Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์21 มกราคม 2551
ไขกลยุทธ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร"ยูนิลิเวอร์"ครีเอตดีมานด์ สร้างพฤติกรรมมื้อเช้า แบบสนุกสนาน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิลีเวอร์

   
search resources

ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง, บจก.
Food and Beverage
Marketing




นโยบายของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารของ ยูนิลีเวอร์ ที่มีพันธกิจว่า "เพื่อเติมพลังให้ชีวิตและเสริมสุขภาพให้แข็งแรง" ในปี 2551 เปิดแนวรุกครั้งแรกด้วยแบรนด์ "เบสท์ฟู้ดส์" ที่อยู่ภายใต้คอนเซปต์ส่งเสริมโภชนาการเด็ก ด้วยความอร่อยและสะดวก ในมื้อเช้า ซึ่งเป็นรูปแบบการทำตลาดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

เจอโรม ชาราโชน รองประธานกรรมการบริหาร-กลุ่มธุรกิจอาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง กล่าวว่าสำหรับปี 2551 บริษัทจะเน้นทำการตลาดผลิตภัณฑ์แยม เบสท์ฟู้ดส์ อย่างจริงจังมากขึ้น หลังเริ่มทำตลาดอีกครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาทานอาหารเช้ามากขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาดแยม โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 62% ของมูลค่าตลาดรวมแยมในปีที่ผ่านมา 200 ล้านบาท เติบโต 10%

ล่าสุด บริษัทได้ใช้งบ 9 ล้านบาท เปิดตัวสื่อแอนิเมชั่นรูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อเรื่อง แยม-ปัง คู่หูจอมพลัง ใช้ระยะเวลาในการเผยแพร่ออกอากาศเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกลางเดือนเมษายน 2550 ทั้งนี้ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นแยม-ปัง คู่หูจอมพลัง เป็นการสื่อสารที่ใช้ตัวละครเอกที่เป็นแยม และขนมปัง ซึ่งเป็นคู่หูที่มีพลังพิเศษที่จะออกมาโลดแล่นสร้างความสนุกสนานและเสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆในด้านต่างๆ โดยมี บริษัท มีเดียออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิต และทีมนักพากย์มืออาชีพ น้าต๋อย เซนเบ้ มาให้เสียงเพื่อสร้างความสนุกสนาน

การสื่อสารเรื่องการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์โดยใช้การ์ตูนแอนิเมชั่นนั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกของเบสท์ ฟู้ดส์ ที่นำสื่อเพื่อความบันเทิงมาใช้ในการสานต่อกิจกรรมรณรงค์สร้างพฤติกรรมให้เด็กทานอาหารเช้ามากขึ้น เพราะว่าสื่อในรูปแบบที่มีความสนุกสนาน จะสามารถเข้าถึงและกระตุ้นความสนใจกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและเยาวชนในวัยเรียนกลุ่มเป้าหมายอายุ 6-12 ปีได้ดี

รวมถึงกระตุ้นให้มีการบริโภคมื้อเช้าด้วย โดยมีการสำรวจของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเด็กและเยาวชนในวัยเรียนกว่า 30% ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสุขภาพอาหารเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่มีความสำคัญที่สุด แต่กลับพบว่าเด็กๆ ละเลยมันไปซึ่งภาวะดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ความพร้อมของครอบครัว, หรือแม้แต่เรื่องของความเร่งรีบที่ทำให้ผู้ปกครองไม่มีเวลาตระเตรียมอาหารจึงทำให้เด็กไม่มีเวลารับประทานอาหารเช้าตามไปด้วย

ส่วนรายได้รวมกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและไอศกรีม ของบริษัทในปีที่ผ่านมาเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักใกล้เคียงกับเติบโตในปีที่ผ่านมา ซึ่งไอศกรีม วอลล์ เติบโตสูงสุดเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก รองลงมาคือ คนอร์ และเบสท์ฟูดส์ ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นกัน รองประธานกรรมการบริหาร-กลุ่มธุรกิจอาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง กล่าว

เหตุผลที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารของยูนิลีเวอร์ รุกตลาดอาหารเช้า โดยส่งแบรนด์คนอร์ และเบสท์ฟู้ด ลงสู่ตลาดมื้อเช้า นั่นเป็นเพราะทั้ง เบสท์ฟู้ด และคนอร์ นั้นเป็นมีสินค้าที่มีจุดขายทางด้านความสะดวก (Convenience) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เพราะสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่มีเวลาบริโภคมื้อเช้า เพราะต้องใช้เวลานานในการเตรียมอาหารเอง ขณะเดียวกันโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นข้าวยังถือว่าเป็นอาหารหลักที่สำคัญของคนไทยด้วยเช่นกัน ส่วนการทำตลาดแยมเบสท์ฟูดส์ พยายามกระตุ้นพฤติกรรมการกินแยมในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะที่ผ่านมาพฤติกรรมของผู้บริโภคจะทานแยมคู่กับขนมปังเป็นหลัก

ส่วนความพยายามที่จะสร้างพฤติกรรมการบริโภคมื้อเช้าสำหรับกลุ่มเด็ก ที่ต้องทำให้อาหารเช้าเป็นมื้อที่สนุกของเด็กๆ และทำให้เกิดความต้องการจะรับประทานอาหารเช้านั้น มีการนำรูปแบบวิธีการสื่อสารที่มีความสนุกมาเป็นเครื่องมือในการทำตลาด ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่สำคัญของกลุ่มธุรกิจอาหารยูนิลีเวอร์ นำมาใช้เป็นตัวเชื่อมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการให้ความรู้ช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างแบรนด์ในระยะยาว ร อีกทั้งสร้างความประทับใจ ทัศนคติที่ดี และเกิดนิสัยในการรับประทานอาหารเช้าอย่างเป็นประจำ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของเด็กนักเรียนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ทานอาหารเช้าบนรถ หรือต้องไปหาซื้ออาหารเช้าทานบริเวณใกล้โรงเรียน และประชาชนส่วนใหญ่มักละเลยการทานอาหารเช้าเนื่องจากต้องรีบเร่งออกจากบ้านเพื่อไปส่งบุตรหลานที่โรงเรียนและไปทำงาน

สำหรับการรุกตลาดของผลิตภัณฑ์เบสท์ ฟูดส์ที่ผ่านมา ได้รณรงค์ให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มให้หันมาใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 ที่เริ่มแคมเปญรณรงค์การบริโภคอาหารเช้าภายใต้ชื่อ "Easy Breakfast" เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคนับล้านด้วยแนวคิดที่รับประทานง่าย ราคาไม่แพง และได้คุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้นเมื่อรับประทานแยมพร้อมกับขนมปัง และในปี 2549 เปิดตัวแคมเปญต้อนรับการเปิดเทอมเพื่อส่งเสริมให้คนไทยโดยเฉพาะเยาวชนไทยและผู้ปกครองได้มีทางเลือกในการบริโภคอาหารมื้อเช้า โดยเปิดกลยุทธ์การตลาดร่วมกัน (Co-marketing) จับมือกับขนมปังการ์ดีเนียจัดกิจกรรม "คาราวานอาหารเช้า" ด้วยขบวนรถเวสป้ากว่า 20 คัน พร้อมปอม ปอม สาวสวย หนุ่มหล่อ และรถบรรทุกอาหารเช้าเป็น "ขนมปังสเปรดรสทูน่า และเชดด้า ชีส" เพื่อมอบชุดอาหารเช้าที่กินได้สะดวก และมีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ต้องใช้เวลานานในการเตรียม

อีกทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเพิ่มเนื้อผลไม้ในแยม เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพสินค้าให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย รวมถึงการเปิดตัวเบสท์ฟูดส์ สควีซซี่ ที่มีความโดดเด่นที่บรรจุภัณฑ์ขวดบีบ ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น มาเป็นตัวกระตุ้นการบริโภคแยมแบบสร้างสรรค์หรือรูปแบบใหม่นอกเหนือจากบริโภคกับขนมปังอย่างเดียว และการเปิดตัวโครงการประกวด"จินตนาการกินได้" (Edible Art) ใช้คอนเซปต์ ศิลปะกินได้เป็นการผสมผสานระหว่างการสร้างไอเดียตามจิตนาการของเด็กๆ กับความสนุกสนานในการทำกิจกรรม และรสชาติความอร่อยของผลงานศิลปะที่เด็กได้สร้างสรรค์ขึ้น โดยผู้ที่เข้าประกวดเป็นเด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 6-12ปี และกำลังศึกษาในระดับประถมศึกษาเข้าร่วมการประกวดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากเบสท์ฟูดส์ สควีซซี่ ชิงทุนการศึกษามูลค่า 150,000 บาท

ก่อนหน้านี้ยังมีการนำรูปแบบการทำตลาดสร้างพฤติกรรมให้บริโภคมื้อเช้านั้น ยังนำมาใช้ทำตลาดเพื่อขับเคลื่อนแบรนด์คนอร์ เพื่อเปิดตัว "คนอร์ เอนเนอร์จี คัพ โจ๊ก” วิตามินบี 1 สูง ที่มีการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดลงมาสู่ตลาด พร้อมด้วยกิจกรรม "คนอร์ พลังเด็ก มอร์นิ่งแดนซ์” เพื่อเด็กไทยแข็งแรงกับปฏิบัติการ "2 อ "ปรับทัศนคติให้เด็กไทยหันมารับประทานอาหารเช้า และออกกำลังกายเป็นประจำในโรงเรียน 62 แห่ง และห้างสรรพสินค้าชั้นนำถึง 132 แห่งทั่วประเทศ ช่วยให้เด็กไทยแข็งแรง แก้ปัญหาการได้รับพลังงานไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ปกครองปรุงอาหารอร่อยที่ให้พลังงานเพียงพอได้อย่างง่ายๆภายในเวลาไม่กี่นาที เหมาะกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบในเมือง

รวมถึง ผลิตภัณฑ์คนอร์ซุปก้อน ยังเป็นแคมเปญล่าสุดที่ตอกย้ำความสนุกในการสื่อสารของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจอาหารของเครือยูนิลีเวอร์ที่เห็นได้ชัดเจน โดยจัดเรียลลิตี้โชว์ที่มีความสนุกสนาน "ตะลุยครัว เพื่อตัวเล็ก" มุ่งส่งเสริมการสร้างนิสัยรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ โดยชักชวนให้เด็กไทยหันมารับประทานซุปผักเพิ่มวันละ 2 ชาม เพื่อให้ได้รับผักครบตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ โดยมีคนอร์เป็นผู้ช่วยในการปรุงซุปผักให้อร่อยขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us