|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เศรษฐกิจรุมเร้า ดีเอชซีวืดเป้า เติบโตเพียง 5 % ปรับแผนรบใหม่รองรับสถานการณ์ที่ยังคลุมเครือ ทุ่ม 50 ล้านบาทผุดชอป สู่ลูกค้ารีเทลมากขึ้น มุ่งขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เน้นกลุ่มคุณแม่รุ่นใหม่ เตรียมนำเข้าสินค้าเบบี้โปรดักส์ และแอนตี้เอจจิ้ง อัดฉีดอีก 300 ล้านบาท ทำการตลาดทั้งปี เบ็นเข็มจับกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดเป็นหลัก เหตุกำลังซื้อสูง คาดรายได้ขยับขึ้น 5% คิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท
นางสาวอาภรณ์ ทรัพย์มนชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเอชซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย มีการใช้เงินน้อยลง จึงส่งผลให้ยอดขายของดีเอชซีต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย จากเดิมที่วางไว้ 500 ล้านบาท ทำได้เพียง 475 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพียง 5% เท่านั้น อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นยอดขายที่น่าพอใจอยู่ เพราะสำหรับตลาดรวมเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ ก็มีอัตราการเติบโตประมาณนี้เช่นเดียวกัน
จากสภาพเศรษฐกิจที่มองว่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเครื่องสำอางปีนี้จะมุ่งลูกค้าต่างจังหวัดเป็นหลัก เหตุกำลังซื้อค่อนข้างดี ทางดีเอชซีจึงเตรียมเงินสำหรับทำการตลาดทั้งปีไว้กว่า 300 ล้านบาท เน้นด้านกิจกรรมโรดโชว์ตามหัวเมืองระดับอำเภอมากยิ่งขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน โดยไตรมาสแรกคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ทั้งในเรื่องของภาพยนตร์โฆษณาชิ้นใหม่ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ
"ต่างจังหวัด โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ มองว่ามีกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่สูง โดยเฉพาะเครื่องสำอางประเภทเคาน์เตอร์ จึงเป็นโอกาสที่ดีของดีเอชซี ที่มีช่องทางขายแบบเดลิเวอรี่ จึงสามารถเข้าถึงได้ง่าย"
ปีนี้ทางบริษัทฯจะมีการลงทุนเพิ่ม เช่น ด้านไอทีผ่านเว็บไซต์ของดีเอชซี ในส่วนของซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบ IVR หรือระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ที่บริการลูกค้า 24 ชั่วโมง จากเดิมปีก่อนที่มีการลงทุนไปกว่า 80 ล้านบาท ปีนี้จะเพิ่มการลงทุนอีก 20 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าเริ่มใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น ลงทุนในส่วนของการพัฒนาบุคลากร คอลเซ็นเตอร์อีก
นอกจากนี้ปีนี้บริษัทฯยังมีแผนเปิดชอปขึ้น 1 แห่ง ภายในศูนย์การค้าตามแผนเดิมที่วางไว้ในปีก่อน ภายในไตรมาส 1 นี้ ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ขณะที่แผนการขยายศูนย์กระจายสินค้า ต้องชะลอแผนไป เลื่อนไปเป็นปีหน้า เนื่องจาก ยังไม่มั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจ ที่มองว่ายังไม่ดีขึ้น
นางสาวอาภรณ์ กล่าวต่อว่า ปีก่อนดีเอชซีมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย 70% เป็นกลุ่มสกินแคร์, ฟู้ด 10% และอาหารเสริม 20% โดยในปีนี้จะยังคงรักษาสัดส่วนเดิมอยู่ แต่จะเพิ่มสินค้าเข้ามามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นลักษณ์สินค้าระดับพรีเมียม และสินค้าไลน์ใหม่ในกลุ่มของ คุณแม่และเด็ก อาทิเช่น แอนตี้เอจจิ้ง และสินค้าสำหรับเด็ก เนื่องจากมองเห็นว่าคุณแม่มือใหม่ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก และมีอำนาจการตัดสินใจซื้อสูง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคานำมันจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ทางบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นการตรึงราคาสินค้าไว้อยู่ แต่จะมีการพิจารณาสถานการณ์เป็นแต่ละไตรมาสไปว่าจะต้องมีการปรับราคาสินค้าขึ้นหรือไม่ ส่วนการบริการเดลิเวอรี่ที่เป็นช่องทางขายหลัก บริษัทฯยังคงคิดค่าบริการตามเดิม คือ สั่งซื้อสินค้าภายในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตั้งแต่ 1,000 บาท บริการฟรี โดยเป็นบริการสั่งเช้าได้เย็น ส่วนต่างจังหวัด สั่งซื้อตั้งแต่ 3,500 บาทขึ้นไป จัดส่งฟรีผ่านช่องทางอีเอ็มเอส ไม่เกิน 3 วัน
"จากกลยุทธ์ทางวางไว้สำหรับทำตลาดในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างน้อย 5% คิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเท่ากับตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 5%ในปีนี้เช่นกัน โดยสัดส่วนยอดขายยังคงมาจาก เดลิเวอรี่ 70% ฟู้ด 10% และอาหารเสริม 20% ขณะที่สัดส่วนลูกค้ากรุงเทพและปริมณฑล คาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 40% จากเดิม 50% โดยที่สัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นเป็น 60%จากเดิม 50% แทน" นางสาวอาภรณ์ กล่าวสรุป
|
|
|
|
|