อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยรับศึกหนักปีนี้เจอแข่งขันเดือดหนักขึ้นหลังบาทแข็งทำให้แข่งขันลำบาก
แถมเจอค่าเงินหยวนจีนอ่อนค่าทำให้สินค้าจากจีนซึ่งเป็นคู่แข่งหลักในตลาดส่งออกยิ่งได้เปรียบเพิ่มขึ้น
เกาะติดค่าเงินหยวนใกล้ชิดหวั่นอ่อนค่ามากลงยิ่งแย่หนัก หวั่นเปิดช่องเข้าถล่มตลาดในประเทศเพิ่ม
เผยแนวโน้มเสื้อผ้าระดับล่างทะลักเข้าไทยง่ายขึ้น ขณะที่ข้อตกลง FTA ไทย-จีนแนะรัฐดูให้ลึกหวั่นไทยเสียเปรียบ
นายชวลิต นิ่มละออ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า
ปัจจุบันสินค้ากลุ่มสิ่งทอ และ เครื่องนุ่งห่มมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงทั้งตลาดในประเทศ
และต่างประเทศเนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการพัฒนาสินค้าดังกล่าวเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากจีนซึ่งมีความได้เปรียบในแง่ของต้นทุนที่ต่ำ
ดังนั้น เมื่อค่าเงินบาทของไทย แข็งค่าขึ้นจึงทำให้ศักยภาพการแข่งขันของไทยลดลงเนื่องจากค่าเงินหยวนของจีนกลับอ่อนค่าลง
"จริงๆ แล้วสินค้าเครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าสำเร็จรูปต่างๆ เพื่อการส่งออกระยะที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันระดับที่รุนแรงขึ้นอยู่แล้วแต่เมื่อ
ค่าเงินบาทแข็งค่าก็ยิ่งทำให้ความสามารถของไทยลดต่ำลง แต่แย่ไปกว่านั้นที่ค่าเงินหยวนของจีนซึ่งเป็น
คู่แข่งสำคัญกลับอ่อนค่ายิ่งส่งเสริมให้จีนมีศักยภาพการแข่งขันที่มากขึ้นอีก" นายชวลิตกล่าว
สำหรับค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าไปในระดับเดียวกับเพื่อนบ้านเมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงนั้นคงจะไม่มีปัญหาต่อการ
ส่งออกมากนัก แต่สิ่งที่น่าจับตา คือ ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงว่าจะเป็นไปในลักษณะที่ลดลงต่อเนื่องหรือแค่ระยะสั้นเพราะหากยิ่งลดต่อเนื่องไม่ใช่เฉพาะสินค้าเครื่องนุ่งห่มเท่านั้นแต่จะเป็นหลายสินค้าที่จะได้รับผลกระทบ
นายชวลิตกล่าวว่าค่าเงินหยวน ที่อ่อนค่ายังจะกระทบกับการที่ ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนจะนำเข้ามาในประเทศ
ได้ง่ายขึ้นอีกเพราะราคา จะถูกลงจากขณะนี้สินค้าประเภทเสื้อผ้าระดับล่างก็เข้ามาทำลายตลาดในประเทศไปแล้วจำนวน
มาก ดังนั้น ผู้ผลิตหากต้องการอยู่รอดก็จำเป็นต้องปรับพัฒนาการผลิตที่มุ่งเน้นคุณภาพเพื่อหนีสินค้าตลาดล่างแล้วไปแข่งขันในตลาดระดับบน
แหล่งข่าวจากส.อ.ท.กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าจากจีนได้เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกับตลาดในประเทศดังนั้นการเจรจาเพื่อเปิดตลาดตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-จีน
(FTA) จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องควรศึกษารายละเอียดลงลึกถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยและจีนเพื่อการลดภาษีแล้วไทยจะไม่เสียเปรียบเพราะหากไทยเปิดตลาดให้กับสินค้าจากจีนเพื่อแลกกับการทำตลาดสินค้าอีกประเภทหนึ่งอาจได้ไม่คุ้มเสียเพราะสินค้าจีน
ค่อนข้างได้เปรียบในหลายๆ ด้าน
"การเปิด FTA กับประเทศต่างๆ รัฐควรศึกษาโครงสร้างต้นทุน ของประเทศนั้นๆ เปรียบเทียบ
อาทิ ค่าแรง วัตถุดิบ อัตราภาษี ศักยภาพ มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีหรือ
NTB" แหล่งข่าวกล่าว
ชิ้นส่วนยานยนต์ขอรัฐปกป้อง
นายยงเกียรติ์ กิตะพาณิชย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยาน-ยนต์กล่าวว่าขณะนี้ผู้ผลิตชิ้น
ส่วนฯ ได้เสนอไปยังหน่วยงานราชการ เพื่อกำหนดท่าทีของไทยในการทำความตกลงว่าด้วยข้อตกลงเเขตการค้าเสรีไทย-จีน
และอื่นๆ โดยเห็นควรกำหนดให้ชิ้นส่วนอุตสาห-กรรม ยานยนต์ที่มีผลิตในประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่ามากให้เจรจาจัดอยู่ในกลุ่ม
อ่อนไหวหรือ Sensitive Temporary Exclusion หากมี มูลค่าที่ผลิตในไทยไม่มากกำหนดให้เป็นกลุ่ม
สินค้าปกติคือ Normal Track
"เรื่องของ FTA ไทย-จีน ในเรื่องต้นทุนจีนค่อนข้างได้เปรียบเพราะค่าแรงถูก แต่ในเรื่องของเทคโนโลยีไทยค่อนข้างนำหน้า"