ดีแทค-แกรมมี่ สองยักษ์ใหญ่ต่างธุรกิจผนึกความแข็งแกร่งด้านโทรคมนาคมและบันเทิง
ภายใต้โมเดลธุรกิจแบบ “Performance Venture” สร้าง “โมบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์” สมบูรณ์แบบครั้งแรกในไทย
เจาะกลุ่มแมสลูกค้าพรีเพด
นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น
จำกัด (มหาชน) (แทค) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดีแทค เปิดเผยว่าดีแทคสร้างมิติใหม่ของนวัตกรรมการสื่อสารเพื่อความบันเทิงหรือโมบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทยและครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก
โดยการจับมือกับบริษัท จี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) ภายใต้โมเดลความร่วมมือทางธุรกิจแบบ
Performance Venture ซึ่งไม่ใช้การเป็นเพียงพาร์ตเนอร์ธรรมดา แต่นับจากนี้จะเป็นการประสานธุรกิจร่วมกัน
ทั้งนี้หลักการทำงานแบบในแบบ Performance Venture พันธมิตรทั้ง 2 ฝ่าย จะนำความชำนาญของแต่ละฝ่ายมารวมกัน
โดยดีแทคชำนาญเรื่องโทรคมนาคมและการสื่อสาร ส่วนแกรมมี่เป็นผู้นำทางด้านบันเทิง
เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านโมบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าแฮปปี้ดีพร้อม
ที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันได้ก้าวข้ามการติดต่อด้วยเสียงคำพูด ข้อความและภาพ
แต่ได้กลายเป็นการรวมความบันเทิงไว้ในเวลาเดียวกัน โมบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ตามโมเดลใหม่จากดีแทคในครั้งนี้
ไม่ใช่การสนับสนุนเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันหรือที่เกรียกกันว่าบันเดิลโปรโมทชั่น แต่เป็นการออกแบบการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
กับผู้ที่ให้บริการทางด้านความบันเทิง นำเอาศักยภาพความเป็นผู้นำมาผนวกกัน พร้อมที่จะนำลูกค้าเข้าสู่การตลาดยุคใหม่ของบริการแบบนวัตกรรมต่อเนื่องอย่างแท้จริงในตลาดประเทศไทย
“เรามุ่งมั่นที่จะปฏิรูปกลยุทธ์การตลาดและนำเสนอนวัตกรรมบริการสำหรับการสื่อสารโทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ลูกค้าเป็นผู้ได้เลือกใช้บริการที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกค้าในระบบพรีเพด
ซึ่งผู้ให้บริการรายอื่นๆ ยังไม่ได้ใส่ใจบริการลูกค้าในกลุ่มนี้มากนัก”เขากล่าวและว่า
“วันนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการสื่อสารโทรคมนาคมและวงการบันเทิงที่ไม่มีใครเคยนำเสนอสู่ตลาดมาก่อน
นับเป็นสูตรผสมใหม่ของกลยุทธ์การตลาดแบบเจาะกลุ่ม ที่นำควาบันเทิงแบบหลากหลายเพื่อผู้บริโภค
และให้สิทธิพิเศษกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค
ที่กำลังเข้าสู่ยุคโมบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่สมบูรณ์แบบ”
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจพรีเพดของดีแทค กล่าวว่าความร่วมมือในแบบ
Performance Venture จะเป็นแนวทางแรกที่ทั้งสองบริษัทร่วมกันทำธุรกิจ รวมกันทำการค้า
คิดแพกเกจออกมารวมกัน มีรายได้เข้ามาจากทั้งสองบริษัท ซึ่งโมเดลในรูปแบบนี้จะมีความยืดหยุ่น
มีการลองผิดลองถูกในแต่ละกิจกรรมที่ออกมาสู่ผู้บริโภค และเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ในแต่ละช่วงเวลาเป็นหลัก
“ในรูปแบบของ Performance Venture จะไม่ใช่เพื่อการร่วมมือกันแบบห่างที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น
แต่จะเป็นสัญญาผูกมัดกันระยะยาวที่จะร่วมกันทำตลาด การทำแพกเกจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในวันนี้คือจุดเริ่มต้นของแพกเกจที่จะออกมาร่วมกันในอนาคต”
นายธนา กล่าวว่ารูปแบบการทำธุรกิจร่วมกันอาจจะขยายไปสู่เรื่องของการร่วมมือกันขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของทั้งสองบริษัท
ที่จะนำไปวางขายในช่องทางของทั้งดีแทคและจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ สามารถช่วยให้ทั้งสองบริษัทมีศักยภาพในตลาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เพราะปัจจุบันลูกค้าของทั้งสองบริษัทมีฐานกลุ่มเป้าหมายที่สามารถเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันได้
“เรากำลังสร้างแพกเกจบริการที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มก็สามารถรับบริการในรูปแบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ต่างๆ
ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีบริการเสริมบนมือถือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูทีวีออนโมบายแล้วก็ตาม
แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่จับต้องยาก ที่สำคัญมีเรื่องของค่าใช้จ่ายจำนวนมากตามมาด้วย”
ด้านนายวราวิช กำภู ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ eotoday.com บริษัท จี เอ็ม เอ็ม
แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าทางแกรมมี่จะเปิดสายงานเฉพาะเพื่อดูแลโครงการ กิจกรรมความบันเทิงสำหรับแฮปปี้ดีพร้อมท์และจะไม่มีการจับมือกับโอเปอเรเตอร์รายอื่นในการทำธุรกิจเช่นนี้
โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจบันเทิงหลากหลาย ทั้งธุรกิจเพลง ธุรกิจภาพยนต์ทั้งไทยและต่างประเทศ
เพื่อนำเสนอกิจกรรมบันเทิงตลอดทั้งปีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ผู้ซื้อแฮปปี้ดีพร้อมสามารถสะสมคะแนนจากจำนวนเงินตามการเติมเงินตั้งแต่วันที่
1 มิถุนายน 2546 เพื่อนำมาแลกสิทธิประโยชน์ด้านความบันเทิงหลากหลายมากกว่า 300,000
ที่นั่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งในวันที่ 16 มิถุนายน 2546 จะมีการเปิดให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกในโครงการแฮปปี้ดีพร้อมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แพกฟรี
250,000 ราย หลังจากนั้นผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 50
บาท
สำหรับกิจกรรมบันเทิงในช่วงแรกนี้ เริ่มจากการดูคอนเสิร์ตรอบพิเศษแบบเบิร์ด เบิร์ด
กว่า 10,000 ที่นั่งในเดือนกรกฎาคม คอนเสิร์ตของศิลปินแกรมมี่และค่ายต่างๆ ตลอดปี
มากกว่า 50 รอบ ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด การดูภาพยนตร์ก่อนใครจากค่ายจีเอ็มเอ็มพิกเจอร์และค่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ
และร่วมสนุกในกิจกรรมบันเทิงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาโทรศัพท์ระบบพรีเพดในบ้านเราโตมาก แต่ยังไม่มีใครดูแลลูกค้าในระบบนี้อย่างจริงจัง
เมื่อดีแทคมีแนวคิดที่เน้นการดูแลลูกค้าในระบบนี้มาก และมีการปรับเป็นแฮปปี้ดีพร้อมท์
เราจึงเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลลูกค้า โดยการจัดแพกเกจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ให้กับลูกค้าแฮปปี้ดีพร้อมท์”นายวราวิชกล่าวและว่า
“ในความร่วมมือครั้งนี้เราไม่ได้คำนึงว่าจะต้องจับมือกับโอเปอเรเตอร์เจ้าใหญ่สุดเท่านั้น
แต่เราคำนึงถึงคอนเซ็ปต์ทางธุรกิจร่วมกันมากกว่า เพราะวันนี้คือรูปแบบของความร่วมมือแบบใหม่ที่ทั้งสองบริษัทนำเสนอสู่ตลาดเมืองไทยร่วมกัน”