Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2539
เอกกมล คีรีวัฒน์ กับยุคมืดของแบงก์ชาติ             
โดย อภิชาติ ชอบชื่นชม
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
เอกกมล คีรีวัฒน์




"สนธิ ลิ้มทองกุล" เจ้านายของทุกคนในเครือผู้จัดการหรือ MANAGER MEDIA GROUP เคยพูดอยู่ครั้งหนึ่งว่า คนที่เป็นหัวหน้าคนนั้นเวลามีภัยมาต้องแอ่นอกรับ แต่หากมีความดีความชอบควรยกให้ลูกน้อง แต่คำพูดนี้คงใช้ไม่ได้กับแบงก์ชาติในปัจจุบันเพราะคนบางคนเงยหน้าก็อายฟ้าก้มหน้าก็อายดิน

รู้จักเอกกมล คีรีวัฒน์มาเกินสิบปี ก็เหมือนเพื่อนนักข่าวฉบับอื่นๆ ที่รู้ว่าเป็นคนที่พูดโผงผาง พูดไปพอรอบเครื่องติดท่อไอดีก็จะกระจายน้ำลายออกมา เรียกว่านักข่าวที่รอบคอบหน่อย

เวลาสัมภาษณ์เดี่ยวจะต้องใส่เสื้อฝนไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามพวกเราก็รู้ว่าเอกกมล คีรีวัฒน์เป็นคนจริงใจไม่ใช่จิงโจ้

ข้อหาของเอกกมลที่บอกว่าเผยความลับของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดูฟังไม่ขึ้นเลย เมื่อตำแหน่งเก่าในธนาคารแห่งประเทศไทยเคยเป็นทั้งผู้อำนวยการฝ่ายกำกับและตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ และเมื่อเป็นผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติก็ดูแลสายงานเดิมหากมีจิตใจในทางทุจริตก็คงไม่รอถึงไปเป็นเลขาธิการก.ล.ต.หรอก

ความจริงแล้วนักข่าวสายตลาดเงินตลาดทุนไม่ได้แปลกใจเลยที่เอกกมล คีรีวัฒน์ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการก.ล.ต. ที่แปลกใจทั้งนักข่าวและเจ้าตัวเองก็คือคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยอ้างว่ากระทำผิดตามพ.ร.บ.ธนาคารพาณิชย์ ถือว่าเป็นรองผู้ว่าแบงก์ชาติคนแรกที่ถูกปลดกลางอากาศอย่างนี้

ในอดีตนั้นจะมีแต่ตัวผู้ว่าการลาออกเพื่อประท้วงรัฐบาลอย่างอาจารย์ป๋วย อิ๊งภากรณ์หรือถูกปลด เพราะรัฐบาลไม่ชอบหน้าอย่างนุกูล ประจวบเหมาะหรือกำจร สถิรกุล แต่ไม่เคยลามปามถึงรองผู้ว่าฯ แม้จะเป็นตำแหน่งทางการเมืองเหมือนกัน(ในธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ตำแหน่งสูงสุดของข้าราชการประจำคือผู้ช่วยผู้ว่าการฯ)

ที่น่าแปลกใจอีกอย่างคิอผู้ว่าการวิจิตร สุพินิจออกมาแถลงข่าวว่าเอกกมล คีรีวัฒน์ผิดจริง หากทว่าเปิดเผยหลักฐานไม่ได้เนื่องจากเป็นความลับของราชการแต่เอกกมล คีรีวัฒน์ก็จะได้ทั้ง

บำเหน็จบำนาญทุกประการ เพื่อนนักข่าวฟังแล้วก็ร้องอ้าวเป็นเสียงเดียวกัน เพราะถ้าผิดจริงก็ไม่ต้องให้บำเหน็จบำนาญ แถมต้องฟ้องร้องให้ติดตะรางไปเลย หรือถ้าไม่ผิดก็ไม่น่าจะได้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯต่อไป

ว่ากันว่านอกเหนือจากการไม่ชอบขี้หน้าเป็นการส่วนตัวระหว่างผู้ว่าฯกับรองคนนี้ เอกกมล คีรีวัฒน์ยังเป็นคนที่ชอบพูดเล่นกับเพื่อนพ้องน้องพี่ และไม่ใช่ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ที่ก.ล.ต.ถูกดักฟังเพียงแต่เป็นคนที่คิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจ ดังนั้นอยากพูดอะไรก็พูดโพล่งโดยไม่คิดจะเอาเป็นหลักฐานผูกมัดหาข้ออ้างให้ออกทั้งก.ล.ต.และธนาคารแห่งประเทศไทย

นักข่าวของ "ผู้จัดการ" คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเอกกมล คีรีวัฒน์คุยกับศิรินทร์

นิมมานเหมินท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยในฐานะเพื่อน ก็เลยถามถึงธารินทร์ นิมมานเหมินท์ว่าทำมาหากินอะไรอยู่ ศิรินทร์ก็บอกว่าไปทำหมู่บ้านจัดสรรกับสนามกอล์ฟที่ลำลูกกา เอกกมลก็เลยหยอกเล่นๆ ว่าดีแล้วตูจะไปอึ้บสักสองไร่..แค่เนียะ…เป็นเรื่อง กล่าวหากันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต

เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ในความรู้สึกส่วนตัวยอมรับว่าผิดหวังมาก เพราะอาชีพนี้ที่ทำมาค่อนข้างไว้ใจคนธนาคารแห่งประเทศไทยมากกว่าธนาคารพาณิชย์ ไม่ใช่คนธนาคารพาณิชย์ไม่ดี

แต่มักจะคิดว่าคนแบงก์พาณิชย์มีผลประโยชน์มากกว่าคนแบงก์ชาติอีก อีกทั้งตั้งแต่ทำข่าวสายการเงินมา ก็ได้รับการสั่งสอนจากคนแบงก์ชาติมาตลอด ทำให้รู้สึกเป็นหนี้ทางจิตใจอยู่เสมอ

จึงไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ว่าฯ วิจิตร สุพินิจถึงไม่ยอมปกป้องเอกกมล คีรีวัฒน์ตามประเพณี

ของผู้ว่าฯ ในอดีต เอาตัวอย่างใกล้ตัวหน่อย เมื่อครั้งที่รองผู้ว่าฯ เริงชัย มะระกานนท์เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน มีบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ล้มกันเป็นว่าเล่น ช่วงนั้นกำจร สถิรกุลเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

คอลัมนิสต์ที่เกาะติดกรณีนี้มาตลอดก็คือ"ไต้ฝุ่น"แห่งไทยรัฐอันทรงอิทธิพลก็คือเริงชัย มะระกานนท์ถึงกับปรารภกับนักข่าวที่ไว้เนื้อเชื่อใจว่า เห็นทีคราวนี้จะต้องลาออก เมื่อความไปถึงกำจร สถิรกุล ท่านก็เชิญไต้ฝุ่นผ่านชูพงษ์ มณีน้อยเจ้าสำนักนักข่าวหัวเขียวมาพบ พร้อมกับเริงชัย

มะระกานนท์มานั่งด้วย และผู้ว่ากำจรก็ถามตรงๆ ว่าพวกคุณอยากให้เริงชัยลาออกจากแบงก์ชาติ

เหรอ ซือเฮียทั้งสองท่านก็บอกว่าเปล่านา..เขียนติติงกันนิดหน่อย ไม่น่าใจน้อย

เรื่องราวก็เลยหมดคลื่นลมกันไป และเริงชัย มะระกานนท์ก็ได้ประจักษ์ผู้ว่ากำจร สถิรกุล แม้จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขคนแบงก์ชาต ิเพราะมาจากสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมกระทรวงการคลังแต่สปิริตชาติของคนแบงก์ชาติมีเกินร้อย

มีคำถามอยู่ประโยคหนึ่งที่ถามคนธนาคารแห่งประเทศไทยว่ารู้สึกอย่างไรกับการปลดเอกกมล คีรีวัฒน์ออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ คำตอบที่ได้รับแม้จะเป็นคนนอกก็อดสะเทือนใจไม่ได้เพราะเขาตอบว่า…

แบงก์ชาติยุคนี้เป็นยุคมืด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us