Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 มกราคม 2551
RSพึ่ง3หัวหอกฟื้นรายได้             
 


   
www resources

โฮมเพจ อาร์.เอส. โปรโมชั่น

   
search resources

อาร์เอส, บมจ.
สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์
Entertainment and Leisure




อาร์เอสพลาดฝัน เป้ารายได้ปี 50 จาก 3,000 ล้านบาท เหลือ 2,500 ล้านบาท หลังเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ขอผ่านไม่แสดงโชว์ ไม่หวั่นปีนี้คาดรายได้กระฉูดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 21% เพราะมั่นใจหลังจากลงทุนผุดธุรกิจใหม่จากปีก่อน มั่นใจเพลง โชว์บิซ และสปอร์ต จะเป็น 3 หัวหอกดึงรายได้เข้ากระเป๋ามากสุด จากทั้งหมด 8 ธุรกิจ

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของรายได้ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทางบริษัทฯกำลังเตรียมแจ้งทางตลาดหลักทรัพย์ คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมีสาเหตุหลักอย่าง ปัญหาในส่วนของธุรกิจด้านอีเว้นท์ของ เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ การแสดงระดับโลก ที่ยกเลิกการแสดงออกไป นอกจากนี้ปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อทีวี มีรายการที่ลดลงด้วย จึงทำให้รายได้ดังกล่าวต่ำกว่ารายได้ของปี 2549 ที่สูงถึง 3,000 ล้านบาทด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางอาร์เอสมองว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจมาถูกทางแล้ว กับการปรับองค์กรการทำงานออกเป็น 8 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจเพลง ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของอาร์เอส 2.ดิจิตอล 3.โชว์บิซ 4.สปอร์ต 5.ฟิล์ม 6.สื่อ 7.สิ่งพิมพ์ ในภาวะกระแสของธุรกิจเพลงที่กำลังเข้าสู่ยุคดิจิตอล

โดยในปี 2551 ทางบริษัทฯจะดำเนินธุรกิจในลักษณะของการเก็บเกี่ยวและต่อยอดรายได้จากธุรกิจที่มีอยู่ โดยมองว่ามี 3 กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะมีการสร้างรายได้เข้าบริษัทฯสูงสุด รวมกว่า 45% ของรายได้ทั้งหมดได้แก่ 1. สปอร์ต ดำเนินงานโดยบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต เนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ RSBS คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ที่ 15 % จากการได้ ออล มีเดีย ไรท์ ของ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชม์ยุโรป หรือ UEFA EURO 2008 ที่มองว่าจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้รวมถึง 500 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อน 15% และมีกำไรประมาณ 30-40%

2.ธุรกิจเพลง ปีนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ที่ 20%จากรายได้รวมที่ตั้งเป้าไว้ ถึงแม้ภาพรวมของธุรกิจเพลงปีนี้อาจจะมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 5% ก็ตาม โดยทางบริษัทฯ จะเพิ่มโอกาสในช่องว่างที่มีอยู่ โดยการรุกตลาดเพลงสตริงเซกเม้นต์ใหม่ๆ ในกลุ่มร็อคและอีซี่ ลิสซึนนิ่ง จับกลุ่มผู้ฟังที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่นอย่างที่ผ่านมา

และ 3. ธุรกิจโชว์บิซ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จำกัด คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ 20% จากรายได้รวมทั้งหมด จากการจัดอีเว้นต์ใหญ่หลายงาน อาทิ การเปิดสนาม S-One ,ฮอลล์สำหรับรองรับการจัดทั้งสปอร์ตและเอนเตอร์เทนอีเว้นต์, สปอร์ตคอมเพล้กซ์ที่มีแบรนด์ชั้นนำ และการจัดคอนเสิร์ตทั้งศิลปินในเครือและทั่วไป รวมถึงอีเว้นต์ปลุกกระแสฟุตบอลยูโร 2008

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับสื่อดิจิตอลจะเน้นบริการใหม่ในลักษณะออนไลน์บิซิเนสผ่าน 3 เว็บไซต์ของบริษัท ส่วนธุรกิจสื่อ ขณะนี้สื่อทีวี มีรายการต่างๆประมาณ 10 กว่ารายการที่ออกอากาศอยู่ นอกจากนี้ยังมีสื่อวิทยุอีก 2 คลื่น คือ 93 คูล เอฟเอ็ม และ Max 94.5 ที่คาดว่าตอบโจทย์ผู้ฟังได้ครบ ขณะที่สื่ออินสโตร์ เป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำ ภายใต้บริษัท อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด หรือ RSIM ในลักษณะของ POP radio ในโมเดิร์นเทรด ซึ่งปีนี้จะเพิ่มสื่อจอแอลอีดี DDS (Dynamic Digital Signage) สำหรับติดตั้งยังจุดชำระเงินในโมเดิร์นเทรดด้วย

ทั้งนี้คาดว่ารายได้ของปี 2551 นี้ จะสูงถึง 3,000 ล้านบาท เติบโตจากรายได้ในปีก่อนประมาณ 25% ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ จะมาจาก 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.คอนเท้นต์จากเดิม 70% เพิ่มเป็น 75% โดยเฉพาะจากธุรกิจสปอร์ต และ2.มีเดีย จาก30% เหลือ 25% แทน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us