Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 มกราคม 2551
พรีมาเวสท์ขายกองบอนด์เอกชน ลงทุนสั้น6เดือนจ่ายผลตอบแทนจูงใจ 2.95%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรีมาเวสท์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

พรีมาเวสท์, บลจ. - Prima Vest
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ
Funds




บลจ.พรีมาเวสท์ ส่ง“กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม 12” ลุยตลาดเพิ่ม โดยจะเน้นลงทุนตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี คาดการณ์ผลตอบแทน 2.95% ต่อปี เปิดขายไอพีโอถึง 29 มกราคมนี้ ด้าน"เพิ่มพล" เผยปีนี้ ไม้ได้ตั้งเป้าเอยูเอ็ม แต่จะพยายามรักษาการเติบโตให้เท่าอุตสาหกรรม ชี้ตลาดตราสารหนี้อีก 6 เดือนยังดี แต่ระวังปัจจัยลบกดดันผลตอบแทนต่ำ

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (เอยูเอ็ม) ภายในปีนี้ บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ แต่จะพยายามรักษาอัตราการเจริญเติบโตให้สูงกว่าอุตสาหกรรมกองทุนรวมให้ได้ โดยในเดือนนี้ บริษัทจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม 12 (KPI12) เพิ่มอีก 1 กองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีนโยบายในการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 23-29 มกราคม 2551 และมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 50,000 บาท

โดยกองทุนนี้เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นของสถาบันการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไป และตราสารหนี้ของภาคเอกชนที่มีศักยภาพสูง โดยคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดว่าจะได้รับ 3.41% ต่อปี ซึ่งภายหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.46% ต่อปี ประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับคือ 2.95% ต่อปี

สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม 12 มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย ตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) ตราสารแห่งหนี้ของสถาบันการเงิน หรือธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และ/หรือเงินฝากของสถาบันการเงิน หรือธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)

ส่วนสัดส่วนเงินลงทุนที่กองทุนจะนำเงินไปลงทุนประกอบไปด้วย ตราสารหนี้ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 17% และสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.50% ตราสารหนี้ของบริษัท ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 17% สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.50% ตราสารหนี้ของบริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลิสซิ่ง จำกัด มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 16% สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 4.10% ตราสารหนี้ของธนาคารดอยซ์แบงก์ มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 17% สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.10% ตราสารหนี้ของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮแบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 17% สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.10% และตราสารหนี้ของธนาคารคาลิยง มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 16% สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.20%

นายเพิ่มพล กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้ายังมีแนวโน้มเจริญเติบโตได้ดี แต่จะต้องดูอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับในขณะนั้นด้วยว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้หรือไม่ โดยอาจมีปัจจัยที่เข้ากระทบอย่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ก็จะทำให้ผลตอบแทนลดลง และไม่สามารถจูงใจลูกค้าได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us