Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์11 กุมภาพันธ์ 2551
"พรานทะเล" เปิดเกม เหวี่ยงแหตามกระแสสุขภาพสกัดคู่แข่งบุกหนัก "อาหารแช่แข็งพร้อมทาน"             
 


   
www resources

โฮมเพจ พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง

   
search resources

พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง, บจก.
Frozen food




นับว่าตัวเลขยอดขายของพรานทะแลที่มีการเติบโตมาตลอดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นการประกาศชัยชนะในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคได้สำเร็จ โดยความนิยมที่ผู้บริโภคได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมารับประทานอาหารทะเลแช่แข็งเพิ่มมากขึ้น ด้วยตำแหน่งสินค้าสอดคล้องกับยุคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว สะอาด และปลอดภัย ที่สำคัญคือการตอกย้ำทางด้านคุณค่าของอาหารทะเลซึ่งตอบสนองกับกระแสรักษ์สุขภาพที่กำลังมาแรง โดยผลประกอบการในปีที่ผ่านมา มียอดขาย 1,000 ล้านบาท เติบโต 25% ส่วนผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 1,200 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 20%

ในปัจจุบันโจทย์การทำตลาดของ"พรานทะเล" ในการบุกเบิกอาหารแช่แข็งพร้อมปรุง (Ready to Cook) และอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) ได้เปลี่ยนไปจากในระยะแรก จากเดิมที่การวางกลยุทธ์สร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภค จะวางเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนทัศนคติการรับประทานอาหารทะเลสดของผู้บริโภคให้เกิดการยอมรับและเปิดใจรับอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมรับประทานและพร้อมปรุง ให้เข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรับประทานอาหาร ด้วยจุดขายที่ยังคงความสด และมีเรื่องสะดวกรวดเร็วตรงตามความต้องการของผู้บริโภค

ความพยายามจุดแรก ในช่วงสร้างแบรนด์ที่เริ่มต้นจากการโหมภาพยนตร์โฆษณา ผ่านสื่อโทรทัศน์ในช่วงแรก เพื่อเปลี่ยนทัศนคติและสร้างพฤติกรรมใหม่ ด้วยสโลแกนที่ว่า "ทางเลือกสดใหม่จากทะเล" และเมื่อกลางปี 2550 พรานทะเล มีการปรับเปลี่ยนสโลแกนใหม่ คือ "พรานทะเลอาหารทะเลเพื่อสุขภาพ" ทั้งนี้เพื่อให้ภาพของแบรนด์พรานทะเล มีความชัดเจนในตำแหน่ง "เพื่อสุขภาพ"โดยเป็นสินค้าอาหารแช่แข็งพร้อมทานรวมถึงกลุ่มอื่นๆ

ผนวกกับกลยุทธ์ทางด้านผลิตภัณฑ์ ที่มีการออกเมนูอาหารทะเลแช่แข็งเมนูใหม่ๆที่หลากหลาย และสอดคล้องกับรูปแบบวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทย เช่น ข้าวเหนียวเนื้อปลาปรุงรส ขนมจีนซีฟูดพรานทะเล หรือการมองหาช่องว่างเพื่อบุกตลาดใหม่ ซึ่งมีทั้งตลาดอาหารเช้า และล่าสุดการขยายฐานเข้าไปจับตลาดอาหารญี่ปุ่นที่มาแรง ด้วยการเปิดตัวซูชิพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ 'I LOVE SUSHI by Prantalay" เน้นชูจุดขายเป็นฉบับต้นตำรับรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ จับกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางถึงบน และกระจายสินค้าผ่าน 2 ช่องทางคือ โมเดิร์นเทรดและแบบดิลิเวอรี่เป็นหลัก

ดังนั้น เมื่อพรานทะเล ซึ่งเป็นผู้เล่นรายแรกที่ลงมาทำตลาดอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานอย่างจริงจัง ด้วยจุดแข็งอาหารทะเลพร้อมทานรายแรก ส่งผลทำให้ตลาดรวมขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ซึ่งเป็นเพราะว่าที่ผ่านมามีผู้เล่นทั้งรายเก่า และรายใหม่กระโดดเข้ามาร่วมวงแบ่งเค้กในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานกันอย่างมากมาย และทำให้ตลาดนี้โตวันโตคืน ซึ่งมีคู่แข่งที่สามารถยึดตู้แช่ในแต่ละช่องทางการขายที่ต่างกันเพียงไม่กี่ค่าย ซึ่งก็ทำให้มีตัวเลขการครองส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกันและเป็นทอปทรีสลับกันไปมากับพรานทะเลคือ "เอสแอนด์พี"ที่มีชั่วโมงบินสูงในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมทานมาตั้งแต่ยุคก่อนพรานทะเลจะแจ้งเกิด รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านความเชื่อถือของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มาเป็นระยะเวลานาน และ "ซีพี" มีเมนูเนื้อไก่ที่หลากหลาย และแต้มต่อด้านช่องทางวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาเป็นจุดแข็งที่สำคัญอีกด้วย

ที่ผ่านมาแม้จะเห็นการเคลื่อนไหวของแต่ละแบรนด์ที่ทำตลาดแบบผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังโค่นกันไม่ลง ยิ่งกว่านั้นการเข้ามาของเฮาส์แบรนด์ ที่เปิดตัวด้วยกลยุทธ์ราคาเป็นตัวนำตลาด ซึ่งทำให้ตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานเข้าสู่ยุคสงครามราคา ที่รุนแรงเห็นจะเป็นการเปิดศึกช่วงชิงลูกค้ากันดัวยกลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 อย่างไรก็ตามการแก้เกมของบรรดาทอปทรีออกมาในรูปแบบของการออกไฟติ้งแบรนด์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าราคาพิเศษ

ที่สำคัญคือ กลยุทธ์การออกเมนูใหม่ๆมาทำตลาดอย่างต่อเนื่องนั้น อนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า โอกาสที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าอาหารแช่แข็งพร้อมทานมีการเปลี่ยนแบรนด์มีค่อนข้างมาก และมีอายุวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์สั้นมาก โดยเรียงลำดับความสำคัญที่เป็นปัจจัยทำให้เปลี่ยนคือ 1.รสชาติ 2.เมนู และเหตุผลดังกล่าวทำให้การทำตลาดอาหารพร้อมทานต้องเปลี่ยนเมนูใหม่ๆเข้าสู่ตลาดตลอดเวลา

จุดเปลี่ยนของอาหารแช่แข็งพร้อมทานที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ตลอดจนอุณหภูมิการแข่งขันที่สูงขึ้นส่งผลทำให้นโยบายและกลยุทธ์การตลาดในปี 2551ของพรานทะเลมุ่งเน้นไปในรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างความชัดเจนและแตกต่างกับแบรนด์คู่แข่ง อีกทั้งเพื่อรักษาลูกค้าเดิมและขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ในอนาคต ซึ่งอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Healthy with Innovation" นวัตกรรมอาหารทะเลเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับทิศทางการบริโภคอาหารของผู้บริโภคในปัจจุบัน

การเปิดแนวรุกตลาดอาหารแช่แข็งในรูปแบบใหม่ของ พรานทะเล จะใช้วิธีการสร้างเซกเมนต์อาหารทะเลแช่แข็งที่แบ่งตามกรุ๊ปเลือด และเน้นการ Educate ให้ผู้บริโภครับรู้ถึงคุณค่าทางโภชนาการ (Nutrition Fact) ของผลิตภัณฑ์ ที่ร่างกายจะได้รับในการบริโภคต่อครั้ง อาทิ แคลเซียมสูง คอเลสเตอรอลต่ำ โดยสื่อสารผ่านฉลากบนกล่องบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งวางแผนออกแบบแพกเกจจิ้งในรูปแบบใหม่ ที่เน้นใช้วัสดุแบบชีวภาพเป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งสามารถเก็บรักษาอาหารได้นานถึง 2 ปี

นอกจากนั้นการทำตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ "Healthy with Innovation" นวัตกรรมอาหารทะเลเพื่อสุขภาพ จะมีการออกสินค้าใหม่ทั้ง 3 กลุ่มคือ

หนึ่ง อาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยภาพรวมในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมปรุงนั้น ที่ผ่านมาบรรดาคู่แข่งที่มาจากกลุ่มอาหารสดมีการปรับเป้าหมายเข้ามาร่วมแบ่งเค้กในตลาดนี้กันมาก เห็นได้ว่าในช่วง 2 ปีหลัง ทุกค่ายที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่กล่าวมามีการเคลื่อนไหวเข้ามาเล่นในตลาดนี้ โดยเฉพาะสินค้าเฮาส์แบรนด์ในตลาดโมเดิร์นเทรด อย่างไรก็ตาม คาดว่าการแข่งขันในตลาดนี้จะไม่รุนแรงนัก เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มแม่บ้าน พ่อบ้านยุคใหม่ จะค่อนข้างมีแบรนด์ลอยัลตี้กับสินค้า ส่วนในปี 2550 มูลค่าตลาดรวมหมวดอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุง 450 ล้านบาท โดยพรานทะเลมียอดขาย 320 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71.11% ของมูลค่าตลาดรวม

สอง อาหารทะเลแช่แข็งพร้อมรับประทาน มีการออกเมนูใหม่ ทั้งสปาเกตตี ไส้กรอกอีสาน อูด้ง ขนมจีนน้ำยา โดยทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดนี้ในปีที่แล้ว พบว่า มีการแข่งขันที่สูงมากเนื่องมาจากการเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องของคู่แข่งที่มองเห็นช่องว่างในตลาด ซึ่งผู้บริโภคสินค้าในกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะสนใจเรื่องความหลากหลายและความแตกต่างของเมนู รวมไปถึงรสชาติของอาหารเป็นสำคัญ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความแตกต่างที่ทางพรานทะเลสามารถชูความเป็นหนึ่งในหมวดสินค้านี้ได้ เพราะสามารถออกสินค้าได้ครบตามความต้องการและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ในไตรมาสแรกวางแผนเปิดตัวอาหารสำหรับกรุ๊ปเลือดต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความแตกต่างรองรับการแข่งขันที่รุนแรงของคู่แข่งที่งัดกลยุทธ์ราคาขึ้นมาใช้ และมีสินค้าให้เลือกหลากหลายถึง 16 แบรนด์ โดยจะเปิดตัวเมนูใหม่ 20 เมนู สำหรับในปี 2550 พรานทะเลสามารถทำยอดขายในตลาดนี้ได้กว่า 330 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.25% ของมูลค่าตลาดรวม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท

สาม บุกเบิกตลาดซูชิ ที่เพิ่งเปิดตัวในปลายปีที่ผ่านมา ภายใต้แบรนด์ 'I LOVE SUSHI by Prantalay" ให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ด้วยเมนูในรูปแบบฟิวชั่น หรือพัฒนาเป็นอาหารประจำแต่ละภาคของประเทศไทย รวมทั้งเน้นการขยายฐานการบริโภคเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรด และแบบดิลิเวอรี่ ทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นที่อยู่ในย่านสุขุมวิท ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20% เนื่องจากเป็นซูชิในระดับพรีเมียม ใช้วัตถุดิบเกรด A และควบคุมการผลิตให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานการบริโภคของชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยในปี 51 คาดว่าธุรกิจนี้น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% จากปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดของอาหารซูชิในภัตตาคาร มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในโมเดิร์นเทรดประมาณ 500-600 ล้านบาท ส่วนพรานทะเลมียอดขายของสินค้ากลุ่มนี้ในปีที่ผ่านมา 350 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.64% ของมูลค่าตลาดรวมในช่องทางโมเดิร์นเทรด

อนุรัตน์ กล่าวอีกว่า ตลาดอาหารแช่แข็งต้องซอยเซกเมนต์ให้มากขึ้น หลังจากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเป็นบลูโอเชี่ยน แต่ขณะนี้เริ่มเป็นเรด โอเชี่ยน ที่สำคัญอาหารทะเลแช่แข็งจะต้องมีจุดขายมากกว่าความอร่อย หรือดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และนั่นเป็นที่มาของการปรับรูปแบบการทำตลาดสำหรับการให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้บริโภค นอกจากนี้บริษัทได้ทุ่มงบร่วม 130 ล้านบาท แบ่งเป็น 100 ล้านบาท สำหรับงบลงทุนเครื่องจักรและการขยายช่องทางจำหน่ายซึ่งจะขยายเพิ่มจาก 6,500 แห่ง เป็น 7,500 แห่ง

"ส่วนงบการตลาดได้ตั้งงบประมาณไว้ 30 ล้านบาท เน้นสื่อสารการตลาด ทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ตอกย้ำการรับรู้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Event) การส่งข้อมูลต่างๆ (Direct Marketing) ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตเพื่อมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ซึ่งจะเริ่มในเดือนเมษายนนี้ โดยจัดกิจกรรมการตลาดให้ลูกค้าสะสมยอดแลกของรางวัล

นอกจากนี้การขยายตัวของช่องทางการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของโมเดิร์นเทรดต่างๆ ที่สอดคล้องกับชีวิตของผู้บริโภคสมัยใหม่ทั้งเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 10-20% ซึ่งมีผลทำให้ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "พรานทะเล" ทั้งในรูปแบบพร้อมปรุงและพร้อมทานแบบแช่แข็งและชิลล์ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 6,500 จุด แบ่งเป็นร้านค้าเล็กในแหล่งชุมชนต่างๆ 6,000 จุด ส่วนที่เหลือเป็นจุดจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด คอนวีเนียนสโตร์ และมินิมาร์ท ส่วนในปีนี้วางแผนจะเพิ่มจุดจำหน่ายเป็น 7,500 จุด โดยเฉพาะ บริเวณพื้นที่ด้านหน้าของซูเปอร์มาร์เกต (Super out) เป็นสินค้าพร้อมรับประทาน ได้แก่ ไส้กรอก ลูกชิ้นแบบทอด และซูชิ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเพิ่มยอดขายได้อีกบริเวณหนึ่ง จากจุดจำหน่ายเดิมซึ่งเป็นตู้แช่ภายในโมเดิร์นเทรดที่มีอยู่ 300 จุด "   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us