สองยักษ์ใหญ่ขายตรง “นูสกิน-ซินเนอร์จี้” ชี้ธุรกิจขายตรงปีหนู รับอานิสงส์พิษเศรษฐกิจ คนพาเหรดสมัครสมาชิกเพื่อหารายได้เสริม เริ่มขยายเครือข่ายต่างประเทศ ควักบลูโอเชี่ยนขยายฐานสมาชิก “นู สกิน” ปักธงชะลอริ้วรอย หวัง 3 ปี รายได้แตะ 2,000 ล้านบาท “ซินเนอร์จี้ฯ” ชู 7 กลยุทธ์ ตั้งเป้าโต 90% กวาด 380 ล้านบาท
นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงมูลค่า 40,000 ล้านบาท ในปีนี้โต 5-10% เทียบกับปีที่ผ่านมาโต 8-10% เพราะมีปัจจัยลบทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้คนเข้าสู่ระบบธุรกิจขายตรงมากขึ้น เพราะต้องการมีรายได้เสริม ซึ่งในปีที่ผ่านมาจำนวนผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่โต 30% จากปกติโตเฉลี่ยปีละ 10-15% อย่างไรก็ตามเทรนด์ธุรกิจขายตรงจะเริ่มขยายสู่ต่างประเทศ โดยจะเกิดขึ้นชัดเจนอีก 5 ปีข้างหน้านี้ และอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ
แนวโน้มธุรกิจขายตรงในปีนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเพื่อความงามยังคงมาแรง โดยมีสัดส่วนเกือบ 70% แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สัดส่วน 31.1% และเติบโตสูงกว่ากลุ่มเพื่อความงามมีสัดส่วน 38.8%
นางภคพรรณ กล่าวว่า เป้าหมายของนู สกิน ในช่วง 3 ปี หรือปี 2553 จะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท จากปัจจุบันเป็นอันดับ 3 ของตลาด มีส่วนแบ่ง 5% จาก 40,000 ล้านบาท โดยชูกลยุทธ์การตลาดภายใต้แคมเปญ “ความแตกต่างที่พิสูจน์ได้จริง (The Difference,Demonstrated) เช่นเดียวกับประเทศอเมริกาและญี่ปุ่นที่ได้นำกลยุทธ์แคมเปญดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยเน้นการสร้างความแตกต่าง 4 ประการ ได้แก่ ทีมบุคลากรคุณภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โอกาสในดำเนินธุรกิจ และกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้การใช้งบ 10% ของรายได้ หรือราว 120 ล้านบาท
ปีนี้จะทำตลาดเชิงรุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย วางตำแหน่งตลาดให้มีความชัดเจน จากปัจจุบันมีสินค้าถึง 90% เพราะตลาดชะลอริ้วรอยเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วยซึ่งมีฐานประชากรเป็นผู้สูงอายุ 10 ล้านคน กลุ่มอายุ 30 ปี เริ่มกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มเพื่อสุขภาพและความงามประเภทชะลอริ้วรอยมีมูลค่าถึง 23,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้เติบโต 10% และยังมุ่งเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมูลค่า 18,000 ล้านบาท ต่อเนื่อง
ปีนี้ตั้งเป้าโต 15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,200 ล้านบาท โต 10% แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 65% และกลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์ 35% สำหรับตัวแทนจำหน่ายมี 2.3 แสนราย โดยมีผู้แทนจำหน่ายระดับบริหารโต 10% และผู้แทนจำหน่ายใหม่โต 30%
ซินเนอร์จี้ ชี้ขายตรงสู่ยุคบลูโอเชียน
นายศุภชาติ อังคสุวรรณศิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงปีนี้ คาดว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากกรณีการเกิดซัพไพร์มในอเมริกา ซึ่งกระทบในแง่จิตวิทยาของคนไทย แต่มองว่ายังมีโอกาสดีเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น เนื่องจากคนต้องการสร้างรายได้เสริม ส่วนแนวโน้มแข่งขันผู้ประกอบการมุ่งข้อเสนอดีๆ เพื่อมัดใจสมาชิก อีกทั้งเริ่มช่วงชิงตลาดใหม่หรือบลูโอเชี่ยนมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาเน้นเรด โอเชี่ยน ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละค่ายเริ่มหาลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยทำธุรกิจขายตรง
ในปีนี้บริษัทแม่มีนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคเอเชียในการขยายตลาดใหม่ เพราะธุรกิจขายตรงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าเติบโต 3 เท่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้ โดยบริษัทแม่จะเริ่มเปิดตลาดในเวียดนาม ที่ โฮจิมินห์ และฮานอย ในปีนี้ และวางแผนขยายไปยังประเทศจีน และอินเดีย จากปัจจุบันเปิดไปแล้ว 15 ประเทศทั่วโลก คือ อเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป 4 ประเทศ และในเอเชีย 9 ประเทศ โดยวางให้ไทยสร้างรายได้ติดอันดับ 3 ภายใน 4-5 ปี
ปีนี้บริษัทฯทุ่มงบ 60 ล้านบาท โดยมุ่งเน้น 7 ประการ คือ 1.การเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มากขึ้นจาก 90,000 ราย เพิ่มเป็น 1.4 แสนราย 2.การสร้างคอนเซปต์การตลาด ผ่านการนำเสนอสินค้าเรือธง 3 ตัว รูปแบบ สร้าง,เสริม และการไหลเวียน ซึ่งปีนี้จะเพิ่มสินค้าใหม่ 10 รายการ จากเดิม 35 รายการ 3.การจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาคมากขึ้น เพื่อขยายฐานสมาชิกต่างจังหวัดเพิ่มจาก 25% เป็น 40% และกรุงเทพฯ 75% เป็น 60%
4.การเน้นขยายพื้นที่ให้ครอบคลุม 76 จังหวัด โดยเริ่มโฟกัส 19 จังหวัดเล็ก หรือพื้นที่เศรษฐกิจดี อาทิ ขอนแก่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ 5.การปรับระบบการอบรมมาเป็นศูนย์กลางมากขึ้น 6.การมุ่งเน้นการสื่อสาร และ 7.การยกระดับคุณภาพและการบริหารงาน ทั้งนี้จากการดำเนินการเชิงรุกสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 90% หรือ 380 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 200 ล้านบาท
|