Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์7 มกราคม 2551
5 อาวุธเด็ด จาก 5 เอเยนซี สุดยอดเครื่องมือเจาะตลาดแห่งปี             
 


   
search resources

วิทวัส ชัยปาณี
Advertising and Public Relations
อ่อนอุษา ลำเลียงพล




ปี 2550 ที่ผ่านพ้นไป อาจเป็นปีที่โหดหินของนักการตลาดปีหนึ่งในการฝ่าฟันสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาตลอดทั้งปี และยังต้องเผชิญกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการซอยเซกเมนท์ถี่ยิบ เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง จนกลายเป็นเรื่องยากลำบากที่แบรนด์ ๆ ใดจะสามารถสื่อสารเข้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่นักการตลาดก็ไม่ได้เดินเกมการตลาดอย่างไร้ทิศทางนัก เมื่อเหล่าเอเยนซีด้านการสื่อสารการตลาด ทั้งครีเอทีฟเอเยนซี แบรนด์เอเยนซี และมีเดียเอเยนซี ต่างค้นหาอาวุธเด็ดที่จะช่วยนำทาง สร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ในทุกช่องทาง

นี่คือ 5 อาวุธเด็ด จาก 5 เอเยนซี ที่ถือเป็นสุดยอดเครื่องมือเจาะตลาดแห่งปี ที่นำสู่การสร้างความรุ่งเรืองให้กับแบรนด์ที่หยิบอาวุธเหล่านี้ขึ้นมาใช้

ตรวจความแข็งแกร่งแบรนด์กับเครื่องมือใหม่จาก Y&R

ความอ่อนไหวของเศรษฐกิจ ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ทำให้นักการตลาดต่างมองว่า การสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้าของตนเพื่อให้เข้าไปอยู่ในใจของกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ วายแอนด์อาร์ แบรนด์เอเยนซี ในเครือยังก์แอนด์รูบิแคม แบรนด์ จึงขยับรุกหนักเปิดตัว Energy บริษัทน้องใหม่ เพื่อให้บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การสร้างและการสื่อสารแบรนด์

กิตติพงษ์ วีระเตชะ Vice President and Director of Idea Strategy & Brand Consultant ของ Energy เปิดเผยว่า ปัจจุบันการแข่งขันของตลาดมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ประกอบการและบริษัทโฆษณาต้องหาจุดเด่นที่แตกต่างเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและเลือกใช้สินค้าและบริการของตนเอง นอกจากนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมีการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา

Energy ถูกวางหมากในการแข่งขันด้วยการเป็นแผนกที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การสร้างและการสื่อสารแบรนด์ ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีแผนกดังกล่าวขึ้นมาก็เนื่องมาจากปัจจุบันการแข่งขันของตลาดที่ปรึกษายังคงมีน้อย ในขณะที่จุดเด่นของ Energy นั้นมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากบริษัทที่ปรึกษาอื่นๆดังจะเห็นจากความพร้อมด้านข้อมูล บุคลากร กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในมือ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทใหญ่ที่ได้รับความเชื่อถือในเรื่องของแบรนด์ดิ้ง ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเป็นปัจจัยในการทำให้บริษัทใหม่ๆที่สนใจจะเข้ามาใช้บริการได้นำมาพิจารณาและตัดสิน

นอกเหนือจากความพร้อมในด้านต่างๆแล้ว กลยุทธ์เด็ดที่ Energy เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จคือการมีเครื่องมือที่ชื่อว่า Brand Asset Valuator หรือ BAV ซึ่งถือเป็นเครื่องมือช่วยสร้างกลยุทธ์การสื่อสารให้กับแบรนด์ที่บริษัทในเครือ Y&R ทั่วโลก โดยเกิดขึ้นจากการทำวิจัยเชิงปริมาณกับคนทั่วโลก เพื่อที่จะศึกษาถึงเรื่อง ทัศนคติ และ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ต่างๆซึ่ง Y&R ได้จัดทำมาแล้วกว่า 13 ปี และผ่านการศึกษามามากว่า 35,000แบรนด์ ผ่านผู้บริโภคกว่า 500,000 คน จึงถือเป็นอีกหนึ่งฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ในขณะที่ประเทศไทยได้เริ่มทำการใช้ BAV ในปี 2536 จวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ทำการสำรวจวิจัยกับคนไทยจำนวน 1,875 คน และรวบรวมแบรนด์มาทำการศึกษากว่า 1,200 แบรนด์ จาก 100 หมวดสินค้าและบริการ

จุดเด่นของ BAV ที่ถือว่าเหนือและแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆนั้นประกอบไปด้วย การเป็นเครื่องตรวจวัดสุขภาพที่แท้จริงของแบรนด์ ซึ่ง BAV จะทำการประเมินความแข็งแรงของแบรนด์นั้นๆด้วยการให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบแบรนด์ที่สนใจกับแบรนด์ต่างๆที่มีอยู่ในตลาดโดยไม่มีการจำกัดประเภทสินค้า ซึ่งผลที่ออกมาจะทำให้นักการตลาดสามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้ การประเมินในรูปแบบนี้จะแตกต่างจากบริษัทที่ปรึกษาอื่นๆที่มุ่งทำการประเมินโดยการนำสินค้าประเภทเดียวกันมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งผลที่ปรากฏจะทำให้นักการตลาดไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์หรือความเป็นไปของอุตสาหกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ว่าจะเติบโตหรืออ่อนแอเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วเครื่องมือ BAVยังยืนยันว่า แบรนด์ที่แข็งแกร่งนั้นจะประกอบไปด้วย ความแตกต่างจากพลังในการที่จะพัฒนาตนเอง ,ความเหมาะสม ,ความรู้สึกดีชื่นชม และ ความรู้สึกคุ้นเคย ซึ่งหากสินค้าตัวไหนมีองค์ประกอบครบทั้ง 4 ประการก็จะถือว่าเป็นแบรนด์ที่สุขภาพดีและมีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต

ประการต่อมาที่เป็นจุดเด่นของ BAV คือ แหล่งความรู้สำหรับการวางกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในหลายกลุ่มประเภทสินค้าและบริการ ด้วยประสบการณ์ของการศึกษามาอย่างยาวนานทำให้มีข้อมูลในฐานมากมาย และสามารถนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์เพื่อที่จะกำหนดเทรนด์ในอนาคตได้ นอกจากนั้นแล้วข้อมูลบางอย่างก็จะบอกได้ถึงสินค้าหรือบริการประเภทไหนที่จะมีอัตราการเสื่อมถอย ซึ่งหากทราบแนวโน้มในอนาคตก่อนได้ก็จะสามารถแก้ไขและแข่งขันในตลาดได้

และประการสุดท้ายของ BAV คือ การเป็นเข็มทิศในการค้นหาทิศทางการบริหารแบรนด์ให้มีพลังเติบโต ด้วยฐานข้อมูลที่มีอยู่ในมือ จะช่วยให้ BAV สร้างเครื่องมือที่จะค้นหาแนวทางในการบริหารแบรนด์ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์แบ่งกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดตามลักษณะประชากรศาสตร์ หรือ แบ่งตามทัศนคติและพฤติกรรมการซื้อหรือใช้สินค้า ,การวิเคราะห์แผนที่ตำแหน่งของแบรนด์ในใจผู้บริโภค ,การประเมินศักยภาพของแบรนด์ในการเข้าไปทำตลาดในสินค้าใหม่หรือบริการใหม่ๆ ,การค้นหาพันธมิตรที่จะร่วมทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เป็นต้น

Engage Holistically กลยุทธ์ผูกใจสไตล์เบอร์เนทท์

"กลยุทธ์การทำงานแบบ Engage Holistically หรือการตอบโจทย์แบบคัดสรร มีเป้าหมายเพื่อผูกใจผู้บริโภค โดยให้เขามีส่วนร่วมในไอเดีย หรือคอนเทนต์ อย่างสมัครใจ ใช้การเข้าถึงด้วยสื่อที่คัดสรรจากกระบวนการสื่อสารที่บริษัทมีอยู่ครบทุกด้าน" อ่อนอุษา ลำเลียงพล ประธานกรรมการบริหาร ลีโอ เบอร์เนทท์ กล่าวแนะนำกลยุทธ์เด็ดของบริษัทในการพาสินค้าหรือบริการของลูกค้าทะลุทะลวงเข้าถึงใจของกลุ่มเป้าหมาย

อ่อนอุษากล่าวว่า ศักยภาพของลีโอ เบอร์เนทท์ รวมถึงอาร์ค เวิลด์ไวด์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาดครบทุกด้าน ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ผ่านการโฆษณา และการสื่อสารเฉพาะทางด้านอื่น ๆ อาทิ การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM(Customer Relationship Management), การตลาดส่งเสริมการขาย(Promotion Event), การตลาดค้าปลีก(Retail Marketing) รวมถึงการตลาด ณ จุดขาย(Shopper Marketing) ทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างถี่ถ้วน และหาคำตอบที่เป็น Holistic Solutions หรือการตอบโจทย์แบบคัดสรร เพื่อการสื่อสารการตลาดเฉพาะทางที่มีประสิทธิภาพเท่านั้นให้แก่ลูกค้า โดยคำนึงถึงผลลัพธ์ทางการตลาดของลูกค้าเป็นสำคัญ

"เราเชื่อว่าวันนี้ลูกค้าทุกรายต่างมองหาเอเยนซีที่เป็นมืออาชีพและมีศักยภาพในการสื่อสารการตลาดครบทุกรูปแบบ ซึ่งนอกเหนือไปจากโฆษณาเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญยังคงคำนึงถึงผลตอบแทนจากการลงทุนหรือ ROI(Return on Investment) เป็นหลัก ลีโอ เบอร์เนทท์ จึงสามารถนำกลยุทธ์ Engage Holistically มาให้บริการเพื่อเอื้อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจของลูกค้า โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ภาพพจน์ดีมาพร้อมยอดขายสร้างแบรนด์ ด้วย Branding in Action

อดีตครีเอทีฟไอเดียเยี่ยมจากวายแอนด์อาร์ สรชาติ ใจคิด ที่วันนี้ผันตัวมาเป็นผู้บริหาร บริษัท แบรนด์เซนทริค จำกัด แบรนด์เอเยนซีน้องใหม่ ก็มีอาวุธเด็ดที่เป็นจุดขายในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ภาวะที่การแข่งขันสูงในปัจจุบัน ด้วยกลยุทธ Branding in Action

Branding in Action เป็นกลยุทธการสร้างแบรนด์ ที่เน้นแอคชั่น แบรนดิ้ง ให้เกิดการกระทำ มิใช่เป็นการสื่อสารผ่านสื่อเหมือนการสร้างแบรนด์ทั่ว ๆ ไป สรชาติ เห็นว่า วันนี้ตลาดแมส มีน้อยลงทุกที เพราะทุกตลาดเริ่มถูกซอยแบ่งกลายเป็นเซกเมนต์ย่อย ๆ ซึ่งคงเป็นแนวโน้มที่จะยืนยาวไปอีกนาน และจะยิ่งซอยเล็กลงอีก ดังนั้น สื่อหรือกิจกรรมสนับสนุนการตลาดจึงควรพุ่งเป้าหมายเฉพาะกลุ่มโดยตรงโดยเฉพาะ เพื่อสร้าง Awareness การรับรู้แบรนด์ไปพร้อมกับการ Action สร้างยอดขาย Branding in Action จึงเเป็นคำตอบให้กับบริษัทเจ้าของสินค้าชั้นนำที่พยายามสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของตนในการเข้าสู่เซกเมนท์ย่อย ๆ

สรชาติกล่าวว่า ในอดีตนักการตลาดมักจะมองว่า กิจกรรม หรือหนังโฆษณาที่ทำหน้าที่สร้างแบรนด์ ไม่ได้สามารถสร้างยอดขายควบคู่ไปด้วยได้ ขณะที่กิจกรรมส่งเสริมการขาย ก็จะช่วยสร้างยอดขาย แต่อาจไปทำลายภาพพจน์ของแบรนด์ เช่น การลดราคา แต่ในวันนี้ตนเห็นว่า ทุกกิจกรรมสามารถสร้างแบรนด์ และสร้างยอดขายไปควบคู่ได้ โดยสิ่งสำคัญคือ ต้องมีความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ ด้วยการสร้างฐานลูกค้า สร้างแฟนคลับของแบรนด์นั้น ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ โดย Branding in Action จะเป็นกลยุทธ์ในการค้นหาเครื่องมือการตลาดที่จะสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์แต่ละแบรนด์

รู้เขา - รู้เรา ในสนามการตลาด ด้วย Touchpoints by Zenith

บทบาทของมีเดียเอเยนซีในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ทำหน้าที่วางแผนสื่อ และซื้อสื่อให้กับลูกค้าเท่านั้น เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในวันนี้เคลื่อนที่ไม่หยุดนิ่ง สื่อหลัก ๆ อย่างโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ วิทยุ หรือป้ายโฆษณา ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เท่าเดิม เซนิธออฟติมีเดีย มีเดียเอเยนซีในเครือพัลลิซิส จึงเสาะหาเครื่องมือที่จะช่วยนักการตลาดในการวางแผนสื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นที่มาของ Touchpoints

ปรียดา วุฒิภักดี ประธานกรรมการบริหาร เซนิธออพติมีเดีย ประเทศไทย กล่าวว่า Touchpoints เป็นเครื่องมือในการวัดผลของการสื่อสารทุกช่องทางในเชิงเปรียบเทียบด้วยมาตรฐานเดียวกันเพื่อให้นักการตลาดสามารถใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ วางแผนการใช้งบประมาณสื่อในเชิงติดตามผลดำเนินงาน เพื่อเป็นข้อมูลในการวัดผลว่า การสื่อสารช่องทางใดให้ประสิทธิภาพ ให้ผลคุ้มค่า และเข้าถึงผู้บริโภคได้สูงกว่ากัน

จุดเด่นของ Touchpoint คือ การจัดการแบบมีทิศทาง

ช่วยนักการตลาดให้เข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางการสื่อสารที่ถูกต้อง โดยข้อมูลที่ได้จาก Touchpoint สามารถระบุได้ว่า สื่อไหนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย สื่อใดสามารถโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้สูงสุด โดยสามารถตอบโจทย์ประสิทธิภาพของการสื่อสารได้ถึง 3 ขั้นตอน ตั้งแต่ ประสิทธิภาพในการรับรู้ ประสิทธิภาพที่ทำให้เกิดพฤติกรรการซื้อหรือใช้ และประสิทธิภาพที่ทำให้เกิดความเชื่อนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ และที่สำคัญ Touchpoint ยังสามารถวัดผลในเชิงเปรียบเทียบของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งหมายถึงคู่แข่ง ให้เห็นถึงแผนการใช้สื่อ และประสิทธิภาพที่ได้รับ สูงถึง 18 แบรนด์

ปรียดามั่นใจว่า Touchpoint จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดได้ข้อมูลที่แท้จริงในทุกมิติ เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วในตลาด สามารถตรวจสอบได้ว่า งบประมาณการสื่อสารที่ใช้อยู่ในแต่ละช่องทางมีประสิทธิภาพและได้ผลอย่างไร ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ จะสามารถหาช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยในการกำหนดงบประมาณรุกตลาดในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานสื่อสารแบรนด์เต็มคุณภาพคั้นจนเข้ม ด้วย SQUEEZE

งานครีเอทีฟโฆษณาทั่วไปอาจหวังผลได้เพียงหน้าเดียว หากตั้งเป้าที่จะเน้นให้ผลงานส่งผลต่อการขายสินค้า หรือที่เรียกกันว่า "ฮาร์ดเซลล์" ก็อย่าหวังว่าผลงานชิ้นเดียวกันนั้นจะมีโอกาสขึ้นไปวาดลวดลายบนเวทีประกวด ในทางกลับกันเอเยนซีที่เป็นขาประจำบนเวทีประกวด คว้ารางวัลเวทีแล้ว เวทีเล่า ผลงานเหล่านั้นมักไม่ใช่งานสร้างยอดขายสักเท่าไหร่ แต่สำหรับงานโฆษณาของ ครีเอทีฟ จูซ\จีวัน วิทวัส ชัยปาณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลับไม่ได้อยู่ในกรอบจำกัดนั้น

ปี 2548 แคมเปญโฆษณาของกรุงเทพประกันภัย 3 ชุด ประกอบด้วย "ปล้น", "ล้อหลุด" และ "พายุหมุน" กวาดรางวัลจากเวทีโฆษณาไม่เพียงเฉพาะในประเทศ แต่ 2 เวทีโลกอย่าง Clio Awards และ Cannes ก็ยินดีมอบรางวัล Gold Awards ให้กับครีเอทีฟ จูซฯ พร้อมกัน ขณะที่กรุงเทพประกันภัย ก็สามารถขยับยอดขายเพิ่มจาก 8% เป็น 13% ส่วนแบ่งตลาดก็พุ่งขึ้นอยู่ในระดับ Top 5 จากบริษัทประกันภัยที่มีอยู่นับสิบบริษัท นั่นคือผลงานที่ถูกกำหนดเป็นมาตรฐานของชิ้นงานของบริษัทฯ ในต่อมา

วิทวัส กล่าวว่า ครีเอทีฟ จูซฯ มีการเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนางานครีเอทีฟให้แข็งแกร่งทั้งด้านไอเดียครีเอทีฟ และประสิทธิภาพในการสื่อสารแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้เครื่องมือที่ตั้งชื่อว่า SQUEEZE ออกมาใช้ในส่วนงานครีเอทีฟ

SQUEEZE เปรียบเหมือนการคั้นน้ำผลไม้เข้มข้น โดยกรองกากที่ไม่ต้องการใช้ออก ไอเดียครีเอทีฟที่ดีต้องมีความเข้มข้น ชัดเจน และมีทิศทางเป็นหนึ่งเดียว ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่สร้างประโยชน์จะถูกกรองออก เหลือเพียงไอเดียบริสุทธิ์เข้มข้น ที่จะช่วยให้แบรนด์ของลูกค้าขายได้ และเติบโตอย่างจริงจัง โดยมีการทำงานใน 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย

1. Objective Squeeze การกรองจุดประสงค์ที่ไม่ต้องการออก เพราะเป้าหมายของลูกค้าบางครั้งไม่สามารถใช้งานโฆษณาได้ อาจต้องมองหาเครื่องมืออื่นเช่น การประชาสัมพันธ์ หรือการจัดกิจกรรม

2. Impact Squeeze การกรองไอเดียที่จะส่งผลต่อธุรกิจเท่านั้น ไอเดียสดใหม่ แต่ไม่สามารถเสริมสร้างธุรกิจของลูกค้าได้ จะต้องกรองทิ้ง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นโฆษณาที่โด่งดัง รับรางวัลมากมาย แต่ไม่ช่วยสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า

3. Insight Squeeze การกรองไอเดียที่มีความลึกในมุมมองของผู้บริโภค ที่ครีเอทีฟ จูซฯ เชื่อว่า ไอเดียสร้างสรรค์ที่ดีที่สุด ต้องสะท้อนความในใจของผู้บริโภค สะท้อน Consumer Insight หากไอเดียใดไม่สะท้อนแง่มุมเหล่านี้ ก็จะเป็นเพียงไอเดียแปลก ๆ ที่ไม่มีประสิทธิภาพอะไร

SQUEEZE จึงเป็นอีกอาวุธเด็ดในงานครีเอทีฟของคนโฆษณา ที่ถูกหยิบมาใช้ในการสร้างความสำเร็จให้กับนักการตลาดในยุคนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us