|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไอดีซีคาดการณ์ตลาดไอที "เอเชียแปซิฟิก" ปีหทนูทองกระจายตัวต่อเนื่อง ช่วยด้นตลาดเทคโนโลยีดิจิตอลโตตาม มีเม็ดเงินลงทุน 154,000 ล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 10% จีนและอินเดียยอดใช้จ่ายไอทีเกือบครึ่ง
เป็นประจำทุกปีที่ทางไอดีซี บริษัทวิจัยตลาดทางด้านไอซีทีระดับโลกมักจะมีรายงานคาดการณ์ตลาดไอซีทีในแต่ละถูมิภาคออกมาให้เห็นถึงทิศทางการใช้งานไอซีทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ในรายงานคาดการณ์ตลาดปี 2551 หรือปีหนูทองของไอดีซีได้ระบุว่า ยอดการใช้จ่ายด้านไอทีซี และอัตราการเติบโตสำหรับภูมิภาค เอเชีย/แปซิฟิก ไม่รวมประเทศญี่ปุ่นหรือเออีพีเจ จะได้รับแรงหนุนจากการกระจายตัวอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีดิจิตอลเป็นหลัก ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาด ช่วยกระตุ้นให้เกิดเซกเมนต์ใหม่หรือเพิ่มจำนวนเซกเมนต์ขึ้น เพื่อตอบสนองตลาดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะหรือเวอติเคอร์ มาร์เก็ต
"การใช้จ่าย ของหน่วยงานภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากหน่วยงานเหล่านี้ได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลไปใช้ในโครงการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านไอที มากขึ้น ประกอบกับความต้องการ อันเกิดจากการที่ประชากรในภูมิภาคนี้ให้ความสนใจและมีความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีไอซีทีมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ พยายามช่วยกันผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล มากขึ้น คาดว่า ผู้จำหน่ายในอุตสาหกรรมไอซีทีเองก็มีความสนใจเข้าร่วมในโครงการดังกล่าวอย่างคึกคัก ซึ่งถือถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซีเอสอาร์ หรือ Corporate Social Responsibility ของบริษัทเหล่านี้ด้วย" เกรเอ็ม มูลเลอร์ หัวหน้าคณะกรรมการคาดการณ์ตลาดไอทีในภูมิภาคเอเชีย/แปซิฟิกของไอดีซีประเมินสภาพตลาดให้ฟัง
เมื่อดูถึงเม็ดเงินยอดค่าใช้จ่ายด้านไอซีทีในภูมิภาคนี้ในปี 2551 ไอดีซีประเมินว่า จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 154,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าอัตราเติบโตของปี 2550 ถึง 10% โดยมีประเทศจีนกับประเทศอินเดียจะมีสัดส่วนการใช้จ่ายด้านไอทีรวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของยอดการใช้จ่ายทั้งภูมิภาค หากเปรียบเทียบการใช้จ่ายด้านไอทีในปี 2551 กับปี 2550 ประเทศอินเดียถือเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด
ส่วนทิศทางของอุตสาหกรรมไอซีทีสำหรับภูมิภาคนี้ในปีหนูทองจะเป็นอย่างไรนั้น ทางไอดีซีได้วิเคราะห์ไว้ว่า ประเทศจีนกับประเทศอินเดียจะเป็นตลาดที่หนุนให้ตลาดไอทีโดยรวมในภูมิภาคเติบโตเป็น 2 เท่า โดยคาดว่าอัตราเติบโตของจีดีพีใน 2 ประเทศดังกล่าวจะอยู่ในระหว่าง 9-10% กลุ่มธุรกิจที่มีอิทธิพลมากจะเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและกลางหรือเอสเอ็มบีที่จะมีการลงทุนพัฒนาระบบไอทีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถือเป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างในเชิงกลยุทธ์ให้กับธุรกิจ ส่งผลให้ผู้จำหน่ายจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำตลาดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว
ธุรกิจบริการจุดโฟกัสใหม่
ทางด้านผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ก็จะมุ่งความสนใจไปที่ด้านบริการมากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังสามารถทำกำไรให้ดีอยู่ เนื่องจากส่วนต่างมาร์จิ้นที่ได้จากการขายฮาร์ดแวร์มีสัดส่วนลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดบริการด้านไอที ผู้จำหน่าย ต่างพยายามผลักดันธุรกิจบริการของตนให้สามารถเจาะเข้าไปในเซกเมนต์ใหม่ๆ พร้อมกับเพิ่มรายได้จากฐานลูกค้าที่มีอยู่ ด้วยเหตุนี้ความต้องการของลูกค้าเอนยูสเซอร์ในส่วนของบริการด้านไอทีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันปรากฏการณ์นี้ เนื่องจากลูกค้ายินดีที่จะจ่ายเงินสำหรับบริการพิเศษที่ตนเห็นว่าคุ้มค่าแก่การดูแลระบบไอที ซึ่งปัจจุบัน มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ตลาดซอฟต์แวร์บีไออนาคตยังสดใส
แนวคิด "consolidation" และ "convergence" กำลังเขย่าวงการ บิสซิเนส อินเทเลเจนซ์ หรือบีไอ ทั้งนี้ในปี 2550 ที่ผ่านมา ได้เห็นการควบรวมกิจการครั้งสำคัญเกิดขึ้นหลายครั้งในตลาดซอฟต์แวร์บิสซิเนส อินเทเลเจนซ์หรือบีไอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่ไม่มีภูมิหลังด้านบีไอมาก่อน
สถานการณ์เช่นนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในการแข่งขัน ทั้งยังส่งผลต่อการวางตำแหน่งทางการตลาดและกลยุทธ์การรุกตลาดในปี 2551 เนื่องจากเกิดเซกเมนต์ใหม่ๆ ขึ้นจากรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ดังกล่าว
นอกจากนี้ มีการจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์บีไอพ่วงไปกับโซลูชั่นที่ใหญ่กว่า มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม เป็นการเร่งวิวัฒนาการของสิ่งที่ทางไอดีซีเรียกว่า Intelligent Process Automation หรือไอพีเอ แม้มีการคาดกันว่าแนวคิดเรื่อง "consolidation" และ "convergence" จะกดดันให้ราคาผลิตภัณฑ์ตกลงไปอีก แต่ไอดีซีคาดว่าตลาดบีไอโดยรวมในภูมิภาคนี้ จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้
เว็บ 2.0 องค์กรใหญ่พร้อมลงทุน
สภาพแวดล้อมในยุคดิจิตอลช่วยกระตุ้นให้มีการใช้ซอฟต์แวร์ในกลุ่ม enterprise collaboration มากขึ้น เนื่องจากช่องว่างระหว่างการสื่อสารของบุคคลและธุรกิจแคบลงเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของโซลูชั่น เว็บ 2.0 และ unified communications หรือยูซีที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งจำเป็นต้องมีความพร้อมให้บริการอยู่เสมอและระบบสนับสนุนการทำงานร่วมกันในองค์กรที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้การสื่อสารและขั้นตอนการทำงานเกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ถือเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นการใช้แอปพลิเคชั่นในกลุ่มยูซีในสำนักงาน ส่งผลให้สำนักงานในปัจจุบันเปลี่ยนรูปแบบไปเป็น virtual workspace หรือสำนักงานเสมือนจริง โดยมียูซี และเว็บ 2.0 เป็นเครื่องมือสำคัญ ทั้งนี้ไอดีซีเชื่อว่า ปีนี้ บริการในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับความสนใจอย่างมากจากองค์กรขนาดใหญ่
กรีน ไอที รับกระแสโลกร้อน
กระแส "กรีน ไอที" ที่เกิดขึ้นทั่วเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากมีความกังวลเรื่องโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงของ สภาพอากาศ ดังนั้นอุตสาหกรรมไอซีทีจึงมุ่งความสนใจไปที่ กรีน เทคโนโลยี หรือเทคโนโลยีที่ไม่ทำลายและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แม้ว่านโยบาย ซีเอสอาร์ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทต่างๆ นำแนวคิด กรีน ไอทีมาใช้ แต่แรงจูงใจหลัก คือ การลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ความท้าทายสำหรับผู้จำหน่ายก็คือ ต้องแสดงให้กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นเอนยูสเซอร์เห็นความสำคัญของกรีน ไอทีในทั้ง 2 แง่มุม รวมทั้งต้องพยายามบริหารจัดการซัพพลายเชนในส่วนของกรีน ไอทีให้ยั่งยืนด้วย ทั้งนี้ ไอดีซีเชื่อว่าความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมของผู้จำหน่ายจะทวีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจาก องค์กรของผู้ใช้ที่เป็นเอนยูสเซอร์จะใช้จุดนี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจจัดซื้อ
กระแสไอโฟน กระตุ้นตลาดมัลติมีเดียโฟน
ตลาดอุปกรณ์สื่อสารที่รวมคุณสมบัติหลากหลายด้านไว้ในหนึ่งเดียว มีแนวโน้มแข่งขันดุเดือดขึ้นอีกในปีนี้ โดยมี "ไอโฟน" จากค่ายแอปเปิล และอุปกรณ์จากผู้เล่นรายอื่นๆ ในตลาดอย่างโนเกียและอาร์ไอเอ็มช่วยกระตุ้นความต้องการและผลักดันการเติบโตของตลาดมัลติมีเดียโฟน นอกเหนือจากการเติบโตของตลาดโทรศัพท์ประเภทมิวสิกโฟน ผนวกกับราคาที่ลดต่ำลงแล้ว ขีดความสามารถในการเชื่อมต่อที่หลากหลายจะช่วยให้ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่คึกคักยิ่งขึ้น และเป็นแรงจูงใจให้มีการดาวน์โหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ตมากขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกันก็สนับสนุนระบบเครือข่ายแบบ peer-to-peer ด้วยเช่นกัน
ไอดีซีคาดว่า การเกิดขึ้นของพลังการแพร่กระจายของเทคโนโลยีดิจิตอลจะช่วยกระตุ้นตลาดที่คึกคักอยู่แล้ว ให้คึกคักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในแง่การแบ่งเซกเมนต์ตลาดและอัตราการเติบโต รวมทั้งช่วยกระตุ้นความต้องการอุปกรณ์สื่อสารมัลติมีเดีย
ศึก 2 เทคโนโลยี บรอดแบนด์ไร้สาย
การต่อสู้ระหว่างสุดยอดระบบบรอดแบนด์ไร้สาย 2 ระบบ ระหว่าง เอชเอสดีพีเอกับไวแม็กซ์ ความต้องการด้านการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ไร้สายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่จะก่อให้เกิดภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงและซับซ้อน โดยจะมีการเจาะตลาดบรอดแบนด์และโทรศัพท์เคลื่อนที่ในหลายระดับเกิดขึ้นทั้งในตลาด ที่อิ่มตัวแล้วและตลาดเกิดใหม่ ไอดีซีคาดว่าการแข่งขันระหว่างระบบเอชเอสดีพีเอกับไวแม็กซ์ใน 2 ตลาด ดังกล่าวจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ITSM+ITILv3 ขับเคลื่อนคอนเวอเจนซ์
ผู้ใช้ในกลุ่มเอนยูสเซอร์ต่างกำลังมองหาระบบไอทีที่ "มุ่งผลสัมฤทธิ์ทางธุรกิจ" เพื่อให้แน่ใจว่าได้ประสิทธิภาพและความคล่องตัวสูงขึ้น สำหรับการดำเนินโครงการต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงคาดว่า ผู้จำหน่ายจะพยายามนำเสนอบริการตามมาตรฐาน IT Service Management หรือ ไอทีเอสเอ็ม และเวอร์ชั่นล่าสุดของ ITILv3 ซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางของกลยุทธ์ด้านไอที ภายในองค์กร รวมถึงการจัดวางกระบวนการทางธุรกิจและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
ตลาดเกิตใหม่นิวมาร์เก็ตภูมิภาค
ตลาดไอทีซีที่เพิ่งเกิดใหม่ในเอเชียยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ประสบกับปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ไอดีซีคาดว่า ยอดการใช้จ่ายด้านไอทีของทั้งกลุ่มอาเซียนรวมกันอาจมากกว่าอินเดียเสียอีก และจะกลายเป็นตลาดสำคัญ สำหรับการลงทุนด้านไอทีซีในปีนี้และปีต่อๆ ไป
สำหรับตลาดที่เพิ่งเกิดใหม่ในเอเชียใต้ ซึ่งไปประกอบด้วยประเทศบังคลาเทศ ปากีสถาน และศรีลังกา ปี 2551 ดูจะเป็นปีที่สดใสเนื่องจากนโยบายของประเทศต่างๆ มุ่งปรับปรุงโครงสร้าง พื้นฐานด้านไอทีและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับหลายประเทศจะมีการเลือกตั้งในช่วงปี 2551-2552 และแม้ว่าจะประสบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ไอดีซีเชื่อว่า ด้วยแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐและเป้าหมายที่ชัดเจนของผู้จำหน่าย การพัฒนาด้านไอทีซีในภูมิภาคนี้จะเติบโต รวดเร็วและต่อเนื่องแน่นอน
นโยบายรัฐบาลกระตุ้นลงทุนไอทีภาครัฐ
ไอดีซีคาดว่า จะได้เห็นโครงการพัฒนาด้านไอที จำนวนมากเกิดขึ้น โดยการผสานความร่วมมือและทรัพยากรของภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ในการขจัดปัญหา Digital Divide หรือความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้ อาจกล่าวได้ว่า ด้วยการสนับสนุนอย่าง แข็งขันจากภาคการเมืองตามด้วยการจัดสรรเงินทุนและงบประมาณปี 2551 จะเป็นปีที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ มีบทบาทนำในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อขยายเครือข่ายการเชื่อมต่อและก้าวไปสู่สังคมยุคดิจิตอล
สำหรับรายงานการคาดการณ์ตลาดไอทีประจำปี 2551 ของไอดีซีในตลาดไอทีซีภูมิภาคนี้ป็นผลจากการวิจัยล่าสุดของไอดีซีและจากการระดมความคิดระหว่างนักวิเคราะห์ของไอดีซีราว 900 คน ทั่วโลก ตามด้วยการพิจารณาทบทวนข้อมูลที่ได้ในระดับภูมิภาคอย่างเข้มข้น เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรมหลักต่างๆ ใน อุตสาหกรรมนี้ รวมทั้งแนวโน้มความนิยมและพฤติกรรมของผู้ใช้ และกลยุทธ์ของผู้จำหน่าย ซึ่งล้วนเป็นนองค์ประกอบที่สะท้อนเอกลักษณ์ของตลาดไอทีซีในภูมิภาค
|
|
|
|
|