|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นอกจาก House Brand ที่เป็น "ตัวผลิตภัณฑ์" Modern Trade ยักษ์อย่าง BigC ได้เริ่ม House Brand ที่เป็น "ร้านค้าปลีกเฉพาะทาง" (Specialty Store) แล้ว ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้เปิดร้านค้าปลีก Pure by Big-C (เพียว บาย บิ๊กซี)
ร้านดังกล่าววางคอนเซ็ปต์เป็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ เน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า 4 กลุ่มหลัก คือ ยา อาหารเสริม วิตามิน และผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม ซึ่งมีสินค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในกลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม
ในขณะที่ระดับราคาไม่สูงมากนัก นอกจากสินค้าเพื่อความงามต่างๆ ภายในร้าน เพียว แล้วยังมีมุมสำหรับจำหน่ายยา และอาหารเสริมด้วย
โดยสาขาแรกจะตั้งอยู่บนชั้น 2 ของบิ๊กซี สาขาหางดง เชียงใหม่เป็นที่น่าสังเกตว่าคอนเซ็ปต์โดยรวมๆ จะมีคล้ายๆ กับร้านสเปเชียลตี้สโตร์ บู๊ทส์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการนี้ ร้านเพียว ก็ได้มีการจัดโปรโมชั่นสินค้าบางกลุ่มอย่างต่อเนื่อง เช่น สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง มีการจัดรายการลดราคาแบบเมกะเซล ตั้งแต่ 15-60%
"บิ๊กซีได้เปิดร้านเพียว เป็นร้านค้าปลีกที่คล้ายๆ กับสเปเชียลตี้ สโตร์ โดยได้เปิดร่องร้านแรกภายใต้การบริหารของบิ๊กซี ว่า บิ๊กซีสาขาหางดง จังหวัดเชียงใหม่ หากได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีก็จะขยายสาขาไปยังบิ๊กซีสาขาอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ ยังมีแนวโน้มด้วยว่าร้านดังกล่าว จะสามารถเปิดในรูปแบบสแตนด์อะโลนหากมีความเป็นไปได้ ซึ่งในร้านเพรียวสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม รวมไปถึงมีร้านขายยาตั้งอยู่ด้วย" ประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย
แหล่งข่าวจากวงการวงการค้าปลีกให้ความเห็นว่า หลังจากที่บิ๊กซี เปิดเพรียว ที่บิ๊กซี สาขาหางดงแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำร้านแบรนด์เพรียว ไปเปิดให้บริการเฉพาะในบางสาขา อย่างยิ่งกับสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่กำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ อาทิ สาขาอยุธยา ซึ่งเป็นสาขาที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก
"ตอนนี้ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ค่ายต่างๆ ได้พยายามหาร้านค้าปลีกโมเดลใหม่ๆ มา ทดลองตลาดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การกระจายตัวเข้าสู่ชุมชนต่างๆ โดยนอกจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคแล้ว ก็ยังจะเป็นการขยายฐานลูกค้าอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกรณีของร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม เพียว ของบิ๊กซีนั้นแม้ว่าภาพลักษณ์จากภายนอกอาจจะดูว่าใกล้เคียงกับบู๊ทส์อยู่บ้าง แต่เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าจะไม้ทับกับเสียเลยทีเดียว และถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง"
ที่ผ่านมา บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นค่ายค้าปลีกที่มีการทดสอบเปิดร้านค้าปลีกโมเดลใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง
โดยก่อนหน้านี้เมื่อสักประมาณ 6-7 ปีที่ผ่านมา บิ๊กซีได้เปิดร้านลีดเดอร์ไพรซ์ เพื่อจำหน่ายสินค้าเฮาส์แบรนด์ของตัวเอง โดยมีสาขาทั้งสิ้น 5 แห่ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก
จนเมื่อพฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมา บิ๊กซี ก็ตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบด้วยการลดไซซ์ของร้านลีดเดอร์ไพรซ์จาก 500-700 ตารางเมตร ลงมาเหลือประมาณ 200-300 ตารางเมตร และใช้ชื่อว่า มินิ บิ๊กซี ได้ทดลองเปิดแห่งแรกที่ปากซอยอุดมสุข สุขุมวิท 103 เป็นร้านค้าปลีกที่ผสมผสานระหว่างร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเปิดขายแฟรนไชส์ด้วย
ผู้บริหารบิ๊กซีมองว่า การขยายสาขาขนาดเล็กในลักษณะดังกล่าวจะทำให้สามารถกระจายตัวไปตามชุมชนต่างๆ ได้ง่าย และเป็นตลาดที่มีโอกาสทางการตลาดสูง
ในเวลาไม่ห่างกันนั้น กลุ่มซีพีนั้นก็ได้เปิดร้าน Health&Beauty เอ็กซ์ต้า (eXta) - ร้านเพื่อสุขภาพและความงามของคนไทยใกล้บ้านคุณ โดยเปิดตรงตึกแถมในละแวกใกล้เคียงกับ 7-11 ... นำร่องสาขาแรก ณ จรัลสนิทวงศ์ ซ.4 และน่าจะขยายสาขาไปอย่างรวดเร็ว
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มอะไร? และมีนัยสำคัญอย่างไรบ้าง?
บทวิเคราะห์
หากสังเกตกันดีๆ จะพบว่าในอุตสาหกรรมค้าปลีกนั้นมีการปรับตัวกันค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากพระราชบัญญัติค้าปลีกที่ถึงตอนนี้ยังจะไม่คลอดออกมา ทว่าก็คลอดมาในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอน
ดังนั้น เมื่อยังไม่คลอดอย่างเป็นทางการ มีข่าวว่าจะคลอด ซึ่งกฎเกณฑ์จะหยุมหยิมมากๆ ไม่แปลกที่ปี 2550 จึงเป็นปีที่ Big 4 จะเปิดสาขาเพียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมคโครที่เปิดนับ 10 สาขาในจังหวัดสำคัญทั้งอีสาน เหนือ กลาง และใต้ เผื่อความไม่แน่นอนที่ไม่สามารถเปิดสาขาขนาดใหญ่ได้ตามอำเภอใจอีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเข้าใจว่า Big 4 จะเปิดแต่เพียงสาขาใหญ่เท่านั้น เป็นความเชื่อผิดๆ อย่างน้อยที่สุด Lotus Express ก็กลายเป็นหนามยอกอกโชห่วยมากกว่าโลตัสใหญ่เสียด้วยซ้ำ เพราะ LE ลงไปแข่งขันถึงในระดับหมู่บ้านซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของโชห่วย
ภายใน Big 4 โมเดอร์นเทรด ซึ่งหมายถึง บิ๊กซี แมคโคร โลตัส และคาร์ฟูร์นั้น ต่างแข่งขันกันเองอย่างหนักหน่วง
แม้จะเป็น Modern Trade ที่ไม่เหมือนเปี๊ยบเสียทีเดียว แต่ทว่าผู้ซื้อทั่วๆ ไปก็แยกไม่ออกว่าต่างกว่ากันตรงไหน ด้วยเหตุนี้เองแมคโครจึงถือโอกาสในปีนี้ Repositioning ตนเองให้ชัดเจนว่าแมคโคร คือ Cash & Carry ที่เป็นมิตรแท้โชห่วย
ขณะที่คาร์ฟูร์เองก็ไม่มีที่ยืนชัดเจน จะแข่งเรื่องถูก ก็สู้โลตัส ไม่ได้ จะแข่งเรื่องพลาซ่าน่าเดิน หลากหลาย ก็ตกเป็นรองบิ๊กซี ก็เลยต้องมองไปที่ห้าง Target ที่เคยโค่นวอลล์มาร์ทมาแล้ว ด้วยการนำของแบรนด์เนมมาขายในห้างของตนเองบ้าง โดยหวังจะดึงอีกกลุ่มเข้าช็อปปิ้งโดยไม่จำเป็นต้องไปที่ห้างใหญ่
ด้านบิ๊กซีนั้น ยุทธศาสตร์ก็ขยายสาขาขนาดใหญ่ออกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดยุทธศาสตร์ที่ยังไม่มีสาขา บิ๊กซีรีบไปเปิด ก่อนที่พ.ร.บ.ค้าปลีกจะคลอดจากสภา เพราะผู้บริหารบิ๊กซีรู้ว่าตลาดต่างจังหวัดนั้นคือขุมทองบิ๊กซี เนื่องจากบิ๊กซีเด่นที่พลาซ่าซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของพี่น้องต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Big 4 จากนี้ไปไม่อาจสร้างห้างขนาดใหญ่ได้ตามอำเภอใจอีกต่อไปแล้ว แม้กฎหมายจะยังไม่ออกมาก็ตาม แต่การระมัดระวังไม่ขยายตัวอย่างโฉ่งฉ่าง จะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเป้าของการประท้วงได้ ดังนั้น การเปิดเกมใหม่ๆ ก็คือการเปิดสาขาขนาดเล็ก เช่น Lotus Express
ขณะที่บิ๊กซีซึ่งเฝ้ามองการเติบโตของบู๊ทและวัตสันมาโดยตลอดก็เห็นว่าเซ็กเมนท์ H&B เติบโตมาโดยตลอด และไม่มีทีท่าจะหยุดเติบโต
ปัญหาของวัตสันและบู๊ทก็คือไม่มีสาขาในต่างจังหวัดมากพอ ขณะที่รสนิยมของคนต่างจังหวัดกับคนในเมืองกรุงนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากอีกต่อไปแล้ว พฤติกรรมการชอปปิ้งออกจะใกล้เคียงกัน เพราะการขยายออกไปอย่างรวดเร็วของ Big 4 นั่นเอง
Big 4 นั้นเป็นการจับตลาด Mass ทว่าการจับตลาดใหญ่ที่มองว่าผู้บริโภคเหมือนกันหมดนั้น ไม่ใช่วิถีของนักการตลาดที่ดี
ผู้บริหารการตลาดที่เก่งฉกาจต้องหา Segment ที่มีอัตราการเติบโตสูง และมีมาร์จิ้นสูง จากนั้นหา Competitive Position ที่แข่งขันได้
บิ๊กซี เคยมีร้าน Stand Alone ที่จำหน่าย House Brand ของตนเองทั้งร้านชื่อ Leader Price ผลตอบรับไม่ดี เพราะคนชอบความหลากหลาย ไม่ใช่ชอบแต่ของถูกเท่านั้น สุดท้ายร้านนี้ก็พับไป เปลี่ยนรูปแบบไปแข่งกับ 7-11
"เพียว" ก็คือ Specialty Store ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงแผนกหนึ่งในบิ๊กซี ทว่าการเป็นแผนก ไม่มีพลังเท่ากับการเป็น Specialty Store เพราะไม่มีความพิเศษ ทว่าเมื่อเป็น Specialty Store ก็สามารถสร้างแบรนด์ สร้างความพิเศษให้สมกับชื่อได้
ดังได้กล่าวมาแล้ว H&B มีศักยภาพสูงมาก และไม่เพียงแต่เป็น Specialty Store ที่อยู่ในห้างเท่านั้น ดูกรณี Specialty Store ของกลุ่มเซ็นทรัล (ซึ่งบางคนมาบริหารบิ๊กซี) อยู่ด้วยนั้นจะเห็นชัดว่าต้องเป็น Stand Alone ในเวลาไม่ช้า
แน่นอน คู่แข่งมากมายที่พร้อมลงในตลาดนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ CP ที่รุกหนักในตลาดนี้เช่นกัน
|
|
|
|
|