“พฤกษา” ไล่บี้เบอร์ 1 ลุยปูพรมโครงการอสังหาฯทั่วกรุงเทพฯ – ปริมณฑล 40 โครงการมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปี 51 แตะ 20,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 14,000 ล้านบาท แจงสิ้นไตรมาส 3/50 มาร์เก็ตแชร์ 14.9% โอดราคาต้นทุนก่อสร้างเพิ่มเล็งปรับราคาบ้านใหม่ 2-3% เน้นเป็นปีแห่งการสร้างคุณภาพบ้าน-ชุมชน รองรับกลุ่มลูกค้าในอนาคตจากปัจจุบัน 51,014 ราย
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2551 ว่า บริษัทฯ ได้ว่างเป้าหมายยอดขาย 20,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปี 2550 จำนวน 47% โดยมาจากโครงการประเภททาวน์เฮาส์ 43% หรือ 8,590 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 6,271 ล้านบาท คิดเป็น 31% และคอนโดมิเนียม 5,139 ล้านบาท คิดเป็น 26%
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้จำนวน 14,000 ล้านบาท โต 55% มาจากยอดขายรอรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 5,254 ล้านบาท (จากทั้งหมด 8,000 ล้านบาท) จากโครงการเก่า 7,013 ล้านบาท, โครงการใหม่ที่มีที่ดินอยู่ในมือแล้ว 14 โครงการ ประมาณ 1,306 ล้านบาท และโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างซื้อที่ดินอีก 26 โครงการประมาณ 427 ล้านบาท
ส่วนแผนการลงทุนเปิดโครงการใหม่ 40 โครงการ จำนวนเกินกว่า 10,000 ยูนิต ซึ่งราคาบ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.285 ล้านบาท มูลค่าเกินกว่า 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันซื้อที่ดินมาแล้ว 14 แปลง มูลค่า 300 ล้านบาท และเหลือวงเงินซื้อที่ดินอีกจำนวน 2,800 ล้านบาท หรือจำนวน 26 แปลง เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่เปิดโครงการใหม่รวม 28 โครงการ
ในปีนี้โครงการของ PS จะกระจายทำเลมากขึ้นทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยยังคงเน้นทำเลที่มีศักยภาพ และที่สำคัญคือบ้านทุกหลังต้องคุ้มราคาด้วยคุณภาพ มีรูปแบบบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้สอย สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยโครงการใหม่ในปีนี้ประกอบด้วยทาวน์เฮาส์ จำนวน 21 โครงการ บ้านเดี่ยว 11 โครงการ และคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ขณะนี้จัดซื้อที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว 14 โครงการ ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2550 บริษัทมียอดขาย 13,646 ล้านบาท โตจากปีก่อนหน้า 91% ที่มียอดขาย 7,156 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ 9,054 ล้านบาท โต 11% จากปี 49 ที่มียอดรับรู้รายได้ 8,151 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 พฤกษาฯ มีส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 14.9% หากแบ่งเป็นรายตลาด ได้แก่ คอนโดมิเนียมที่เริ่มทำตลาดในช่วงปลายปี 50 มีส่วนแบ่งตลาดที่ 3-4% , บ้านเดี่ยว 8.6% และทาวน์เฮาส์ 46.8%
นายทองมา กล่าวต่อว่า แผนธุรกิจในปีนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการวางแผนธุรกิจใหม่ในปี 50 ที่ผ่านมาและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งพฤกษาจะพัฒนาที่อยู่อาศัยในทุกทำเลและทุกเซกเมนต์ และในปีนี้จะเน้น “ปีแห่งการเพิ่มคุณค่าให้ลูกค้า” ได้แก่ คุณภาพบ้าน สิ่งแวดล้อม, บริการหลังการขาย, ภาพลักษณ์และชื่อเสียง, ความรับผิดชอบต่อชุมชนและบริหารตามความต้องการของลูกค้า
“ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าแล้วถึง 51,014 ราย ซึ่งในปีที่แล้วพฤกษาส่งมอบบ้านให้ลูกค้าไปกว่า 7,000 ครอบครัว ทำให้บริษัทต้องเตรียมแผนรองรับชุมชนที่จะเข้ามาอยู่ในโครงการของพฤกษาให้ดี และมุ่งเน้นที่คุณภาพบ้านมากขึ้น ซึ่งก็มีบ้างที่บ้านมีปัญหา เพราะสร้างบ้านจำนวนมากๆ แต่เราก็รีบแก้ไขให้ลูกค้าให้เร็วที่สุด”
ต้นทุนเพิ่มเล็งปรับราคาบ้านใหม่ 2-3%
สำหรับภาวการณ์เพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างได้ส่งผลให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น แต่บริษัทได้พยายามรักษาระดับต้นทุนให้คงเดิม โดยใช้วิธีประมูลซื้อวัสดุล่วงหน้า ซึ่งได้ผลเพราะมีราคาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา นอกจากจากการที่บริษัททำธุรกิจแบบครบวงจร ได้โรงงานผลิตพรีแคส, ก่อสร้างเอง ขายเอง ทำให้บริษัทควบคุมต้นทุนได้ แต่สำหรับราคาน้ำมันนั้นไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้ภาพรวมต้นทุนเพิ่มขึ้น 2-3% ซึ่งบริษัทเตรียมปรับราคาขายบ้านใหม่ขึ้นประมาณ 2-3% เช่นกัน ส่วนโครงการเก่ายังคงราคาขายเดิม อย่างไรก็ตาม จากการวางแผนธุรกิจแบบครบวงจรจะทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 14-15% จากปี 50 มีกำไร 13-14%
ส่วนปัญหาค่าครองชีพของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังคาดว่าในช่วงกลางปีนี้อัตราดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้น 0.25-0.50% ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนรองรับด้วยการจับตลาดกลาง-ลง และเน้นไปที่โครงการในเมืองมากขึ้น
|