Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 มกราคม 2551
สามารถฯงัดกลยุทธ์สู้ปีหนูไป-ตั้งเป้าโกย3หมื่นล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ กลุ่มบริษัทสามารถ

   
search resources

สามารถคอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Telecommunications
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์




‘วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์’ประกาศปี 51 กลุ่มสามารถจะทำรายได้ 3 หมื่นล้านบาทเติบโตกว่า 50% ย้ำทุกวิกฤตย่อมเกิดโอกาสสำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางการเงินรู้จักเลือกธุรกิจและจังหวะในการลงทุนพร้อมชูกลยุทธ์ SMART นำธุรกิจกลุ่มสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่นกล่าวว่าในปี 2551 กลุ่มสามารถจะเน้นในเรื่อง Merging & Acquisition ในการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทุกสายธุรกิจจะใช้กลยุทธ์หลักร่วมกันคือ SMART Strategy ประกอบด้วย Synergy สร้างทีม สร้างพันธมิตร, Merging & Acquisition ทางลัดสู่ธุรกิจใหม่ที่มีอนาคต, Regional สร้างชื่อและรายได้ระดับภูมิภาคและ Technology คือ การขยายธุรกิจสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ

รวมทั้งจะเน้นในการสร้างแบรนด์ไอ-โมบายในต่างประเทศ โดยเรียกปีนี้ว่าเป็น Year of Smart Growth โดยมุ่งขยายธุรกิจไปในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตหรือเป็นตลาดเฉพาะแบบนิชมาร์เก็ตที่มีผลกำไรสูง (Blue Ocean)

“ใครจะบอกว่าปีที่แล้วเผาหลอกปีนี้เผาจริง แต่ผมมองว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ ถึงแม้ปี 2550 รายได้กลุ่มสามารถจะพลาดเป้าไปบ้าง แต่ปีนี้ผลประกอบการของเราจะกลับมาเติบโตขึ้นกว่า 50%”

ท่ามกลางวิกฤตปี 2550 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาการเมือง งบประมาณล่าช้าและจำกัด หรือปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาแพง ภาวะเงินเฟ้อ กำลังซื้อผู้บริโภคต่ำ ค่าเงินบาทแข็งและผลกระทบกรณีซับไพร์มทำให้ตลาดเงินตลาดทุนเกิดปัญหา

แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มสามารถอย่างโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอ-โมบายขายได้ 3.2 ล้านเครื่อง พฤติกรรมการใช้สื่อดิจิตอลมีแนวโน้มสูง การขยายตัวของบรอดแบนด์และไว-ไฟรวมทั้งการเติบโตของธุรกิจเอาต์ซอร์ส ซึ่งทำให้ปีที่ผ่านมาของกลุ่มสามารถฯมีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของแซมเทล การพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง การสร้างความเข้มแข็งทางการเงินเพื่อรอโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจ และการเร่งสร้างแบรนด์ไอ-โมบายในระดับภูมิภาค รวมทั้งการสร้างผู้บริหารเลือดใหม่ (GEN S)

ปัจจัยที่ส่งผลบวกให้กลุ่มสามารถในปีนี้ประกอบด้วย1.ตลาดโทรศัพท์มือถือเติบโต 85-90% หรือจะมียอดขายรวม 10 ล้านเครื่องในประเทศ 2.การแข่งขันเฮ้าส์แบรนด์ลดลงอย่างมาก 3.ไอ-โมบายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคและ4.ความร่วมมือของหน่วยงานรัฐกับเอกชนที่จะส่งผลให้เกิดการตื่นตัวในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือระหว่างทีโอทีกับเอไอเอสหรือกสทกับดีแทค

สำหรับปัจจัยที่จะสร้างให้เกิดความสำเร็จของกลุ่มสามารถประกอบด้วย 1.การเลือกตลาดให้ถูก ไม่ใช่มองแต่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงแต่ต้องเลือกตลาดที่ให้กำไรสูง 2.ต้องเลือกโปรดักส์ให้ถูกอย่างโทรศัพท์มือถือต้องมีดีไซน์ใหม่ไฮเทค ต้องเลือกคอนเทนต์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ 3.ต้องเลือกเวลาที่เหมาะสมเช่นการลงทุนแอปพลิเคชั่นด้านนิวเคลียร์และ4.ต้องเลือกบุคลากรที่เหมาะสม

นายวัฒน์ชัยกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการคว้าโอกาสธุรกิจในอนาคต เช่น การเซ็นสัญญาความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติเพื่อศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีนิวเคลียร์,การพัฒนาคุณภาพบริการ Contact Center จนสามารถคว้ารางวัล Best Contact Center ในภูมิภาคเอเชียของบริษัท วันทูวัน, การดีไซน์มือถือไอ-โมบายให้มีความทันสมัยและHigh tech, การปรับโครงการสร้างธุรกิจ ICT ให้กระชับและมีประสิทธิภาพ, การขยายธุรกิจต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจมือถือ คอนเทนต์, ICT Outsourcing และอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 16.7%ในประเทศกัมพูชา ยังนำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 15.6% คิดเป็นรายได้ 20.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับบริษัท แอร์ทราฟิก เซอร์วิสเซส ซึ่งในปีที่ผ่านมายังได้รับการต่ออายุสัมปทานออกไปอีก 10 ปีรวมระยะเวลาสัมปทานที่เหลือทั้งสิ้นถึง 27 ปี

รวมทั้งบริษัท กัมปอต เพาเวอร์แพลนท์ ที่ได้ฤกษ์ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่โรงงานกัมปอตซีเมนต์ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยมีอายุสัญญา 10 ปี

ในปี 2551 กลุ่มสามารถตั้งเป้ารายได้ที่ 3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 40 – 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งสัดส่วนรายได้แยกตามสายธุรกิจ ดังนี้

สาย Mobile Multi-media 21,000 ล้านบาท สาย ICT Solutions 5,000 ล้านบาท และสาย Technology Related 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการตั้งเป้าหมายของกลุ่มสามารถในอีก 3 ปีข้างหน้าว่าจะต้องมีรายได้รวมกันไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท และมีกำไรให้ได้ถึง 1,000 ล้านบาท โดยมือถือไอ-โมบายจะต้องเป็นที่หนึ่งของ ASEAN Phone ด้วยยอดขาย 10 ล้านเครื่อง และ ICT Solutions จะต้องสร้างรายให้ได้ 10,000 ล้านบาทในปี 2553 สำหรับธุรกิจปัจจุบันกลุ่มสามารถ ประกอบด้วย 3 สายธุรกิจหลัก คือ สายธุรกิจ Mobile-Multimedia นำโดย บริษัท สามารถ ไอ-โมบายตั้งเป้ารายได้ปี 2551 ที่ 21,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 40% มียอดขายโทรศัพท์มือถือรวม 5 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 3 ล้านเครื่อง และตลาดต่างประเทศ 2 ล้านเครื่อง เน้นกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ไอ-โมบาย ทั้งในและต่างประเทศ

หลังจากที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย, เวียดนาม, บังคลาเทศ, ลาว, กัมพูชา และอินเดียแล้ว มาในปีนี้จะเริ่มเข้าไปเจาะในตลาดใหม่ๆ ในประเทศแถบตะวันออกกลาง, เอเชียกลางหรือกลุ่มประเทศ Soviet เดิม และประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้มั่นใจว่าไอ-โมบายจะขึ้นเป็น NO.1 ASEAN Phone ในตลาดต่างประเทศได้โดยมียอดจัดจำหน่ายถึง 10 ล้านเครื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากได้รับการจัดอันดับในประเทศไทยให้ติด 1 ใน 10 แบรนด์คนไทยที่อยู่ในใจผู้บริโภคมาแล้ว

โดยเตรียมค้นหา Brand Ambassador ในแต่ละประเทศภายใต้คาแร็กเตอร์เดียวกัน ที่เป็นทั้งดาราที่มีชื่อเสียง และมีความสามารถหลายด้าน (Multi Talent) เพื่อชูความเป็น Mobile Multimedia ร่วมกับการรุกเพิ่มช่องทางในการขยายเครือข่ายจุดจำหน่ายสินค้าและให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยตั้งเป้าการมีช่องทางค้าปลีกทั่วภูมิภาคกว่า 620 จุด ภายในปีนี้

สาย ICT Solutions นำโดย บริษัท สามารถเทลคอม หรือแซมเทล ดำเนินธุรกิจครอบคลุมทางด้านไอทีและโทรคมนาคม ตั้งเป้ารายได้ปี 2551 ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าเท่าตัวเน้นตลาดภาคเอกชนมากขึ้น เพราะมีการขยายตัวถึง 8.9-9.0% มากกว่าภาครัฐที่มีเพียง 5.6-6.6%และมองธุรกิจที่มีสัญญาและสร้างรายได้ให้บริษัทในระยะยาว

ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้ารายได้จาก 5 สายงานได้แก่ ด้านบริการเครือข่าย หรือ Network Services โดยคาดว่าจะมีรายได้ทั้งปี ประมาณ 2,400 ล้านบาท, บริการด้าน System Integration แก่โครงการภาครัฐ ซึ่งปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจ e-biz solutions , IT outsourcing และธุรกิจ IP อีกประมาณ 1,100 ล้านบาท

ปัจจุบันสายธุรกิจ ICT มีโครงการที่มีอยู่ในมือแล้วกว่า 3,500 ล้านบาท เช่น โครงการ เอเอ็มอาร์ โครงการ School Net Phase 2 โครงการเครือข่ายสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงระยะที่ 2 และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างประมูลอีกกว่า 10,000 ล้านบาท

สายธุรกิจ Technology Related ตั้งเป้ารายได้ที่ 4,000 ล้านบาท จากบริษัท วันทูวันคอนแทคส์ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านเสาอากาศ และจานดาวเทียม และบริษัท วิชั่นแอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม รวมทั้งธุรกิจใหม่ล่าสุดที่กลุ่มสามารถร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) รุกธุรกิจเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยมองความต้องการของตลาดเป็นหลัก โดยเริ่มจากอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมด้านอาหาร และอุตสาหกรรมด้านอัญมณี ตามลำดับ ซึ่งปีนี้จะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ และมีต่อมาคือปี 2552 จะเริ่มรับรู้รายได้ในธุรกิจอุตสาหกรรมด้านการแพทย์ก่อน ที่รายได้ประมาณ 200 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us