Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กุมภาพันธ์ 2551
เกียรตินาคินตั้งเป้าเช่าซื้อโต35%ฟุ้งดัน"มาเก็ตแชร์"ติดอันดับ1ใน3             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารเกียรตินาคิน

   
search resources

ธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล
ธนาคารเกียรตินาคิน
Leasing




ธนาคารเกียรตินาคินวาดแผนขยายสินทรัพย์แตะแสนล้าน ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมเป็น 50% ส่วนสินเชื่อรวมขยายตัว 30% โดยมีสินเชื่อเช่าซื้อเป็นแกนนำเหมือนเดิม ยันแม้ยอดซื้อรถใหม่จะหด แต่สินเชื่อยังโตได้ พร้อมลดหนี้จัดชั้นเหลือ 8% เน้นบริหารเองเพราะไม่มีนโยบายขายออก ระบุปีนี้เตรียมออกหุ้นกู้อีก 2 รอบหรือประมาณ 6,000 ล้านบาท

นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KK เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายจะเพิ่มขนาดสินทรัพย์เป็น 100,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 88,000 ล้านบาท และมุ่งเน้นเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมเป็น 50% อีกทั้งจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา เป็น 37 สาขา โดยเป็นสาขาต่างจังหวัดจำนวน 8 แห่งอีก 2 แห่งเป็นสาขากรุงเทพและปริมณฑล

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมไว้ที่ 30% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 ล้านบาท จากสิ้นปีที่แล้วมียอดสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 65,084 ล้านบาท โดยสินเชื่อเช่าซื้อยังเป็นธุรกิจหลักของธนาคารที่ตั้งเป้าขยายตัว 35% หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท จากยอดสินเชื่อเช่าซื้อรวม 42,200 ล้านบาท

โดยกลยุทธ์และแผนงานทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อนั้น ธนาคารจะทำการเพิ่มช่องทางการให้บริการตลอดจนพัฒนาระบบต่างๆ เช่น การจัดทำศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อกระจายข่าวสารที่สำคัญในการทำธุรกิจ และให้การสนับสนุนด้านต่างๆกับคู่ค้า เพื่อให้คู่ค้าสามารถทำธุรกิจได้ดีขึ้น ตลอดจนนำระบบ HP Approval Online และการอนุมัติสินเชื่อฉับไว 30 นาที รวมทั้งมุ่งเน้นทำ Event Marketing ด้วยการเข้าร่วมงานใหญ่ๆ ระดับประเทศ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ในด้านสินเชื่อส่วนบุคคลและการประกันภัย ซึ่งล่าสุดได้จัดทำโครงการ "KK Car Shied PLUS"

"ในปีนี้คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อได้เดือนละ 3,000 ล้านบาท แต่เดือนธันวาคมอาจจะขยับมาเป็น 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปล่อยให้กับรถมือสองและรถใหม่ในสัดส่วน 50 ต่อ 50 ในปีที่ผ่านมาแม้ว่าตลาดรถใหม่จะติดลบ 6-7% แต่ยอดสินเชื่อเช่าซื้อโตขึ้น 40% และหากยอดสินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ธนาคารตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ 1 ใน 3 ของธุรกิจเช่าซื้อ" นายธวัชไชยกล่าว

นายธวัชไชย กล่าวว่า ในส่วนของการขยายสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคาดว่าจะยังคงไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะยังคงอยู่ที่ 15,200 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากดูจากความห่างของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แล้วทำให้เชื่อว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นช่วงขาลง ทำให้ทางการไทยมีความกดดันที่จะต้องทำการพิจารณาถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ เพราะหากมีการปรับลดลงมากไปก็จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นได้

ลดหนี้เน่าเหลือ8%

สำหรับหนี้จัดชั้น(Gross Classified Loan)ของธนาคารปัจจุบันอยู่ที่ 12.4% และในปีนี้มีแผนที่ลดให้เหลือ 8% แต่หากหักกันสำรองแล้วหนี้จัดชั้นสุทธิปัจจุบันจะอยู่ที่ 9.17% และจะลดเหลือประมาณ 5% โดยแนวทางในการจัดการหนี้จัดชั้นนั้นธนาคารจะเน้นการแก้ไขปัญหาของลูกค้าเอง โดยจะไม่มีนโยบายขายออกเพราะธนาคารมีประสบการณ์ในการแก้ไข

นอกจากนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายขายสินทรัพย์รอการขาย 3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันซึ่งมีอยู่ 6,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะเร่งทำการตลาดมากขึ้น ทั้งการร่วมกับสมาคมทรัพย์สินรอการขายในการจำหน่ายทรัพย์ แต่หากคุณภาพดีมีขนาดใหญ่ธนาคารจะเปิดประมูลแบบพิเศษขึ้นมาเอง

สำหรับแนวโน้มการหาพันธมิตรต่างชาติของธนาคารพาณิชย์ไทยในปัจจุบันว่า หากมองในด้านความจำเป็นทางธุรกิจที่จะต้องมีพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งนั้น ธนาคารยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องดังกล่าว ในขณะที่ด้านเงินทุนยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.4% อีกทั้งธนาคารยังเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กจึงยังไม่เป็นที่หมายปองของพันธมิตรต่างชาติ

เล็งออกหุ้นกู้อีก6พันล.ขยายสินเชื่อ

ด้านนางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า การที่ไม่มีพันธมิตรเข้ามาถือหุ้นแต่ก็ไม่ได้กระทบต่อการทำธุรกิจของธนาคาร โดยปัจจุบันธนาคารยังคงทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย เช่น AIA และ ING แต่ไม่ใช่ในรูปแบบของการเข้ามาถือหุ้น

ส่วนแนวทางการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารนั้นตัวหลักจะมาจากการขายกองทุนรวม และจะมาจากส่วนที่ธนาคารได้ขยายการให้บริการในเดือนพ.ค. ที่จะมีการใช้ ATM POOL เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และในไตรมาสที่ 3 จะเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง

ด้านนายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ปีนี้ธนาคารมีแผนจะออกหุ้นกู้อีก 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท โดยจะแบ่งออกขายในครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังรวมประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ประมาณ 2-4 ปี ทั้งนี้ เพื่อที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายสินเชื่อและปรับโครงสร้างเงินฝาก

อีกทั้ง ในปีนี้ธนาคารคาดว่าจะสามารถรักษารายได้จากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ให้อยู่ที่ 4.1% เท่ากับปีก่อนหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำได้เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยในปีนี้เป็นขาลง จะทำให้ต้นทุนเงินฝากของธนาคารไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารส่วนใหญ่จะเป็นดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว ดังนั้นแม้ดอกเบี้ยจะเป็นขาลงแต่ธนาคารก็ยังสามารถคิดดอกเบี้ยเงินกู้กับลูกค้าได้ในอัตราที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us