Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 มกราคม 2551
ศุภาลัยยันราคาบ้านขึ้น5-10% หลังต้นทุนก่อสร้าง-ที่ดินเพิ่ม             
 


   
www resources

โฮมเพจ ศุภาลัย

   
search resources

ศุภาลัย, บมจ.
ประทีป ตั้งมติธรรม
Real Estate




ศุภาลัย ฟันธงปี 51 ผู้ประกอบการขึ้นราคาบ้าน 5-10% หลังต้นทุนการก่อสร้าง - วัสดุ - ราคาที่ดินขยับตัวสูง ชี้แนวโน้มผู้บริโภคต้องการบ้านขนาดเล็ก-กลาง ในทำเลยศักยภาพ เน้นการเดินทางสะดวกใกล้เมือง พร้อมแจงผลประกอบการปี 50ยอดขาย 8,850 ล้านบาท เผยแผนปี 2551 เปิดโครงการใหม่ 8 โครงการ ส่วนภูเก็ตเปิดเพิ่ม 4 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 9,999 ล้านบาท

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปี 51 จะขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปีนี้ผู้บริโภคยังนิยมบ้านที่มีขนาดเล็ก และขนาดกลาง ในราคาที่เหมาะสม เช่นโครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ สามารถเดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทาวน์เฮ้าส์ ที่จะได้รับความนิยม จะต้องตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ส่วนบ้านเดี่ยวต้องตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ไม่ไกลเกินไป โดยบ้านที่ขายดีจะต้องมีราคาที่เหมาะสม กับกำลังซื้อของส่วนใหญ่ ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาบ้านในปี 2551 จะมีการปรับขึ้นประมาณ 5 – 10% ซึ่งมีผลมาจากการที่ต้นทุนการก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจัยหลักในการปรับขึ้นราคาขายของที่อยู่อาศัย คือราคาน้ำมันที่ขยับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ต้นทุนที่ดินที่ขยับสูงขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยมีการปรับตัว รวมถึงการปรับตัวของต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง การป้องกันแผ่นดินไหวของอาคารสูง และปัจจัยของสิ่งแวดล้อมด้วย

“ในส่วนของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดี โดยเฉพาะการบริหารด้านต้นทุนการก่อสร้าง รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด เน้นใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ รับกระแสโลกร้อนทำให้การออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าจะประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อบ้านของลูกค้า นอกจากนี้ ในด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย จะทำให้สามารถยืนหยัดต่อสู้ในตลาดซึ่งมีการแข่งขันสูงได้”

สำหรับในปี 2550 ที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการรวม 8,850 ล้านบาท สูงกว่าเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ทั้งปี 8,800 ล้านบาท ประมาณ50ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดฯ 70% ส่วนบ้านจัดสรรและรายได้อื่นๆ 30% ทั้งนี้เมื่อเทียบยอดขายระหว่างปี2549กับปี 2550 ถือว่าบริษัทฯ มียอดขายรวมเติบโตขึ้นประมาณ 19.6% โดยบริษัทฯ สามารถรักษาค่าใช้จ่ายการขาย-การบริหารให้คงอยู่เพียง 9%ของรายได้รวม

ทั้งนี้ ในปี51บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 9,999 ล้านบาท เฉพาะในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งคอนโดฯ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 13% โดยบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มอีก 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการอาคารสูง 4 โครงการ และโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ 4 โครงการ นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มอีก 4 โครงการ ซึ่งการพัฒนาโครงการใหม่ในจังหวัดภูเก็ตนั้นจะประกอบด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดฯ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะเปิดใหม่ซึ่งเป็นของบริษัทฯ ในกลุ่ม ได้แก่ บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด ซึ่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ โดยจะการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท

สำหรับในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 60% จากบ้านจัดสรร และรายได้อื่นๆอีกประมาณ 40% โดยในปีนี้บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขาย 27 โครงการและเมื่อรวมโครงการใหม่ 8 โครงการจะทำให้ในปีนี้บริษัทมีโครงการในมือรวม 35

“ปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณซื้อที่ดินแลนด์แบงก์ 2,500 – 3,000 ล้านบาท ส่วนงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในปีนี้คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 120 ล้านบาท”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us