วงการธุรกิจธนาคาร 2-3 ปีมานี้การปรับตัว หน้าตาในระดับกรรมการกันมาพอสมควร
โดยเฉพาะแบงก์ขนาดกลางและเล็ก ดูจะมีการเคลื่อนไหวปรับตัวกันมากเป็นพิเศษกว่าแบงก์ขนาดใหญ่ๆ
แบงก์ศรีนคร ที่ว่ากันอย่างเชื่อมั่นว่า เป็นของเตชะไพบูลย์ก็ขยับขยายสัดส่วนที่นั่งในบอร์ดกรรมการให้กลุ่มอื่นเข้ามาแทนที่บ้าง
อาทิ ซอ โสตถิกุล ยักษ์ ใหญ่ธุรกิจก่อสร้างและผงชูรสซึ่งเป็นกลุ่มแต้จิ๋ว
เหมือนกัน
แบงก์เอเชียก็อีกแห่งหนึ่งที่เอื้อชูเกียรติ และภัทรประสิทธิ์ยืนยัดสัดส่วนที่นั่งบอร์ดไว้มากก็ต้องคลายตัวลงให้สายทรัพย์สินฯเข้ามาแทน
จรูญพันธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี พ่อจิรายุ ผู้อำนวยการทรัพย์สินฯ
และจรัส ชูโต กรรมการปูนใหญ่และอดีตกรรมการแบงก์ชาติทั้ง 2 ท่านนี้อยู่ในบอร์ดแบงก์เอเชียที่ถูกคนในวงการวิเคราะห์ว่าเป็นตัวแทนของสายทรัพย์สินฯ
ที่เข้าไปในแบงก์นี้
การปรับตัวในระดับบอร์ดของแบงก์เป็นเรื่องของหน้าตาหรือภาพพจน์และธุรกิจที่ผู้ใหญ่เหล่านี้มีสายสัมพันธ์อยู่
เป็นผลพลอยได้ที่ไหลเข้าแบงก์ได้โดยไม่ยากนัก
ตามข่าวรายงานว่า ยอกจากหม่อมจรูญพันธ์ และจรัสแล้วยังมีนันท์ กิจจาลักษณ์
อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ ที่เกษียณออกมา หม่อมดิศนัดดา ดิศกุล และ
ภิญโญ ธีรนิติ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ก็นั่งอยู่ในบอร์ดกรรมการด้วย "กรรมการท่านเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาในฐานะผู้ถือหุ้น
แต่เข้ามาในส่วนตัวที่ถูกเชื้อเชิญจากกรรมการท่านอื่น" จุลกร สิงหโกวินทร์
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงในแบงก์เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง
การเชื้อเชิญกรรมการผู้ทรงเกียรติท่านเหล่านี้ แหล่งข่าวในวงการธนาคารให้ข้อมูลว่า
ต้องให้เครดิตกับ ยศ เอื้อชูเกียรติลูกชายจรูญ เอื้อชูเกียรติ ประธานกรรมการแบงก์คนเก่าที่เปิดทางให้หม่อมจรูญพันธ์เข้าแทนที่เพราะยศรู้จักดีกับธารินทร์
นิมมานเหมินทร์ คนโตสุดในไทยพาณิชย์ การต่อสายกับหม่อมจิรายุ เพื่อให้ไปถึงพ่อ
จึงไม่ยากเย็นนัก เมื่อผ่านทางธารินทร์
ส่วนกรรมการท่านอื่นๆ เป็นหน้าที่สิริลักษณ์ รัตนากร ที่ยศชวนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาเพื่อวางงานด้านระบบบัญชีและการตรวจสอบที่เธอชำนาญการเอามากๆ
ว่ากันจริงๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงกรรมการในแบงก์มีเหตุผล 2 ประการ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งคือ
เปลี่ยนเพราะกรรมการคนเก่าอยากเกษียณ หรือเพราะเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงกับแบงก์ชาติ
เป็นที่รู้กันว่า แบงก์เอเชียได้รับความช่วยเหลือจากแบงก์ชาติวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอย่างมีเงื่อนไข
จำนวน 1,000 ล้านบาทเพื่อนำรายได้ส่วนนี้ไปทยอยคิดยอดขาดทุนสะสมที่มีอยู่เป็นพันล้านบาท
จากการที่ผู้บริหารชุดก่อนๆ สร้างกันมา
จนวันนี้ฐานะของแบงก์เอเชียเริ่มฟื้นตัวขึ้น แม้จะมีการลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวรกันหลายร้อยล้านบาทเมื่อ
2 ปีก่อนจนเป็นที่รู้กันในวงการแบงก์เกอร์ว่า สามารถหารายได้และทำกำไรสุทธิได้ไม่ต่ำกว่า
150 ล้านบาทต่อปีเพื่อนำไปทยอยคิดยอดขายขาดทุนสะสม ผู้บริหารระดับสูงรวมทั้งกรรมการในแบงก์เองเห็นผลการประกอบการแล้ว
ก็เชื่อมั่นกันว่าสิ้นปี 2535 จะสามารถลบล้างยอดขาดทุนสะสมได้หมด
ความจริงกลุ่มผู้ถือหุ้น และกรรมการในแบงก์เอง ก็หวานอมขมกลืนไม่น้อยที่ความหวังในสิ่งนี้จะต้องแลกมาด้วยการถูกระงับจ่ายเงินปันผลจากกำไรถึง
2 งวดบัญชีมาแล้ว และก็ไม่รู้ว่าในงวดบัญชีต่อๆ ไป ทางแบงก์ชาติจะยินยอมให้มีการจ่ายปันผลจากกำไรแก่ผู้ถือหุ้นได้หรือไม่เพราะเงื่อนไข
SOFT LOANS ที่ว่า มันค้ำคออยู่
การสับเปลี่ยนตัวกรรมการจากบุคคลภายนอก โดยเฉพาะจากสายทรัพย์สินฯนับว่าเป็นความฉลาดของยศไม่น้อย
เท่ากับยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัวคือ หนึ่ง-ยศรู้ว่ายิ่งนานวัน ความจำเป็นของฐานะเงินกองทุนแบงก์ต้องใหญ่ขึ้น
นั่นหมายถึงการเพิ่มทุนต้องตามมา จังหวะขั้นตอนนี้เท่ากับเป็นเงื่อนไขให้ภัทรประสิทธิ์มีโอกาสซื้อหุ้นเก็บเข้ากระเป๋าได้เต็มที่
จนอาจเป็นอันตรายต่อสัดส่วนหุ้นของเอื้อชูเกียรติได้การที่ยศดึงคนนอกเข้ามา
ก็เท่ากับช่วยคุ้มกันความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ และสอง-การเข้ามาของกรรมการสายทรัพย์สินฯและนักบริหารมืออาชีพ
ไม่ว่าจะเป็นจรัส ชูโต ก็ดี หรืออัศวิน คงสิริจากบรรษัทเงินทุนฯก็ดี กรรมการเหล่านี้มีประสบการณ์และสายสัมพันธ์กับสถาบันธุรกิจอื่นๆ
กว้างขวาง เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของแบงก์มากว่าโทษ
"อย่างน้อยทางแบงก์ชาติก็สบายใจที่เงื่อนไข SOFT LOANS คงไม่มีปัญหาอะไร
เพราะทางผู้บริหารแบงก์เอเชียคงต้องพยายามบริหารธุรกิจนี้ให้ได้ตามเป้าหมายของแผนที่ตกลงไว้กับแบงก์ชาติ"
แบงก์เกอร์ระดับกรรมการบริหารท่าหนึ่งให้ความเห็นกับ "ผู้จัดการ"
ว่ากันจริงๆ แล้วผลจากการสับเปลี่ยนกรรมการครั้งนี้ทางฝ่ายยศ และคนในตรักูล
เอื้อชูเกียรติ ซึ่งใจกว้างพอที่จะเปิดทางให้คนข้างนอก ดูจะสบายใจมากกว่าทุกข์ใจ
แม้จะดูอึดอัดบ้าง เพราะมีคนมาคุมอีกทีก็ตามแต่นั่นก็หมายถึงจุดหมายปลายทางของยศมิใช่หรือที่ต้องการให้แบงก์นี้บรรลุเป้าหมายแผนพัฒนา
5 ปีของธนาคารให้ได้
ซึ่งเมื่อถึงตรงนั้นได้ ก็หมายถึงความเป็น "ไท" ของแบงก์เอเชียเสียที
ขณะเดียวกัน ยศและตระกูล "เอื้อชูเกียรติ" ก็อาจคุมแบงก์นี้ได้ต่อไป
โดยมีคนในภัทรประสิทธิ์ เป็นมวยรองไป