Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 มกราคม 2551
พานาโซนิคชู2หัวหอกแอร์-ตู้เย็นซุ่มโค่นโตชิบาหลังเด็ดปีกมิตซูบิชิ             
 


   
search resources

Electric
พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย), บจก.




พานาโซนิคหวังรัฐบาลอุ้มเศรษฐกิจฟื้น เดินหน้าลุยตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง ขอคว้าที่หนึ่งในกลุ่มตู้เย็นให้ได้ปีนี้ หลังประสบความสำเร็จขึ้นเทียบชั้นตลาดแอร์ ตีคู่มิตซูบิชิได้สำเร็จในปีก่อน ด้วยแชร์ 23% เท่ากัน มั่นใจปีนี้ทั้ง 2 หัวหอกช่วยดันยอดขายเติบโตอีก 10% เป็นอย่างน้อย สู่เป้า 7,700 ล้านบาทแน่

นายโมโตยูกิ ซิเงโมริ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไม่ว่ารัฐบาลของไทยจะออกมาในรูปแบบใด แต่ทางบริษัทฯเชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะต้องให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจอย่างแน่นอน และพร้อมที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ดังนั้นทางพานาโซนิคจึงมีความมั่นใจในศักยภาพของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยค่อนข้างสูง จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้มั่นใจว่ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของบริษัทฯจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,700 ล้านบาทแน่

ขณะที่ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรือเอชเอ ซึ่งทางจีเอฟเค ได้ประเมินไว้ คาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตเพียง 2-3% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 43,400 ล้านบาท

“ดังนั้นทางบริษัทฯจึงได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่สู่ตลาดด้วย โดยเฉพาะหัวหอกอย่าง เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ที่จะเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ให้กลุ่มเอชเอปีนี้ไม่ต่ำกว่า 60% ของรายรวมที่ตั้งไว้”

โดยแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯได้วาง 2 ผลิตภัณฑ์หลัก เพื่อเป็นหัวหอกในการทำตลาดปีนี้ คือ 1.เครื่องปรับอากาศ โดยจะใช้งบประมาณทางการตลาด 10% ของยอดขาย โดยเตรียมผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดถึง 16 รุ่น ชูเรื่องของนวัตกรรมอินเทลลิเจนท์ อินเวอร์ทเตอร์ ที่มีข้อดี 3 ข้อ คือ 1. ลดการใช้พลังงานลงถึง 50% ให้ความเย็นเร็วขึ้น 1.5 เท่า และ ควบคุมอุณหภูมิได้ ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท ขนาด 9,000 บีทียู จนถึง 65,000บาท ในขนาด 24,000 บีทียู ซึ่งเมื่อเทียบราคากับคู่แข่งอย่างมิตซูบิชิจะมีราคาต่ำกว่า 5% แต่สูงกว่าแบรนด์เกาหลี 10%

สำหรับปีนี้(มี.ค.51-เม.ย.52)บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรวมกว่า 175,000 เครื่อง หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 25% ขึ้นเป็นผู้นำทิ้งห่างมิตซูบิชิให้ได้ หลังจากประสบความสำเร็จคว้าตำแหน่งผู้นำเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา ร่วมกับมิตซูบิชิ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเท่ากันที่ 23% จากมูลค่าตลาดรวมที่ 6.3 แสนเครื่อง

ท้าชนโตชิบาขอคว้าที่หนึ่งกลุ่มตู้เย็น

ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทฯจะเน้นทำการตลาดในกลุ่มตู้เย็นมากยิ่งขึ้น โดยได้เตรียมงบการตลาดไว้ไม่ต่ำกว่า 10% ของยอดขายที่วางไว้ โดยมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถขึ้นเป็นผู้นำทางการตลาดได้ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 25% จากเดิมมีส่วนแบ่ง 22% เป็นอันดับ 2 ของตลาด รองจากโตชิบา ที่เป็นผู้นำอยู่ด้วยส่วนแบ่งกว่า 23%

นางสาวเพลินพิศ เจริญพานิชสันติ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ตู้เย็น ฝ่ายการตลาด บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ตู้เย็นขึ้นเป็นผู้นำทางการตลาดได้นั้น ทางบริษัทฯจะใช้กลยุทธ์หลายๆด้าน ทั้งในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น การกลับช่องแช่เย็นไว้ด้านบน และนำช่องแช่แข็งไว้ด้านล่างแทน รวมทั้งการนำเอานวัตกรรมตรวจจับอุณหภูมิไมโครโปรเซสเซอร์ และระบบ คอมเพรสเซอร์ อินเวอร์ทเตอร์เข้ามาเสริม คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

โดยปีนี้จะเปิดตัวรุ่นใหม่ 5 รุ่น ซึ่งจะมีเพียง 3 รุ่น ที่มีระบบอินเทลลิเจนท์ อินเวอร์ทเตอร์ ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศมาใช้กับตู้เย็นด้วย ซึ่งทั้ง 3 รุ่นจะมีการทำตลาดแบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มหลัก คือ 1. ขนาด 100 ลิตร หรือรุ่นเมจิกท็อป นำเสนอช่องแช่เย็นด้านบน ช่องแช่แข็งด้านล่าง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง 2.รุ่นที่มีช่องเก็บผักกว้างขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3-5 คน 3.เป็นรุ่นที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายครอบครัวขนาดใหญ่

นางสาวเพลินพิศ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดตู้เย็นปีนี้คาดว่าจะเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าตลาดที่ 1.2 ล้านเครื่อง แบ่งออกเป็น 1 ประตู 65% และ 2ประตู 35% ขณะที่ขนาด 2 ประตูมีแนวโน้มการเติบโตสูงถึง 4% ต่อปี และเป็นขนาดหลักที่ทำให้ตลาดตู้เย็นเติบโตได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us