|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปตัวเลขธุรกิจโฆษณาปี 2550 ว่าภาพรวมธุรกิจโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกเกิดการชะลอตัว ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังมีการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยยอดการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อในช่วง 9 เดือนแรกมีทิศทางที่ชะลอตัวลง ซึ่งจากการสำรวจของบริษัทนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) พบว่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วง 9 เดือนแรก มีมูลค่า 67,297 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่มีการขยายตัวเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายไตรมาสในรอบปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าไตรมาสสามการใช้เม็ดเงินมูลค่าสูงสุดด้วยเงินหมุนเวียน 23,663 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตสูงสุด 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับการใช้งบของภาคเอกชนโดยรวมที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสสาม
สำหรับ สื่อที่ถือเป็นตัวสำคัญของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในปีที่ผ่านมา คือ สื่อโรงภาพยนตร์และสื่อภายในห้างร้านค้าที่สามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2550 ซึ่งสวนกระแสกับภาพรวม โดยดูจากตัวเลขในช่วง 9 เดือนแรก ที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโรงภาพยนตร์มีอัตราการเติบโต 158.7% ขณะที่สื่อภายในห้างร้านค้าเติบโต 125.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่จากมูลค่าเม็ดเงินดังกล่าวคำนวณแล้วก็มีเพียง 3,615 ล้านบาท นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนทั้งหมด โดยคิดเป็น 5.4% ของเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในช่วง 9 เดือนแรกปี 2550 เท่านั้น
ฉะนั้น จึงไม่สามารถทำให้ภาพรวมธุรกิจโฆษณาเติบโตมากนัก เพราะสื่อหลักอย่าง สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อหนังสือพิมพ์ และสื่อนิตยสาร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 89% ของเม็ดเงินโฆษณาทั้งหมด กลับได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายที่ปรับตัวตามสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ด้วยการลดต้นทุนและการใช้จ่ายงบโฆษณา ผ่านสื่อหลักข้างต้นที่มีราคาแพง ขณะเดียวกัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขนมขบเคี้ยวกลายเป็นสินค้าที่ถูกภาครัฐบาลเข้มงวดอย่างมากในการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ เป็นผลให้ผู้ประกอบการและเอเจนซีเทน้ำหนักไปอยู่ที่การจัดกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มช่องทางใหม่ เช่น อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่
อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินโฆษณาในช่วงไตรมาส 3 ปี 2550 ที่เติบโตเพิ่มขึ้นนั้น พบว่า มาจากการปรับกลยุทธ์การทำงานของเจ้าของสื่อประเภทต่างๆ อาทิ การปรับปรุงรูปแบบของรายการทางโทรทัศน์ รูปเล่มภายนอกของหนังสือพิมพ์ หรือเนื้อหาสาระของรายการที่นำเสนอหรือตีพิมพ์ รวมถึงการขยายช่องทางการสื่อสารไปยังสื่ออื่นๆ เพิ่มขึ้นอย่างสื่อโรงภาพยนตร์ และสื่อในห้างร้านค้า นอกเหนือจากสื่อหลักอย่างโทรทัศน์และวิทยุ เป็นต้น
ขณะในช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ภายหลังที่มีความชัดเจนจากรัฐบาลที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป (ส.ส.) ในช่วงปลายปี 2550 ส่วนภาครัฐก็ต้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดการรับรู้แก่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย ซึ่งทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในวงการโฆษณาผ่านสื่อประเภทต่างๆประมาณ 300-400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.3-0.4% ของเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในปีนี้
ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีที่ผ่านมา นอกจากสื่อแต่ละประเภทจะได้รับอานิสงส์จากงบโฆษณาเลือกตั้งทั้งของหน่วยงานภาครัฐ และพรรคการเมืองแล้ว ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังเป็นช่วงเวลาของการเร่งกระตุ้นยอดขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการเพื่อให้บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ด้วย ซึ่งศูนย์กสิกรมองว่ามีเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อที่เติบโต 1.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 และทั้งปีเติบโตได้ประมาณ 2-5%
ดังนั้น ปี 2550 เม็ดเงินโฆษณาจึงมีเม็ดเงินหมุนเวียน ประมาณ 92,000-94,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2-5% ขณะที่ในปี 2551 เชื่อว่ามีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่า ปี 2550 หรือเกินกว่า 4%
|
|
|
|
|