THOUGHT LEADERS : Insights on the Future of Business เป็นหนังสือ ที่รวบรวมบทสัมภาษณ์ และประวัติส่วนตัวของนักบริหารธุรกิจ
และนักคิดชั้นนำของโลก 12 คน พวกเขาเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะแนวความคิด และปรัชญาจึงประสบความสำเร็จ
ในอดีตไม่เฉพาะ 12 คนเท่านั้น ที่ประสบความสำเร็จในแง่การบริหารงาน ยังมีนักบริหารงานอีกหลายร้อยคนที่นำบริษัทเจริญเติบโต
แต่เมื่อช่วงปลายศตวรรษ ที่ 20 วิกฤติเศรษฐกิจ ที่เริ่มต้นจากประเทศแถบเอเชียแล้วลุกลามไปทั่วโลกส่งผลให้บริษัทหลายแห่งล่มสลาย
เกิดจากหลายสาเหตุส่วน หนึ่งมาจากนโยบาย ที่ผิดพลาดของผู้นำองค์กร แต่ 12
คนในหนังสือเล่มนี้ รอดพ้นออกมาได้
อย่างไรก็ตามจากนี้ไปการที่จะเป็นผู้นำองค์กรอย่างแข็งแกร่งได้นั้น จะใช้
แผนเดิมๆ ต่อไปไม่ได้ เนื่องจากมีหลายสาเหตุโดยเฉพาะจินตนาการ และแรงผลักดันแห่งโลกยุคดิจิตอลเป็นแรงบีบคั้นจนบางครั้ง
มองดูว่าไม่สามารถต้าน ทานไหวคือ อุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีถือว่าเป็น
กลยุทธ์สำคัญของการอยู่รอดบนโลกธุรกิจ ซึ่งผู้บริหารทุกคนตระหนักดีว่าต่อ
จากนี้ไปการขับเคลื่อนองค์กรจะต้องเข้าใจ แม่นยำในเรื่องเทคโนโลยี ดังนั้น
ภาระหน้าที่ดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของพวกเขา ถ้าใครวิ่งตาม ไม่ทันโอกาส ที่จะได้ยินคำว่า
"กำไร" ภายใต้การบริหารของตนเองนั้น ดูเลือนลางเสียเหลือเกิน
Char les Handy ศาสตราจารย์ London Business School และผู้แต่งหนังสือ The
Age of Unreason และ The Age of Paradox, Minoru Makihara ประธานกรรมการบริหาร
Mitsubishi Corporation, Keshub Mahindra ประธาน Mah indra & Mahindra, C.K.
Prahalad ศาสตราจารย์ University of Michigan และผู้ร่วมแต่งหนังสือ Competing
for the Future, John Kao ศาสตราจารย์ Harvard Business School และผู้แต่งหนังสือ
Jamming, Paul M. Romer ศาสตราจารย์ Stan-ford Business School, Stan Shih
ผู้ก่อตั้ง และประธานบริหาร Acer Group
Norbert Walter หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Deutsche Bank, John T. Chambers
ประธานกรรมการบริหาร Cisco Sys tems, Warren Bennis ศาสตราจารย์พิเศษด้านบริหารธุรกิจ
University of Southern California และ Marshall School of Business, Gary
Hamel ศาสตราจารย์พิเศษ London Business School และผู้ร่วมแต่งหนังสือ C
ompeting for the Future, Jean-Rene Fourtou ประธานบริหาร Rhone-Poulenc
นักบริหาร และนักคิดเหล่านี้ถูก Joel Kurtzman เกาะติด เพื่อขอสัมภาษณ์ด้วยตนเอง
ยกเว้น Stan Shih และ John T. Chambers แต่กว่ า Joel Kurtzman จะสามารถผลิตหนังสือเล่มนี้ออกมาได้ต้องใช้เวลากว่า
10 ปีในการเดินทางเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้ ที่คิดว่ามีแนวความคิดน่าสนใจที่สุดแห่งปลายศตวรรษ ที่
20 ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึง มีทั้งคนเก่ง ที่ชอบ เปิดเผยตัว และชอบปิดทองหลังพระถูก
Joel Kurtzman สัมภาษณ์
ผู้ที่ถูกสัมภาษณ์แต่ละคนต่างมีมุมมองกว้างไกลระดับโลก โดย Joel Kurtzman
ได้เดินทางแสวงหาพวกเขาไปทุกมุมโลก ทั้งสหรัฐอเม ริกา ยุโรป เอเชีย เกือบทุกคนต่างทำงาน
อาศัย และศึกษาภายนอกประเทศของตนเอง ฉะนั้น THOUGHT LEADERS จึงเป็นแหล่งรวมสารพัดความรู้อีกเล่ม
ประเด็นสัมภาษณ์ ที่ Joel Kurtzman ต้องการให้ผู้ถูกสัมภาษณ์พูด คือ ผลงานชิ้นใหม่ล่าสุด ที่กำลังทำอยู่
ดังนั้น คำถามจึงเป็นไปในลักษณะตรงไป ตรงมา โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ของการดำเนินธุรกิจ ที่ผู้บริหารระดับหัวกะทิ
ส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ อีกทั้งยังมุ่งประเด็นไปยังวิธีการ กำหนดยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ
ความเติบโตของทรัพยากรบุคคล และพันธะทางสังคมใหม่ๆ ที่ก่อ ตัวขึ้นระหว่างบริษัท
พนักงาน และผู้ถือหุ้น รวมไปถึงทิศทางต่างๆ ของสังคม ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ความย ากลำบาก ที่ Joel Kurtz- man ได้มานั้น ถูกลบทิ้งด้วยความภูมิใจ เขากล่าวว่า
"ช่างเป็นประสบการณ์ ที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน และยังได้รับความตื่นเต้นเร้าใจในการไล่ล่าติดตามค้นหานักปรัชญาเหล่านั้น ด้วย
เพราะไม่มีสิ่งใด ที่จะตื่นเต้นเท่ากับการได้เป็นคนแรก ที่ค้นพบใครสักคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่ง
ในเรื่องสติปัญญาแล้วนำมาแจกจ่ายให้คนทั่วไปรับรู้"
แรงกระตุ้น ที่ทำให้ Joel Kurtzman ทำเช่นนี้เกิดจากความช่าง สังเกตของเขาโดยแท้
ด้วยการมองเห็นการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเต็มไปด้วยเกมการแข่งขัน ที่ต้องต่อสู้ด้วยสมอง และปัจเจกบุคคล ที่แต่ละคนมี
นอกจากนี้ยังเกิดจากการได้พบว่าบนโลกนี้ได้มีมหาวิทยาลัยด้านบริหารธุรกิจเกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด
โดยเฉพาะการเรียนการสอนหลักสูตรเอ็มบีเอ อีกทั้งมีปรากฏการณ์ใหม่ล่าสุดในสายตาของเขานั่นคือ ผู้บริหารบริษัทหันมาซื้อหนังสือไปอ่านกันมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดจาก ประสบการณ์จริงของ Joel Kurtzman ที่ชอบเที่ยวเดินด้อมๆ
มองๆ ตามออฟฟิศบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ซึ่งในอดีตพบว่าในห้องผู้บริหารระดับสูงจะไม่ค่อยพบหนังสือ
ชั้นวางหนังสือ มักจะเต็มไปด้วยเอกสารรายงาน โต๊ะกาแฟ ถูกใช้วางเครื่องพิมพ์ดีด
ขณะที่ โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยกองกระดาษท่วมหัว
ปัจจุบันถึงแม้ว่าห้องผู้บริหารเหล่านั้น ยังมีกองกระดาษเหลือให้เห็นอยู่
แต่ชั้นวางหนังสือกลับทำหน้าที่ของมันอย่างถูกต้อง ซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือ
นานาชนิด เครื่องพิมพ์ดีดถูกเขี่ยทิ้งลงจากโต๊ะกาแฟ แล้วแทน ที่ด้วยวารสาร และ
นิตยสารทางธุรกิจดังๆ ทั่วทุกมุมโลก
ด้านโต๊ะทำงานเหลือให้เห็นเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถท่องเที่ยวไปในอินเตอร์เน็ต เพื่อค้นหาความรู้ใหม่ๆ
ส่วนตัวผู้บริหารเองขยันในการเข้าร่วมฟังสัมมนามากขึ้น เพื่อไม่ให้คู่แข่งแซงหน้าตนเองไปได้
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นอาหารสมองจานหนึ่งสำหรับนักแสวงหาความรู้ ที่ชอบอาศัยประสบการณ์จริงจากผู้บริหาร
ที่ประสบความสำเร็จบนโลกธุรกิจ แล้วนำไปประยุกต์ใช้กับบริษัทตนเอง แม้ว่าเนื้อหาอาจจะคล้ายๆ
กับหนังสือ เล่มอื่นๆ บ้างก็ตาม แต่ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถช่วยนักอ่านได้...
ไม่มากก็น้อย
