|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จับตารับเหมาดาวรุ่งดวงใหม่ทีอาร์ซี สวม 3 บทบาท ผู้รับเหมา-ผู้บริหารโครงการ-ดีเวลลอปเปอร์ ตั้งเป้าดันรายได้ปี 51 โต 55% ปรับกลยุทธ์มุ่งรับงานเทิร์นคีย์-เป็นดีเวลลอปเปอร์รักษากำไรเติบโต พร้อมจับมือพันธมิตรลุยงานต่างประเทศ เผยจุดยืนขอโดดเด่นในตลาดบลูโอเชี่ยนงานรับเหมาเฉพาะทาง
เมื่อมองภาพทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น แม้จะเป็นเพียงบริษัทขนาดเล็ก มีทุนจดทะเบียนเพียง 256.67 ล้านบาท แต่การเติบโตด้านรายได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาด MAI พร้อมกับจุดยืนธุรกิจที่แตกต่าง เน้นรับเหมางานเฉพาะด้านที่ต้องอาศัยเทคนิคสูง ได้แก่ งานวางระบบท่อก๊าซ งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี เป็นบลูโอเชี่ยนของตลาดรับเหมาก่อสร้างที่มีการแข่งขันระหว่างผู้รับเหมาไทยไม่สูงนักเมื่อเทียบกับงานก่อสร้างประเภทอื่น ก็ทำให้ทีอาร์ซีฯ เป็นดาวรุ่งที่วงการรับเหมาก่อสร้างต้องจับตา
การอิงไปกับธุรกิจประเภทพลังงานและปิโตรเคมีที่กำลังเติบโตอยู่ในขาขึ้น เป็นข้อได้เปรียบของทีอาร์ซีฯ ทำให้มีงานรับเหมาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หากงานมีขนาดใหญ่เกินตัว หรือเป็นงานในต่างประเทศทีอาร์ซีจะใช้วิธีจับมือพันธมิตร เพื่อสร้างเครดิตและความแข็งแกร่งในการเข้าไปรับงานดังกล่าว เช่น การจับมือกับบริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไพพ์ไลน์ บูโร (CPP) บริษัทย่อยของไชน่า เนชั่นแนลปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (CNPC) ซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในจีน
อีกบทบาทใหม่ที่น่าจับตาของทีอาร์ซี คือ การสวมบทบาทเป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของที่ดิน กับนักลงทุนต่างชาติ ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และผู้บริหารงานก่อสร้างให้กับนักลงทุนจนจบโครงการ ภายใต้หน่วยงาน “Project Development & Investment” ซึ่งเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ ภายหลังจากการควบรวมกิจการกับบริษัท สหการ วิศวกร จำกัด เพื่อดูแลงานด้านการพัฒนาโครงการโดยเฉพาะ โดยประเดิมด้วยโครงการรอยัล ราชดำริ อาคารสำนักงานเกรดเอสูง 50 ชั้น บนที่ดิน 6 ไร่ริม ถ.ราชดำริ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในนามบริษัท ราชเพลิน จำกัด ซึ่งทีอาร์ซีถือหุ้นร่วมพันธมิตร คือ บริษัท ซีแลนด์ เบอร์ฮาด จำกัด ในสัดส่วน 60% และกลุ่มมณียา 30% โดยเป็นการใช้สิทธิเช่าที่ดินจากกลุ่มมณียา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จากอเมริกาเพื่อขายยกโครงการ และจะมีความชัดเจนในอีก 1 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้บริษัทฯ จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้บริหารงานก่อสร้างตลอดโครงการ
สมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 30% สูงกว่าธุรกิจรับเหมา ซึ่งการรุกธุรกิจนี้ช่วยหนุนให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมองหาที่ดินแปลงใหม่ในย่านซีบีดีที่จะพัฒนา และนำไปเสนอขายต่อในลงทุนในโมเดลเดียวกับโครงการรอยัล ราชดำริอีก 1 โครงการด้วย
แม้ว่าทีอาร์ซีฯ จะมีบริษัท สหการ วิศวกร จำกัด ที่มีประสบการณ์ด้านงานโยธาเป็นบริษัทลูก แต่ทีอาร์ซีฯ ก็ยังวางตัวเป็นเพียงผู้บริหารโครงการ และให้ผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีประสบการณ์ด้านงานโยธามารับงานแทน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเจ้าของโครงการ โดยที่ไม่ได้ตั้งเป้าที่จะผลักให้บริษัทนี้เติบโตเป็นยักษ์ใหญ่ทางด้านงานโยธา หรือเพื่อรองรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทจะพัฒนาเอง เนื่องจากบริษัทนี้ยังไม่มีประวัติการรับงานที่มากพอ และไม่อยากเข้าไปในตลาดงานที่มีการแข่งขันสูง แต่สมัยตั้งเป้าเพียงว่า จะต้องมีรายได้ต่อเนื่องปีละ 200 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีแรก แต่ในอนาคตจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ต้องรอดูอีกครั้ง
ปีนี้ทีอาร์ซีตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 55% โดยมีการปรับตัวเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเน้นรับงานเทิร์นคีย์เป็นหลัก ซึ่งจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ด้วยตนเอง พร้อมกับจับมือพันธมิตรรุกรับงานในต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า ส่วนในระยะยาวของทีอาร์ซี สมัยวางไว้ว่า จะต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้ทันกระแสโลก ด้วยการเน้นเข้าไปในตลาดงานที่มีเทคโนโลยีสูง มีการแข่งขันต่ำ
|
|
|
|
|