Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2551








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2551
Letter from Korea..."MICE Hub of Asia" ฝันที่เป็นจริงของเกาหลีหรือฝันกลางวันของไทย !?!             
โดย สุภัทธา สุขชู
 


   
search resources

Tourism




"อันยองฮาเซโย! Hello!" แอร์โฮสเตสสาวหน้าตาจิ้มลิ้มชาวเกาหลีของ Asiana Airlines กล่าวทักทายด้วยกิริยานุ่มนวลและรอยยิ้มหวาน ไม่แพ้ "ยิ้มสยาม" ของการบินไทย

สายการบินเอเชียน่าฯ เป็น 1 ใน 2 สายการบินหลักประจำชาติเกาหลีใต้อีกสายการบินก็คือ Korean Air

Skytrax ยกให้ Asiana Airlines เป็น 1 ใน 6 สายการบินคุณภาพระดับ 5 ดาวประจำปีนี้เคียงคู่กับ Kingfisher Airlines, Malaysia Airlines, Qatar Airways, Singapore Airlines และ Cathay Pacific Airways ขณะที่สายการบินไทยของเราปีนี้คว้ามาได้เพียง 4 ดาวเท่านั้นเอง

พิจารณาคร่าวๆ ผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกับ "ผู้จัดการ" ส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลี ใต้ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่มีความเป็นชาตินิยมสูง ตามถนนหนทางเราจึงได้เห็นรถยนต์ฮุนได แดวู เกียวิ่งเต็มท้องถนนและเห็นคนเกาหลีใช้โทรศัพท์มือถือซัมซุงมากกว่าโนเกีย

อีกส่วนหนึ่งก็เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่ สื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ปัญหานี้กลายเป็นวาระแห่งชาติของประเทศเกาหลีใต้ ทันทีที่รัฐบาลเกาหลีใต้มีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศมุ่งหน้าไปสู่การเป็น Hub of Asia

ทุกวันนี้รัฐบาลเกาหลีแก้ปัญหานี้ด้วยการเปิด Call Center "1330" คอยให้ความช่วยเหลือและข้อมูลการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ และมีบริการล่ามทางโทรศัพท์ฟรีในรถแท็กซี่บางคัน (ดูจากสติ๊กเกอร์ข้างรถ) ซึ่งสื่อสารได้ถึง 7 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสเปน โดยคนขับจะเป็นคนโทรหาล่ามแล้วใช้วิธีสนทนาแบบ 3 ทาง

นอกจากแอร์โฮสเตสสาวชาวเกาหลี เที่ยวบินนั้นยังมีแอร์โฮสเตสสาวไทยอีกคนไว้คอยบริการผู้โดยสารคนไทยซึ่งมีจำนวนไม่น้อย คนไทยหลายคนไปเที่ยวเกาหลีเพราะอิทธิพลจากหนังและละครเกาหลีที่เข้ามาโกย เรตติ้งจากแฟนๆ คนไทยมานานร่วม 5 ปีแล้ว หนังและละครเหล่านั้นมักแทรกภาพธรรมชาติ สวยๆ และสถานที่โรแมนติกเข้าไปในซีนอยู่เสมอ จึงกลายเป็นสื่อโฆษณาชั้นดีขององค์การ ส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศเกาหลี (Korea Tourism Organization หรือ KTO) สาวไทยไม่ว่าน้อยใหญ่พากันควักกระเป๋าซื้อแพ็กเกจ "ดราม่าทัวร์" ตามรอยคู่พระนางในหนังหรือละครที่ตนชื่นชอบ ซึ่ง KTO ออกแบบไว้เอาใจสาวกกลุ่มนี้จากทั่วโลก ไม่ใช่แค่เหล่าแฟนดารานักร้องเกาหลี เที่ยวบินนี้ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ incentive จากต่างจังหวัด ของไทยกลุ่มใหญ่ที่พากันไปหลายครัวเลยทีเดียว

บนเครื่องบินมีหนังเกาหลีที่ยังไม่เข้ามาฉายในเมืองไทยไว้ให้ผู้โดยสารที่เป็นแฟนหนังละครและมีเพลงป็อบเกาหลีอัพเดตสุดๆ ไว้ให้แฟน Kpop ได้ฟังแบบส่วนตัวเพลินๆ จนถึง Incheon International Airport สนามบินนานาชาติแห่งใหม่สร้างขึ้นมาทดแทน สนามบิน Gimpo ซึ่งลดฐานะเป็นสนามบินในประเทศตั้งแต่ต้นปี 2001 หรือกว่าปีครึ่งก่อนพิธีเปิดฟุตบอลโลกที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น

สนามบินอินชอนฯ เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย และมีอาคารผู้โดยสารใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก Chek Lap Kok Airport ของฮ่องกงและสนามบินสุวรรณภูมิของไทย อินชอนฯ ถือเป็น สนามบินที่มีการจราจรทางอากาศแออัดมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 3 ส่วนปีนี้ Skytrax ยกให้อินชอนฯ เป็นสนามบินระดับ 5 ดาว เคียง คู่สนามบินนานาชาติฮ่องกง และ Changi Airport ของสิงคโปร์ ส่วนสุวรรณภูมิของเราได้เพียงแค่ 3 ดาว

สถิติปีที่ผ่านมา อินชอนฯ มียอดผู้โดย สารทั้งปีกว่า 31 ล้านคน หรือมากกว่า 85,000 คนต่อวัน และขนถ่ายสินค้ามีน้ำหนักรวมมากกว่า 2.5 ล้านตัน มีเครื่องบินขึ้นลงกว่า 2 แสนครั้งหรือร่วม 580 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว

ปัจจุบันคนไทยที่จะเข้าประเทศเกาหลี ใต้ไม่เกิน 90 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า ดังนั้นการตัดสินใจว่าใครจะได้ผ่านแดนหรือไม่ จึงเป็นอำนาจสิทธิขาดของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชาวเกาหลี การตรวจคนเข้าเมืองของที่นี่จึงเป็นนาทีวัดดวงสำหรับคนไทย เพราะไม่มีกฎเกณฑ์การตัดสินใจแน่ชัด เทคนิคง่ายๆ ที่ "ผู้จัดการ" ใช้ก็คือสังเกตว่าตำรวจฯ คนไหนส่งตัวนักท่องเที่ยวเข้าห้องกักตัวที่ด่านเยอะสุดก็ให้ถอยไปอยู่ในช่องอื่นที่เจ้าหน้าที่เข้มงวดน้อยกว่า

เล่ากันว่า มีสาวไทยบางคนเที่ยวเกาหลีใต้มาแล้วหลายครั้งแต่วันดีคืนดีที่เธอแต่งตัวจัดขึ้นหน่อยก็มีสิทธิถูกส่งตัวกลับประเทศได้ แม้จะไปกับทัวร์ก็อาจไม่รอด เพราะขนาดไกด์หนุ่มชาวไทยบางคนยังสามารถถูกข้อหาเดินทางเข้าประเทศถี่เกินไปได้ด้วย บริษัททัวร์หลายแห่งจึงมักมีข้อตกลงว่าจะไม่รับผิดชอบคืนเงินให้กับลูกค้าที่ถูกด่านตรวจคนเข้าเมืองกักตัวไม่ให้เข้าเมืองไม่ว่าด้วยเหตุผลใด แต่ถึงอย่างนั้นคนไทยก็ไปเที่ยวเกาหลีเพิ่มขึ้นทุกปี

เหตุที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวที่ถือพาสปอร์ตไทยอย่างมาก ก็เพราะมีคนไทยบางกลุ่มมักแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้าเมืองไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย หญิงไทยบางคนก็แอบเข้าไปขาย บริการในเกาหลี

การเดินทางสู่แดนโสมขาวของ "ผู้จัด การ" ครั้งนี้เพื่อเข้าร่วมงาน 2007 Korea Convention Fair (KCF) ซึ่งมีเจ้าภาพเป็น KTO ร่วมกับผู้บริหารแห่งเมือง Changwon เปิดประตู Changwon Exhibition Conven- tion Center (CECO) ศูนย์ประชุมและจัดนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้เพื่อต้อนรับ แขกจากหลายประเทศมีทั้งสื่อมวลชน เอเยนซี่ ทัวร์ และ Meeting Planner/Organizer ฯลฯ

CECO เป็นศูนย์ประชุมฯ น้องใหม่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2548 มีพื้นที่กว่า 4 หมื่นตารางเมตร นับเป็นหนึ่งใน 7 World-Class Convention Center หรือศูนย์ประชุม และจัดนิทรรศการนานาชาติขนาดใหญ่ของประเทศที่รัฐบาลเกาหลีพยายามโปรโมตให้เป็นปลายทางระดับเวิลด์คลาสของนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE จากทั่วโลก

ประเทศเกาหลีมีทั้งหมด 9 จังหวัด แต่มีเมืองใหญ่ๆ ทางจำนวนประชากรและเศรษฐกิจอยู่ 6 เมือง ได้แก่ Busan, Daegu, Incheon, Gwangju, Daejeon และ Ulsan รวมกับกรุงโซลเมืองหลวง และเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวชายทะเลอย่างเกาะเจจู ก็อาจกล่าวได้ว่าเกาหลีใต้มีเมืองหัวหอกที่ KTO ตั้งใจจะใช้โปรโมตการท่องเที่ยวแบบ MICE อยู่ถึง 8 เมือง

ในเมืองใหญ่เกือบทุกเมืองจะมีศูนย์ประชุมฯ ขนาดใหญ่ระดับโลกเป็นที่เชิดหน้าชูตาของเมืองและของประเทศ ในทุกเมืองที่มีศูนย์ประชุมฯ ขนาดใหญ่มักจะมี Con-vention&Visitor Bureau (CVB) ของแต่ละท้องถิ่นทำหน้าที่โปรโมตศูนย์เหล่านั้นร่วมกับ Korea Convention Bureau (KCB) หน่วยงานที่แอ็คทีฟมากของ KTO

KCB มีหน้าที่หลักในการสนับสนุน ช่วยเหลือและประสานงานกับทุกฝ่าย เพื่อทำให้ภาพรวม MICE Industry ของประเทศ เติบโตอย่างมีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก หน่วยงานนี้ตั้งขึ้นในปี 2522 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ศูนย์ประชุมฯ แห่งแรก ได้แก่ KOEX เปิดดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติปี 2515-2519 ที่ต้องการให้ประเทศมีศูนย์ประชุมฯ ขนาดใหญ่เป็นศูนย์หลักของประเทศจนมีการขยายพื้นที่ในปี 2531 จึงมีการรีแบรนด์ใหม่เป็น COEX ในปัจจุบัน

สำหรับ Changwon เจ้าภาพจัดงาน KCF 2007 เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่อยู่ไม่ไกล จากเมือง Busan ถือเป็นเมืองใหม่ที่รัฐบาลเห็นศักยภาพและต้องการโปรโมตการท่องเที่ยว ของเมืองนี้ โดยเน้นเป็น MICE Tourism ทั้งนี้เพราะนอกจากมีธรรมชาติสวยงามไม่แพ้ เมืองอื่น พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองยังเป็นที่ตั้งโรงงานขนาดใหญ่ของหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในเกาหลี แพ็กเกจการท่องเที่ยวแบบ MICE ของเมืองนี้จึงมี Technical Tour หรือทัวร์เยี่ยมชมโรงงานระดับสุดยอดของเกาหลีและของโลกแถมเป็นจุดขาย

ปัจจุบัน CECO มีพื้นที่กว่า 40,000 ตร.ม. ในปีนี้ที่นี่มีแผนจะขยายพื้นที่และยกระดับศูนย์แห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่เหมาะแก่การเป็นศูนย์ประชุมฯ ที่เป็น หน้าเป็นตาของประเทศ เทียบเท่าศูนย์ประชุมฯ อื่นในเกาหลีที่มีจุดยืนอยู่บนเวทีโลกแล้ว เช่น COEX ศูนย์ประชุมที่มีตารางจัดงาน หนาแน่นที่สุดของประเทศ

COEX เป็นศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโซล พื้นที่ทั้งหมด 8 ชั้นซึ่งมีทั้ง COEX Mall และศูนย์ประชุมฯ รวมคอมเพล็กซ์ของ Korea World Trade Center ซึ่งอยู่ล้อมรอบ COEX จะเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ถึง 2.2 แสน ตร.ม. เลยทีเดียว ถ้านับเฉพาะพื้นที่ประชุมและจัดนิทรรศการจะมีขนาดใหญ่กว่า 5.5 หมื่น ตร.ม. แต่ก็ยังเป็นรอง KINTEX ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 6 หมื่น ตร.ม. อยู่ไม่ไกลจากโซลห่างจาก สนามบิน Gimpo เพียง 20 นาที

ในอนาคต KINTEX จะขยายพื้นที่โดยรอบเพื่อสร้างอาณาจักรที่จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกถึง 2.2 แสน ตร.ม. โดยจะมีทั้งโรงแรมหรูระดับ 4-5 ดาวสำหรับนักธุรกิจ มี sport mall เป็นแหล่งรวมกีฬาหลายชนิดทั้งสกีรีสอร์ต และสนามกีฬาอื่นๆ รวมทั้งอะควาเรี่ยม ศูนย์ การค้าและอาคารพาณิชย์มี China Town ขนาดใหญ่เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์กลิ่นอายวัฒนธรรมจีนและอีกส่วนที่น่าสนใจคือ "Hallywood" theme park เหมือน Holly- wood แต่ใหญ่และครบวงจรกว่า

เหล่านี้จะกลายเป็นจุดขายที่เพิ่มมูลค่า ให้ KINTEX ที่ไม่ได้ดึงดูดแค่เพียงนักท่องเที่ยว กลุ่ม MICE แต่ยังดึงดูดกลุ่ม Leisure ให้มาท่องเที่ยวจับจ่ายที่นี่ เหมือนกับ COEX Mall ที่ดึงดูดนักช้อปได้ไม่น้อย ตามแผนที่วางไว้ โครงการเฟส 2 ของ KINTEX จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2554

ด้วยการจราจรที่ติดขัดของกรุงโซล COEX จึงได้สร้าง Airport terminal ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ร่วมงานที่จะต้องเดินทางไปสนามบิน ได้เช็กอินและโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องก่อนล่วงหน้าและที่นี่มีรถบริการจาก COEX วิ่งตรง สู่สนามบินทั้ง 2 แห่ง ส่วน KENTEX เองก็จะสร้าง Airport terminal ขึ้นในเฟส 2 นี้ด้วย

ขณะที่ผู้ร่วมงานที่มาจากเครื่องบินอาจจะเลือกหนีรถติดในเมืองใหญ่ๆ ได้ด้วยรถไฟไฮสปีด KTX ที่วิ่งด้วยความเร็ว 300-350 กม./ชม. ซึ่งจะทำให้เดินทางได้ทั่วเกาหลีในเวลาราว 4 ชั่วโมง

Busan เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ใต้ และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโซล ศูนย์ประชุมฯ ที่เป็นหน้าเป็นตา คือ BEXCO ศูนย์ประชุมฯ ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีพื้นที่ในส่วน convention & exhibition รวมกว่า 4.5 หมื่น ตร.ม.

ที่ BEXCO เริ่มนำเอาเทคโนโลยี "electronic name card" มาทดลองใช้ ซึ่งศูนย์จะมีบัตรคล้องคอที่บันทึกข้อมูลแล้วและเครื่องอ่านซึ่งถ่ายโอนข้อมูลได้เตรียมไว้ให้ เท่านี้ทั้งผู้ร่วมงานและผู้แสดงสินค้าก็สามารถ บันทึกข้อมูลของทุกบริษัทที่สนใจแทนการขน เอกสาร ทั้งสะดวกและยังประหยัดทรัพยากร โดยในอนาคตอันใกล้จะมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในศูนย์อื่นด้วย
นอกจาก 7 แห่งที่เปิดใช้แล้วภายในปีนี้ เกาหลีใต้จะเปิดศูนย์ประชุมฯ ขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้นอีกถึง 2 แห่ง ได้แก่ Daejeon Con-vention Center ในเมือง Daejeon ที่จะเปิด ตัวต้นปี และ Songdo Convention Center (หรือ Incheon Convention Center) ในเมือง Incheon จะเปิดตัวกลางปี อันเป็นไปตามข้อกำหนดของ Convention Promotion Law ที่ระบุให้รัฐบาลต้องทำหน้าที่เลือกและพัฒนาเมืองที่มีศักยภาพขึ้นมาเป็น "Conven- tion City" เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE Tourism ในประเทศให้ก้าวหน้า

จากงาน KCF 2007 ยังเห็นได้ชัดว่า ทุกศูนย์ประชุมฯ และทุก CVB ในแต่ละท้องถิ่นต่างต้องแข่งขันกันเองในการปรับปรุง มาตรฐานบริการและการตลาด ขณะเดียวกัน ก็ต้องร่วมมือกันในการผลักดันประเทศ เพื่อ ให้เกาหลีใต้มีชื่ออยู่บนแผนที่โลกในฐานะ Global MICE Destination of Asia

...เรียกได้ว่า นี่ถือเป็นพันธกิจร่วมกันของทุกหน่วยในองคาพยพนี้ โดยเฉพาะ KTO ที่ต้องทำงานหนักและจริงจังในการที่จะนำเอาจุดแข็งทางการท่องเที่ยวที่ KTO มีมาใช้ synergy และดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE บ่อยครั้งจึงเห็นแพ็กเกจสำหรับกลุ่ม MICE แถมพ่วงด้วยทัวร์ไฮไลต์ในเมืองนั้นและทัวร์เมืองหลวง แม้แต่ drama tour ก็ยังอาจถูกนำมาใช้สร้างแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน

ภายในงานนี้ไม่ได้มีแต่ exhibitor ที่เป็นศูนย์ประชุมฯ แต่ยังมีโรงแรมระดับ 4-5 ดาวหลายแห่งมาร่วมออกบูธ เพราะโรงแรมเหล่านี้จะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากกลุ่ม MICE ขณะเดียวกันการมีโรงแรมธุรกิจหรูหลายแห่งอยู่ใกล้ๆ ศูนย์ก็เป็นอีกปัจจัยที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ใช้พิจารณา

นอกจากนี้ยังมีบริษัทจัดงานประชุมและนิทรรศการที่ลงทะเบียนไว้กับ KCB ซึ่งจะถูกเรียกเป็นชื่อใหม่ว่ากลุ่ม professional congress organizer (PCO) คนกลุ่มนี้เป็นเสมือน software ที่ช่วยสร้าง value creation ให้กับอุตสาหกรรม MICE ของเกาหลี และยังมีบูธของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในเกาหลี ที่มีหลักสูตรว่าด้วยหน้าที่ของ Convention & Exhibition Organizer จากหลายแห่งมาโปรโมตสถาบันในงานนี้ด้วย

ไม่ใช่เพียงเกาหลีแต่หลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย เริ่มเบนเข็มทิศอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาสู่เส้นทาง MICE Tourism กันอย่างจริงจัง ด้วยสถิตินักท่องเที่ยว กลุ่ม MICE ถือเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปเฉลี่ย 3 เท่า หรือหมื่นกว่าบาทต่อวันและจะสูงเกือบ 10 เท่าหากเป็นกลุ่ม MICE จากแถบยุโรปและอเมริกา อีกทั้งกลุ่ม MICE มักจะมีระยะเวลาในการพักเฉลี่ยนานกว่า

สำหรับเมืองไทย เรามีศูนย์ประชุมฯ ระดับชาติหลักๆ ไม่กี่แห่ง เช่น IMPACT ซึ่งเคลมว่ามีพื้นที่รวมกันทั้งหมด 1.4 แสนตร.ม.และยังมี BITEC พื้นที่กว่า 4 หมื่นตร.ม.และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เคลมว่าพื้นที่ทั้งหมดกว่า 6 หมื่น ตร.ม. ล้วนกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่แผนสร้างศูนย์ประชุมฯ ที่เชียงใหม่และภูเก็ตยังอาจต้องเจอภาวะ "โรคเลื่อน" อยู่ต่อไป

แม้ว่าความสวยงามของธรรมชาติและมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยเราจะไม่เป็น รองเกาหลี แต่เมื่อมองดูความพร้อมของ infrastructure ในอุตสาหกรรมไมซ์เปรียบเทียบกัน ทั้ง hardware, software และ peopleware ...จึงไม่น่าแปลกใจที่เกาหลีจะดูพร้อมสู่การเป็น MICE Hub of Asia มากกว่าไทย

แต่ก็อย่าเพิ่งหมดหวังเพราะอย่างน้อยเมื่อ 5 ปีก่อนประเทศไทยได้จัดตั้งหน่วย งานที่ทำหน้าที่คล้ายกับ KCB ขึ้นมาดูแล กระตุ้นและส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE Tourism อย่างจริงจังที่ชื่อว่า "สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)" ถึงแม้จะเกิดขึ้นมาหลัง KCB นานถึง 25 ปี ก็ตามที...   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us