Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 มกราคม 2551
ขายตรงงัดเกมสู่ยุคบลูโอเชียน             
 


   
www resources

โฮมเพจ นู สกิน เพอร์ซันแนล แคร์ (ประเทศไทย)

   
search resources

นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส, บจก.
Direct sale




สองยักษ์ใหญ่ขายตรง “นูสกิน-ซินเนอร์จี้” ชี้ธุรกิจขายตรงปีหนู รับอานิสงส์พิษเศรษฐกิจ คนพาเหรดสมัครสมาชิกเพื่อหารายได้เสริม เริ่มขยายเครือข่ายต่างประเทศ ควักบลูโอเชี่ยนขยายฐานสมาชิก “นู สกิน” ปักธงชะลอริ้วรอย หวัง 3 ปี รายได้แตะ 2,000 ล้านบาท “ซินเนอร์จี้ฯ” ชู 7 กลยุทธ์ ตั้งเป้าโต 90% กวาด 380 ล้านบาท

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงมูลค่า 40,000 ล้านบาท ในปีนี้โต 5-10% เทียบกับปีที่ผ่านมาโต 8-10% เพราะมีปัจจัยลบทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้คนเข้าสู่ระบบธุรกิจขายตรงมากขึ้น เพราะต้องการมีรายได้เสริม ซึ่งในปีที่ผ่านมาจำนวนผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่โต 30% จากปกติโตเฉลี่ยปีละ 10-15% อย่างไรก็ตามเทรนด์ธุรกิจขายตรงจะเริ่มขยายสู่ต่างประเทศ โดยจะเกิดขึ้นชัดเจนอีก 5 ปีข้างหน้านี้ และอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ

แนวโน้มธุรกิจขายตรงในปีนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเพื่อความงามยังคงมาแรง โดยมีสัดส่วนเกือบ 70% แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สัดส่วน 31.1% และเติบโตสูงกว่ากลุ่มเพื่อความงามมีสัดส่วน 38.8%

นางภคพรรณ กล่าวว่า เป้าหมายของนู สกิน ในช่วง 3 ปี หรือปี 2553 จะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท จากปัจจุบันเป็นอันดับ 3 ของตลาด มีส่วนแบ่ง 5% จาก 40,000 ล้านบาท โดยชูกลยุทธ์การตลาดภายใต้แคมเปญ “ความแตกต่างที่พิสูจน์ได้จริง (The Difference,Demonstrated) เช่นเดียวกับประเทศอเมริกาและญี่ปุ่นที่ได้นำกลยุทธ์แคมเปญดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยเน้นการสร้างความแตกต่าง 4 ประการ ได้แก่ ทีมบุคลากรคุณภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โอกาสในดำเนินธุรกิจ และกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้การใช้งบ 10% ของรายได้ หรือราว 120 ล้านบาท

ปีนี้จะทำตลาดเชิงรุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย วางตำแหน่งตลาดให้มีความชัดเจน จากปัจจุบันมีสินค้าถึง 90% เพราะตลาดชะลอริ้วรอยเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วยซึ่งมีฐานประชากรเป็นผู้สูงอายุ 10 ล้านคน กลุ่มอายุ 30 ปี เริ่มกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มเพื่อสุขภาพและความงามประเภทชะลอริ้วรอยมีมูลค่าถึง 23,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้เติบโต 10% และยังมุ่งเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมูลค่า 18,000 ล้านบาท ต่อเนื่อง

ปีนี้ตั้งเป้าโต 15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,200 ล้านบาท โต 10% แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 65% และกลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์ 35% สำหรับตัวแทนจำหน่ายมี 2.3 แสนราย โดยมีผู้แทนจำหน่ายระดับบริหารโต 10% และผู้แทนจำหน่ายใหม่โต 30%

ซินเนอร์จี้ ชี้ขายตรงสู่ยุคบลูโอเชียน

นายศุภชาติ อังคสุวรรณศิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงปีนี้ คาดว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากกรณีการเกิดซัพไพร์มในอเมริกา ซึ่งกระทบในแง่จิตวิทยาของคนไทย แต่มองว่ายังมีโอกาสดีเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น เนื่องจากคนต้องการสร้างรายได้เสริม ส่วนแนวโน้มแข่งขันผู้ประกอบการมุ่งข้อเสนอดีๆ เพื่อมัดใจสมาชิก อีกทั้งเริ่มช่วงชิงตลาดใหม่หรือบลูโอเชี่ยนมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาเน้นเรด โอเชี่ยน ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละค่ายเริ่มหาลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยทำธุรกิจขายตรง

ในปีนี้บริษัทแม่มีนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคเอเชียในการขยายตลาดใหม่ เพราะธุรกิจขายตรงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าเติบโต 3 เท่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้ โดยบริษัทแม่จะเริ่มเปิดตลาดในเวียดนาม ที่ โฮจิมินห์ และฮานอย ในปีนี้ และวางแผนขยายไปยังประเทศจีน และอินเดีย จากปัจจุบันเปิดไปแล้ว 15 ประเทศทั่วโลก คือ อเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป 4 ประเทศ และในเอเชีย 9 ประเทศ โดยวางให้ไทยสร้างรายได้ติดอันดับ 3 ภายใน 4-5 ปี

ปีนี้บริษัทฯทุ่มงบ 60 ล้านบาท โดยมุ่งเน้น 7 ประการ คือ 1.การเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มากขึ้นจาก 90,000 ราย เพิ่มเป็น 1.4 แสนราย 2.การสร้างคอนเซปต์การตลาด ผ่านการนำเสนอสินค้าเรือธง 3 ตัว รูปแบบ สร้าง,เสริม และการไหลเวียน ซึ่งปีนี้จะเพิ่มสินค้าใหม่ 10 รายการ จากเดิม 35 รายการ 3.การจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาคมากขึ้น เพื่อขยายฐานสมาชิกต่างจังหวัดเพิ่มจาก 25% เป็น 40% และกรุงเทพฯ 75% เป็น 60%

4.การเน้นขยายพื้นที่ให้ครอบคลุม 76 จังหวัด โดยเริ่มโฟกัส 19 จังหวัดเล็ก หรือพื้นที่เศรษฐกิจดี อาทิ ขอนแก่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ 5.การปรับระบบการอบรมมาเป็นศูนย์กลางมากขึ้น 6.การมุ่งเน้นการสื่อสาร และ 7.การยกระดับคุณภาพและการบริหารงาน ทั้งนี้จากการดำเนินการเชิงรุกสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 90% หรือ 380 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 200 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us