ในวัย 54 ปีของชายที่เกิดราษีเมษปีม้าอย่างหม่อมตรีนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงซึ่งเน้นทางด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม
และคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ไทยๆ มากคนหนึ่ง
รวมทั้งเป็นนักพัฒนาที่ดินรายหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
ช่วงเวลาที่ธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยบูมเต็มที่เขาก็เป็นผู้หนึ่ง
ที่จุดสีสรรให้เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วยการสร้างโครงการ คลับเมดที่หาดกะตะ
โดยการร่วมทุนกับคลับเมดประเทศฝรั่งเศส เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามา
พร้อมๆ กันนั้นก็เข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มนักพัฒนาที่ดินชาวสิงคโปร์ตั้งบริษัทโมเบลกส์
ยูไอซี ทำโครงการภูเก็ตยอช์ทคลับ และโครงการเลอเมอริเดียน โรงแรมชั้นหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต
และได้นำโครงการภูเก็ตยอช์ทคลับเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายปี 2532
บริษัทโมเบลกส์ ยูไอซี ถูกขายให้กับวินัย พงศธร แห่งเฟิร์สท์ แปซิฟิคแลนด์
จำกัด(มหาชน)เมื่อประมาณ 2
ปีที่ผ่านมาโดยหม่อมตรีให้เหตุผลในการขายว่ามันได้กำไรดี และในสถานการณ์โรงแรมที่มีการแข่งขันสูงนั้นตนไม่ถนัดกับงานบริหารนัก
ส่วนวินัยก็ตัดสินใจซื้อเพราะว่าต้องการขยายงานทางด้านรีสอร์ทและโรงแรมอยู่แล้ว
และลึกๆ ลงไปกว่านั้นก็คือวินัยซื้อก็เพื่อที่จะเอาเฟิร์สท์ฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธีการแบ๊กดอร์ลิสติ้ง
และเขาก็ทำได้สำเร็จ
ส่วนบริษัทตรีทศ ที่เป็นของตนเองหม่อมตรีก็ยังมีโครงการพัฒนาที่ดินอีกหลายโครงการเช่น
โบ๊ทเฮ้าส์ อินแอนด์ เรสเตอรอง ที่ภูเก็ต โรงแรมบ้านโบราณที่เชียงราย
แต่ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขาอย่างมากๆ ก็คือการทำโครงการตรีทศซิตี้มารีน่าคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
3 หลังบนถนนเจริญนครเมื่อปี 2532 เพราะได้เป็นการจุดประกายให้เกิดโครงการอื่นๆตามมาอย่างมากมาย
ข่าวคราวของหม่อมตรีทางด้านพัฒนาที่ดินโครงการใหม่ๆหยุดไปพักใหญ่ มีแต่ข่าวการขายโครงการที่ภูเก็ต
ช่วงรอยต่อตรงนี้หม่อมตรีบอกว่า
"ธุรกิจที่ดินในช่วงนั้นไม่ค่อยน่าลงทุน ประกอบกับผมแต่งงาน เลยอยากให้เวลากับครอบครัวให้มากที่สุด
เมื่อมีลูกก็ต้องมาพักอยู่ที่ตึกตรีทศซิตี้ เพราะลูกเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ"
หทัยทิพย์ คือภรรยาหม่อมตรีผู้หญิงวัย 35 ปีที่โชคดีคนนั้นเธอเป็นสถาปนิกสาวมาดเท่
ที่ทำให้หม่อมตรีซึ่งเคยกล่าวว่า
"ชีวิตครอบครัวของผู้ชายวัย 40 กว่าปีอย่างผมคงสายไปเสียแล้ว"
ต้องเปลี่ยนใจ
ทุกวันนี้เธอเป็นกรรมการในบริษัทโมเบลกส์ที่ยังรับงานทางด้านการออกแบบ
วิธีการมาทำงานของเธอยิ่งเท่มากกว่า เพราะใช้วิธีขี่จักรยานจากตึกตรีทศหลังที่ติดแม่น้ำมายังตึกตรีทศหลังที่ติดถนนเจริญนครโดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง
5 นาที
การกลับคืนสู่สนามเรียลเอสเตทครั้งใหม่ทำให้สรุปได้เช่นกันว่าในวันนี้ประกายไฟในการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
ให้เกิดขึ้นในวงการของหม่อมตรียังไม่ยอมมอดดับลงง่ายๆ
เวลาในการสัมผัสกับสายลมแสงแดดริมทะเลพร้อมๆกับจิบไวน์รสดีจากฝรั่งเศสพร้อมๆกับทานอาหารทะเลคงน้อยลง
แต่ขอเพิ่มอีกนิดเถอะว่าในขณะที่บิดาจิบไวน์ขวดเป็นพันเป็นหมื่นบาท วันนั้น
"ผู้จัดการรายเดือน" แอบได้ยิน "น้องเต้" เด็กชายตรีเทพ
ทศยุทธ เทวกุลวัย 3 ขวบโทรสั่งอาหารว่า
"มื้อกลางวันนี้เต้จะทานสปาเก็ตตี้เอาแต่เส้นนะอย่างอื่นไม่เอา"
ประหยัดอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้