|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจอสังหาฯในตระกูลเหลืองอมรเลิศ เจ้าของสวนสยาม ยันเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องเล่น ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ เหตุธุรกิจแยกจากกัน พร้อมหาโอกาสรุกพัฒนาโครงการอสังหาฯในเมืองท่องเที่ยว เล็งงัดที่ดิน 22 ไร่ในหัวหิน พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 4 ล้านบาท
จากเหตุการณ์เครื่องเล่นซูเปอร์สไปรัลในสวนน้ำของสวนสยามไฟเบอร์เกิดชำรุดฉีกขาด และก่อให้เกิดการบาดเจ็บของผู้ที่เข้ามาเล่นเครื่องเล่น และเริ่มมีความกังวลว่าการบริการอาจจะไม่ปลอดภัย จนทำให้นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานกรรมการบริหารบริษัท อมรพันธุ์นคร สวนสยาม จำกัด ได้ตัดสินใจประกาศขายทิ้งกิจการวงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งกระบวนการดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้ามาของผู้ซื้อรายใหม่
ขณะที่ตระกูลเหลืองอมรเลิศ ยังมีบริษัทที่เน้นพัฒนาโครงการจัดสรรภายใต้ชื่อบริษัท ช. อมรพันธ์วัฒนา จำกัด พัฒนาโครงการบ้านสวนอมรพันธ์ สวนสยาม และโครงการอมรพันธ์ เลียบวารี
น.ส.จิรวรรณ เหลืองอมรเลิศ รองประธานบริษัท ช.อมรพันธ์วัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า เหตุการณ์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนสยาม ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการทำงานของบริษัท ช.อมรพันธ์วัฒนาฯ เนื่องจากเป็นทีมงานคนละส่วน ทุกอย่างแยกกันทำงานชัดเจน โดยทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าดำเนินงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไป แต่อาจจะมีการแปลงเปลี่ยนในเรื่องของตลาดบ้าง โดยในปี 2551 คาดว่าจะหันไปรุกตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากทางบริษัท ช.อมรพันธ์วัฒนาฯ มีที่ดินอยู่ 2 แปลงในต่างจังหวัด โดยแปลงที่จะนำมาพัฒนาก่อนในเบื้องต้นคือ ที่ดินในจังหวัดระยอง มีเนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ เป็นที่ดินติดชายหาดแม่รำพึง ดังนั้นจึงมองการพัฒนาไปที่ตลาดบ้านเดี่ยวในระดับราคา 4 ล้านบาท และรูปแบบทาวน์เฮาส์ กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้บริโภคที่ต้องการบ้านริมทะเล แต่ไม่สามารถซื้อได้ในแถบพื้นที่อย่างพัทยาหรือหัวหิน เนื่องจากมีราคาสูง รวมถึงจับกลุ่มไปชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านริมทะเลด้วย
นอกจากแนวคิดการพัฒนาดังกล่าวแล้ว บริษัทยังได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรมต่างๆในพื้นที่เพื่อพัฒนาบ้านราคาถูกให้แก่พนักงานที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ
" การประกาศขายของสวนสยามในราคา 5,000 ล้านบาท ยังไม่มีการสรุปว่าจะเป็นการขายในรูปแบบใด และยังต้องรอผลการประเมินราคาที่แท้จริงก่อน แต่หากการขายออกมาในลักษณะขายเพียงเครื่องหรือุปกรณ์ที่ใช้เล่นนั้น ที่ดินอีกกว่า 300 ไร่ในพื้นที่สวนสยาม บริษัทอาจจะมีการนำมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมฯระดับไฮเอนท์ต่อไป แต่หากการขายเป็นการขายทั้งที่ดินและเครื่องเล่น บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายไปซื้อที่ดินและมุ่งพัฒนางานในสายอสังหาริมทรัพย์ต่อไป ส่วนโครงการบ้านสวนอมรพันธ์ สวนสยาม ปัจจุบันเหลือขาย 9 ยูนิต โครงการอมรพันธ์ เลียบวารี เหลือขายเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น"น.ส.จิรวรรณกล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯในปี 2551 รองประธานบริษัทฯ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตกในปี 2540 ที่ผ่านมา ความต้องการมีอัตราลดลงมาตลอด เนื่องจากธุรกิจอสังหาฯเป็นธุรกิจที่อ่อนไวต่อสถานการณ์รอบข้างมาก คล้ายกับตลาดหุ้น และหากมองในแง่ของที่ดิน ก็มองว่ามีราคาที่สูงขึ้นอยู่ตลอดเช่นกัน
ดังนั้น ผู้บริโภคที่ซื้อบ้านหรือซื้อที่ดินในช่วงนี้ไป ในอนาคตก็สามารถสร้างกำไรได้หากมีการขายต่อ เพราะมองว่าแนวโน้มราคาที่ดินจะปรับสูงขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 ความต้องการยังลดลงอยู่ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี แต่ทั้งนี้ยังคงมีลูกค้าบางกลุ่มที่มีความต้องการและมีกำลังซื้ออยู่ ถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ เช่น วิศวกร แพทย์ เป็นต้น
|
|
|
|
|