|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
“กลุ่มเจ้าฟ้า การ์เด้น โฮม”เดินหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต วางแผนผุดทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมและสนามกอล์ฟอีกหลายพันล้านบาท รองรับการเติบโตธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ต หลังขายเกลี้ยงเกือบทุกโครงการ พร้อมขึ้นโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว “ลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา”อีก 200 ห้อง เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท
นายเกษม ศรีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด เจ้าของโครงการ ลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา และโครงการเจ้าฟ้าการ์เด้น โฮม กล่าวถึงการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในกลุ่มในปีนี้ว่า สำหรับปีนี้จะลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของโครงการลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่าแบ่งขาย พร้อมสาธารณูปโภค ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับสามแยกบางคู สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม และได้เปิดตัวมาระยะหนึ่งแล้ว จากจำนวนที่ดินเปล่าแบ่งขายในโครงการที่มีจำนวน 92 ยูนิต
ขณะนี้มียอดการจำหน่ายไปแล้วประมาณ 30-40 % โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจคนไทยทั้งที่อยู่ในภูเก็ตและกรุงเทพมหานคร และได้มีการก่อสร้างไปบ้างแล้วประมาณ 3-4 ยูนิต นอกจากนี้ก็ยังมีการดำเนินการในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และคลับเฮาส์ไปมากพอสมควร คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมียอดขายประมาณ 70-80% ทั้งนี้ ที่ดินมีมูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท
ผุดโรงแรมอีก200ห้องกว่า800 ล้าน
นอกจากการ แบ่งที่ดินเปล่าจำหน่ายแล้วในโครงการลีลาวดีฯ ได้กันที่ดินไว้จำนวน 4 ยูนิต เพื่อที่จะพัฒนาเป็นโรงแรม “ลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา” เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 200 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถจุผู้ร่วมประชุมได้ ประมาณ 1,000 คน ใช้เงินลงทุนประมาณ 800 – 900 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้แบบการก่อสร้างแล้วเสร็จและผ่านความเห็นชอบแล้วด้วย รวมทั้งได้เชนในการบริหารโรงแรมแล้วเช่นกัน คาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ภายในปีนี้ และจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ประมาณภายในปี 2552
นายเกษม ยังกล่าวถึงการลงทุนโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้ชื่อโครงการ “เจ้าฟ้า การ์เด้น โฮม” ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท วินโปร เอ็นจิเนียร์ จำกัด ซึ่งที่ได้ดำเนินการเสร็จและปิดการขายไปแล้ว ได้แก่ โครงการเจ้าฟ้า การ์เด้น โฮม 1-2 ที่บ้านนาบอน ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต มี 700-800 ยูนิต และโครงการเจ้าฟ้า การ์เด้น โฮม (วังถลาง) บนเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ มีบ้านในโครงการประมาณ 300 หลัง มีมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ปิดการขายไปแล้วเช่นกัน
โครงการเจ้าฟ้า การ์เด้น โฮม 3 (เกาะแก้ว) อยู่ระหว่างดำเนินการ บนเนื้อที่ 206 ไร่ จำนวน 700 ยูนิต แบ่งเป็น บ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท บ้านเดี่ยวชั้นเดียวและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2.7 – 2.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 2,800 ล้านบาท มียอดขายไปแล้วประมาณ 50% ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดภายในปีนี้
เตรียมขึ้นคอนโดฯที่ภูเก็ต-กทม.
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนคอนโดมิเนียม บนเนื้อที่ 7 ไร่ ใกล้กับสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (สวนหลวง) แบ่งเป็น 2 ตึก ตึกละ 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาทเศษ มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจจากส่วนกลางที่เข้ามาลงทุนในภูเก็ต คนไทย และชาวต่างชาติ
ในขณะเดียวกันมีโครงการลงทุนคอนโดมิเนียม ตรงกันข้ามกับแอร์พอร์ตลิงก์ ดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ซื้อที่ดินไว้แล้ว โดยโครงการนี้จะเน้นลูกค้านักธุรกิจในภูเก็ตและคนภูเก็ตที่ต้องการมีคอนโดฯที่กรุงเทพฯ
ร่วมทุนสแกนฯผุดสนามกอล์ฟ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา กล่าวถึงแผนการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไปว่า ล่าสุดกลุ่มได้ร่วมลงทุนกับกลุ่มนักลงทุนจากสแกนดิเนเวียน พัฒนาที่ดิน 1,000 ไร่ ที่ต.โคกกลอย อ.ท้ายเหมือง ใกล้ๆกับโรงแรมดุสิตฮอทสปริง เป็นสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม พร้อมคอนโดมิเนียม วิลลา และสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร มูลค่าโครงการยังไม่สรุปแต่คาดว่าหลายพันล้านบาท คาดว่าจะลงมือก่อสร้างส่วนต่างๆได้ประมาณปลายปี 2551 นี้ และประมาณการไว้ว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปี 2553-ต้นปี 2554
สำหรับการลงทุนของบริษัทในเครือเจ้าฟ้า การ์เด้น โฮม ในปัจจุบันมีทั้งหมด 7 บริษัท และมีมูลค่าโครงการที่ลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และที่กำลังจะลงทุนอีกหลายโครงการ
มั่นใจอสังหาฯภูเก็ตโตอีกเยอะ
นายเกษม กล่าวถึงแนวโน้มการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต กล่าวว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังเติบโตอีกมาก แต่หากเป็นนักธุรกิจที่มาเริ่มต้นใหม่ และไม่ใช่มืออาชีพ อาจจะประสบปัญหาการควบคุมของทางราชการในอนาคตที่จะนำระบบ Ascots Account มาใช้ ซึ่งต่อไปเจ้าของโครงการไม่สามารถเอาเงินของลูกค้ามาใช้ได้ ต้องลงทุนด้วยเงินของตัวเอง เช่น ลูกค้าซื้ออาคารเงินขายได้จะนำเข้าฝากไว้ที่ธนาคาร หมายถึงว่า เจ้าของโครงการไม่สามารถเบิกที่ลูกค้าดาวน์บ้านมาใช้ได้ จนกว่าจะโอนบ้านให้ลูกค้าเสร็จทั้งหมด คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต่างๆล้มและเอาเงินลูกค้าไปแล้ว ทางราชการจึงจำเป็นต้องเข้ามาดูแลและถือว่าเป็นระบบที่ดี โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน่วยงานที่เสนอเรื่องนี้ และผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว
สำหรับตลาดที่เติบโตค่อนข้างสูงในภูเก็ตจะเป็นบ้านระดับกลางและล่างราคาประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท ไม่เกิน 3 ล้านบาท เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีคนต่างจังหวัดย้ายเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก เมื่อเข้ามาทำงานระยะหนึ่งก็ต้องการบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และคาดว่าในอนาคตราคาบ้านในภูเก็ตจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อจำกัดทั้งในเรื่องของกฎหมายสิ่งแวดล้อม และ ต้นทุนต่างๆที่เพิ่มสูงกว่าที่อื่น และต้นทุนเรื่องที่ดินในอนาคต
นายเกษม ยังกล่าวถึงตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตว่า จากข้อจำกัดเรื่องราคาที่ดินที่สูงในภูเก็ต จะทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในเรื่องของคอนโดมิเนียมมากขึ้น รวมทั้งไลฟ์สไตล์ที่เริ่มเปลี่ยนไป
|
|
 |
|
|