อาร์เอสพลาดฝัน เป้ารายได้ปี 50 จาก 3,000 ล้านบาท เหลือ 2,500 ล้านบาท หลังเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ขอผ่านไม่แสดงโชว์ ไม่หวั่นปีนี้คาดรายได้กระฉูดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 21% เพราะมั่นใจหลังจากลงทุนผุดธุรกิจใหม่จากปีก่อน มั่นใจเพลง โชว์บิซ และสปอร์ต จะเป็น 3 หัวหอกดึงรายได้เข้ากระเป๋ามากสุด จากทั้งหมด 8 ธุรกิจ
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของรายได้ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทางบริษัทฯกำลังเตรียมแจ้งทางตลาดหลักทรัพย์ คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมีสาเหตุหลักอย่าง ปัญหาในส่วนของธุรกิจด้านอีเว้นท์ของ เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ การแสดงระดับโลก ที่ยกเลิกการแสดงออกไป นอกจากนี้ปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อทีวี มีรายการที่ลดลงด้วย จึงทำให้รายได้ดังกล่าวต่ำกว่ารายได้ของปี 2549 ที่สูงถึง 3,000 ล้านบาทด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางอาร์เอสมองว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจมาถูกทางแล้ว กับการปรับองค์กรการทำงานออกเป็น 8 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจเพลง ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของอาร์เอส 2.ดิจิตอล 3.โชว์บิซ 4.สปอร์ต 5.ฟิล์ม 6.สื่อ 7.สิ่งพิมพ์ ในภาวะกระแสของธุรกิจเพลงที่กำลังเข้าสู่ยุคดิจิตอล
โดยในปี 2551 ทางบริษัทฯจะดำเนินธุรกิจในลักษณะของการเก็บเกี่ยวและต่อยอดรายได้จากธุรกิจที่มีอยู่ โดยมองว่ามี 3 กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะมีการสร้างรายได้เข้าบริษัทฯสูงสุด รวมกว่า 45% ของรายได้ทั้งหมดได้แก่ 1. สปอร์ต ดำเนินงานโดยบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต เนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ RSBS คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ที่ 15 % จากการได้ ออล มีเดีย ไรท์ ของ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชม์ยุโรป หรือ UEFA EURO 2008 ที่มองว่าจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้รวมถึง 500 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อน 15% และมีกำไรประมาณ 30-40%
2.ธุรกิจเพลง ปีนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ที่ 20%จากรายได้รวมที่ตั้งเป้าไว้ ถึงแม้ภาพรวมของธุรกิจเพลงปีนี้อาจจะมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 5% ก็ตาม โดยทางบริษัทฯ จะเพิ่มโอกาสในช่องว่างที่มีอยู่ โดยการรุกตลาดเพลงสตริงเซกเม้นต์ใหม่ๆ ในกลุ่มร็อคและอีซี่ ลิสซึนนิ่ง จับกลุ่มผู้ฟังที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่นอย่างที่ผ่านมา
และ 3. ธุรกิจโชว์บิซ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จำกัด คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ 20% จากรายได้รวมทั้งหมด จากการจัดอีเว้นต์ใหญ่หลายงาน อาทิ การเปิดสนาม S-One ,ฮอลล์สำหรับรองรับการจัดทั้งสปอร์ตและเอนเตอร์เทนอีเว้นต์, สปอร์ตคอมเพล้กซ์ที่มีแบรนด์ชั้นนำ และการจัดคอนเสิร์ตทั้งศิลปินในเครือและทั่วไป รวมถึงอีเว้นต์ปลุกกระแสฟุตบอลยูโร 2008
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับสื่อดิจิตอลจะเน้นบริการใหม่ในลักษณะออนไลน์บิซิเนสผ่าน 3 เว็บไซต์ของบริษัท ส่วนธุรกิจสื่อ ขณะนี้สื่อทีวี มีรายการต่างๆประมาณ 10 กว่ารายการที่ออกอากาศอยู่ นอกจากนี้ยังมีสื่อวิทยุอีก 2 คลื่น คือ 93 คูล เอฟเอ็ม และ Max 94.5 ที่คาดว่าตอบโจทย์ผู้ฟังได้ครบ ขณะที่สื่ออินสโตร์ เป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำ ภายใต้บริษัท อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด หรือ RSIM ในลักษณะของ POP radio ในโมเดิร์นเทรด ซึ่งปีนี้จะเพิ่มสื่อจอแอลอีดี DDS (Dynamic Digital Signage) สำหรับติดตั้งยังจุดชำระเงินในโมเดิร์นเทรดด้วย
ทั้งนี้คาดว่ารายได้ของปี 2551 นี้ จะสูงถึง 3,000 ล้านบาท เติบโตจากรายได้ในปีก่อนประมาณ 25% ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ จะมาจาก 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.คอนเท้นต์จากเดิม 70% เพิ่มเป็น 75% โดยเฉพาะจากธุรกิจสปอร์ต และ2.มีเดีย จาก30% เหลือ 25% แทน
|