Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2551








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2551
ข้อความสั้นพันล้านบาทต่อปี             
 

 
Charts & Figures

สัดส่วนรายได้ของ sms และ mms เทียบกับรายได้รวมทั้งหมดจากค่ายเอไอเอส


   
www resources

AIS Homepage
โฮมเพจ DTAC

   
search resources

แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น, บมจ.
SMS
MMS




แม้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะขยันเปิดตัวบริการเสริมแปลกใหม่เพื่อหวังใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง หรือเพื่อใช้เป็นข้ออ้างบอกว่าเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาฐานลูกค้าเอาไว้กับตนเองมากมายแค่ไหน

แต่ท้ายที่สุดแล้ว บริการเสริมดั้งเดิมซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่างการส่งข้อความสั้น หรือ sms และการส่งภาพพร้อมเสียง แบบมัลติมีเดียอย่าง mms ซึ่งเป็นบริการเสริมในยุคต่อจาก sms ก็ยังเป็นบริการเสริมดาวเด่นทั้งในหัวใจของลูกค้าและผู้ให้บริการเครือข่ายอยู่เสมอ

เมื่อดูจากสถิติของการส่ง sms และ mms ของค่ายโทรศัพท์มือถือเบอร์ 1 และเบอร์ 2 อย่างเอไอเอสและดีแทค ซึ่งมีฐานลูกค้ารวมกันแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดโทรศัพท์มือถือทั้งหมดของประเทศไทยก็พบว่า ตัวเลขการส่ง sms และ mms ของทั้งสองค่ายสะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า บริการทั้งสองที่ว่านี้ยังเป็นดาวเด่นตลอดกาลอยู่เสมอ

เฉพาะในปีที่ผ่านมา มีจำนวนข้อความ sms หมุนเวียนอยู่ในระบบของเอไอเอสไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านข้อความ ขณะที่ mms นั้นมีมากถึง 45 ล้านข้อความภายในปีเดียว โดยในช่วงปกติที่ไม่มีวันสำคัญหรือเป็นงานเทศกาลมีลูกค้าส่ง sms ในระบบอย่างน้อย 8 ล้านคนต่อเดือน และ mms นั้นมีการส่งมากถึง 1 ล้านคนต่อเดือน

ขณะที่เบอร์สองของวงการโทรศัพท์มือถืออย่างดีแทคนั้นก็มีปริมาณของข้อความสั้นและข้อความภาพและเสียงที่มากไม่แพ้กัน เฉพาะปี 2550 ปีเดียว มีลูกค้า 6 ล้านคนทำการส่ง sms ทั้งสิ้น 1,200 ล้านข้อความ หรือเฉลี่ยวันละ 3.5 ล้านข้อความ ส่วน mms มีจำนวน 34 ล้านข้อความตลอดปีที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยวันละ 6 หมื่นข้อความ จากลูกค้า 6.5 แสนคน

ตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับการส่งข้อความของคนไทยยังมีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเฉลี่ยของการส่งข้อความของลูกค้าดีแทคนั้นจะส่ง sms อย่างน้อย 13 ครั้งต่อเดือน และลูกค้าที่ใช้ระบบรายเดือนมักส่งข้อความมากกว่าลูกค้าระบบเติมเงิน โดยลูกค้าระบบรายเดือนนั้นส่งข้อความเพิ่มขึ้นจาก 19 ครั้งต่อเดือนเป็น 26 ครั้งเทียบระหว่างปี 2549 และ 2550

ส่วนเทศกาลที่ผู้คนนิยมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดข้อความกันมากที่สุดก็เห็นจะเป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ โดย 2 วันที่ว่าในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ปริมาณของ sms และ mms ของเอไอเอสนั้นเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาราว 25 เปอร์เซ็นต์ โดย มีจำนวน sms เพียง 2 วันถึง 41 ล้านข้อความ และ mms 7.5 แสนข้อความ ส่วนลูกค้าดีแทคส่ง sms กันรวม 38 ล้านข้อความ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 32 เปอร์เซ็นต์ และ mms รวม 6.8 แสนข้อความ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 36 เปอร์เซ็นต์

นอกเหนือจากวันปีใหม่แล้ว ยังมีวันวาเลนไทน์ คริสต์มาสวันแม่ วันพ่อ แม้แต่วันลอยกระทง คนก็ยังนิยมใช้ข้อความในการส่งข้อความหากันมากกว่าช่วงวันปกติของปี

เมื่อมองในแง่ของรายได้ เมื่อจำนวนการส่งข้อความมีมาก รายได้ของผู้ให้บริการย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ได้สวนทางกันแต่อย่างใด

แม้ผู้บริหารของทั้งสองค่ายจะพบว่าการขยายตัวของ sms นั้นน้อยลงเทียบกับการขยายตัวของการส่ง mms ที่ผู้คนส่งได้ทั้งภาพและเสียง หรือข้อความไปได้ด้วยในคราวเดียวกัน แต่ในทุกๆ ปี รายได้ของ sms ก็ยังทะลุพันล้านบาท และติดอันดับดาวเด่นของตารางรายได้อยู่เสมอ

เฉพาะค่ายดีแทคค่ายเดียวสามารถทำรายได้จากบริการ sms เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิม 1,158 ล้านในปี 2548 เพิ่มเป็น 1,627 ล้าน ในปี 2549 และแตะระดับที่ 1,916 ล้านในปี 2550 โดยสัดส่วนรายได้ sms เพียงอย่างเดียว เมื่อเทียบกับรายได้รวมของดีแทคนั้นเติบโตจาก 2.9 เปอร์เซ็นต์ เป็น 3.9 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

งานนี้ sms หรือบริการส่งข้อความสั้นจึงไม่ได้เป็นเพียงดาวเด่นที่ไม่เคยจะมีทีท่าว่าจะเป็นดาวดับเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ว่าเป็นข้อความสั้นที่ทำเงินได้พันล้านบาทได้ไปอีกนานเลยทีเดียว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us