงแพร่ภาพในสหรัฐอเมริกาสถานีโทรทัศน์เกือบทุกช่องในอเมริกา
รายงานข่าวการล้อมปราบประชาชน เกิดการชุมนุมประท้วงปะทะกันขึ้น ทหารกระหน่ำยิงเข้าใส่ฝูงชนตามท้องถนน
ในความรู้สึกของคนอเมริกันเมื่อเขาเห็นภาพออกอากาศเกี่ยวกับเมืองทยแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"ยิ่งกว่าเหตุการณ์เทียนอันเหมิน"
หนังสือพิมพ์ในอเมริกาหลายฉบับเอาเรื่องราวการปราบปรามประชาชนไทย ขึ้นพาดหัวข่าววางแผงกรอบเช้าตลอดเกือบสัปดาห์
สำหรับคนไทยที่อยู่ในอเมริกา ก็จับกลุ่มสบถกันตามร้านอาหารไทย "มันโหดร้ายผิดมนุษย์"
"ไอ้เหี้ย หัวใจมันทำด้วยอะไรวะ"
คนไทยในอเมริกาแต่ละกลุ่ม แต่ละสมาคม นักศึกษาไทยตามมหาวิทยาลัยในรัฐต่าง
ๆ ก็รวมตัวขึ้นทันทีเพื่อคัดค้านการกระทำของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ ร้านอาหารไทย,
ร้าน grocery ไทย วัดไทย กลายเป็นแหล่งชุมนุมของคนไทยภายในไม่ทันชั่วข้ามคืนที่มีการล้อมปราบบริเวณราชดำเนิน
"ภาพข่าวที่ออกมานอกประเทศเป็นการกระทำอันทารุณโหดร้ายของผู้ถืออาวุธจากกองทัพ"
คนไทยเหล่านี้ เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ทุกคนอัดอั้น กระวนกระวาย สับสน ทำอะไรไม่ถูก
แต่ละคน เมื่อตั้งสติได้ก็โทรศัพท์กลับเมืองไทย
แต่แล้วสายโทรศัพท์ปลายทางในกรุงเทพฯ โทรเข้าไม่ได้
มีอยู่บ้างเหมือนกันสำหรับบางคนที่โทรกลับไปยังต่างจังหวัดกลับได้รับคำตอบจากญาติพี่น้องทางเมืองไทยว่า
"ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น โทรทัศน์ก็ยังเปิดรายการบันเทิงอยู่"
นี่มันเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทยอย่างนั้นหรือ ?
กลุ่มนักเรียนไทยในแต่ละรัฐก็ประสานงานกันขึ้นทุกคนรู้ว่าขณะนี้รัฐบาลใช้วิธีการ
"ปิดประตูตีแมว" "ล้อมปราบผู้ชุมนุม"
ปิดบังข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม แต่ข่าวสารกลับมาเปิดเผยในนอกประเทศ
ศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจของนักศึกษาไทยในอเมริกาก็เริ่มขึ้นในค่ำคืนของการล้อมปราบปรามเช่นกัน
ในแคลิฟอร์เนีย ศูนย์ประสานงานเกิดขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยของนักเรียนไทย
ในลอสแองเจลิส ศูนย์ต่อต้านรัฐบาลไทยก็เกิดขึ้นในวัด ซึ่งภายใต้การนำของกลุ่มนักธุรกิจในอเมริกาใน
New York ศูนย์ประสานงานก็เกิดขึ้นในย่าน ฝั่ง oueena เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ทุกคนไม่เคยนึกฝันกันมาก่อนว่ารัฐบาลจะกระทำรุนแรงถึงขนาดนี้ ในขณะอีกฝ่ายชุมนุมอย่างสงบ
ทุกคนก็ได้แต่นั่งนับเวลาที่ผ่านไปในแต่ละชั่วโมงว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยในต่างจังหวัดรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เล็ดลอดออกมานอกประเทศ
ทุกคนคิดถึงสถานีวิทยุ BBC ภาคภาษาไทยที่กระจายเสียง ณ กรุง LONDON ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล
การส่งข่าวสารจากนักเรียนไทยในอเมริกาก็ผ่านไปยัง BBC
แถลงการณ์จาก THE DEMOCRATIC COALITION IN U.S.A. ออกประกาศว่า
"...ชาวไทยทั้งหลายช่วยกันส่งข่าวสารที่ถูกต้อง เพราะรัฐบาลเปิดหูปิดตาประชาชน
บิดเบือนความจริงได้เข่นฆ่าประชาชนมากมายขอให้พวกเราทุกคนส่งข่าวสารทุกชนิดกลับไปเมืองไทยด่วน
และให้บอกญาติพี่น้องที่อยู่ทางเมืองไทย หันคลื่นวิทยุไปที่ BBC ภาคภาษาไทย"
การรับข่าวสารจากศูนย์ประสานงานของนักเรียนไทยในแคลิฟอร์เนียจะเป็นแม่ข่ายใหญ่
เพราะมีกลุ่มนักเรียนไทยติดตั้งคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสูงขโมยสัญญาณดาวเทียมออกมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลไทยเป็นการเฉพาะ
เพื่อให้หยุดเข่นฆ่าประชาชน
การชุมนุมของคนไทยใน NEW YORK บริเวณหน้าสหประชาชาติยังคงดำเนินอยู่ตลอดที่มีการล้อมปราบเสียงตะโกนผ่านทางโทรโข่ง
เพื่อบอกให้นานาประเทศรับรู้ช่วยหยุดยั้งการลั่นกระสุนใส่ประชาชน
STOP KILLING RIGHT NOW! ธงชาติไทยบริเวณหน้าสหประชาชาติก็ถูกเลื่อนขึ้นมาไว้หัวแถวเพื่อบอกให้นานาประเทศรับรู้ว่าประเทศไทยเกิดปัญหาแล้ว
ในตอนเที่ยง เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติพักตอนกลางวันทุกคนเมื่อเดินผ่านเข้ามายังที่ชุมนุมของนักเรียนไทย
เพื่อมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ฟังข่าวดูโทรทัศน์ เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติบางคนเมื่อเดินจากไปแล้วก็แวะกลับมาอีกพร้อมอาหาร
ขนม มาหนุนช่วย เพื่อบอกเป็นนัยว่า "พวกเขาเป็นกำลังใจให้กับคนไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย"
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติหลายคนเมื่อยื่นอาหารให้นักเรียนไทยที่ชุมนุม ทุกคนก็ได้แต่เงียบ
ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาในขณะที่เดินก้มหน้ากลับไปทำงานยังตึก UN. ดูเหมือนยังมีคำถามค้างคาอยู่ในจิตใจ
"นี่หรือสังคมแห่งพุทธธรรม"
ดอกไม้ประชาธิปไตยบานหลายดอกในอเมริกา กลุ่มองค์กรต่าง ๆ เกิดขึ้นตามสถานการณ์
เพื่อคัดค้านการปราบปรามประชาชน บางกลุ่มยื่นจดหมายผ่านไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ให้ช่วยยับยั้งรัฐบาลไทยให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่านี้
กลุ่มคนไทยนักธุรกิจในลอสแองเจอลิส ลงมติกันในบริวัดไทยขับไล่นายสุจินดามีข้อความจากลุ่ม
THAI DEMOCRATIC COALITION IN U.S.A. ออกแถลงการณ์กล่าวว่า
"...อาชญากรรมที่พลเอกสุจินดา คราประยูรและคณะได้ก่อขึ้นไว้เฉพาะที่สั่งให้ทหารและตำรวจออกปราบปรามประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยจนล้มตายจำนวนมาก
บางชมรมจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้มีการดำเนินการตามกฎหมายของบ้านเมืองต่อไป
รวมทั้งจะร้องขอต่อบรรดามิตรประเทศมิให้ออกวีซ่า เข้าประเทศให้กับ พล.อ.
สุจินดา และคณะ ให้ถือว่าเป็นฆาตรกร และเป็น PRESONNA NON GRATA หรือบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของทุกอารยประเทศ..."
มีแถลงการณ์ยังรัฐบาลไทยให้ตอบคำถามของพวกเขา
"..ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ตายไปจำนวนเท่าไร?
เราทราบดีจากข่าวที่แพร่ภาพเล็ดลอดออกมานอกประเทศ
เขาผู้เสียชีวิตเหล่านี้ทหารไทยไม่ได้ฆ่าเขาใช่ไหม?
ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกมา ทหารเอารถยีเอ็มซีขนซากศพไปทำลาย ใช้ทหารไทยหรือไม่
?
ทหารที่ดึงสายน้ำเกลือจากผู้บาดเจ็บ และทำร้ายซ้ำไม่ใช่ทหารไทยทำใช่หรือไม่
?
เราลูกหลานไทยในอเมริกา เรายังสับสนกับผู้ถืออาวุธว่าเขาเหล่านี้เป็นทหารที่เล็ดลอดมาจาก
ลาว, เขมร, พม่า หรืออย่างไร?.."
การชุมนุมของนักเรียนไทยหน้าสหประชาชาติ มีกลุ่มคนไทยที่เปิดร้านอาหารใน
NEW YORK ต่างทำอาหารมาหนุนช่วยให้กำลังใจผู้ประท้วง ภาพเหล่านี้ไม่ใช่มีเฉพาะในกรุงเทพฯ
อีกแล้ว แต่เกิดขึ้นทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะรัฐที่มีชุมชนคนไทยหนาแน่น
! 3 วันที่เมืองไทยตกอยู่ในสภาพกลียุค
3 วันที่กลุ่มนักเรียนไทยทำงานผลักดันให้ต่างประเทศให้รัฐบาลหยุดเข่นฆ่าประชาชน
3 วันที่นักเรียนไทยขาดเรียน อาจารย์ในชั้นถามว่าเกิดขึ้นทำไมไม่มาเรียน
เราตอบแกเพียงว่า "ประเทศชาติของข้าพเจ้าเจ็บป่วย"
3 วันที่คนไทยฝันร้ายกับภาพอันโหดร้าย ป่าเถื่อนบริเวณถนนราชดำเนิน
3 วันที่คนไทยในสหรัฐอเมริกาตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า
Don't kill people!
Stop killing Right now!
No more Killing!
No more Dictator!
No more Suchinda!
"วันนี้คนไทยยังไม่ชนะเลย แม่จ๋า"