สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทาทา มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุกชั้นนำของอินเดีย มีแผนผลิตรถปิกอัพที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ในไทย

ซึ่งทาทา มอเตอร์ส มีหน่วยงานร่วมทุนกับบริษัทธนบุรีประกอบยนต์ โดยผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของอินเดีย แถลงว่า รถปิกอัพที่จะผลิตในประเทศไทยนั้น จะเป็นรถที่ได้มาตรฐานการปล่อยไอเสียทางอากาศของยุโรป หรือ ยูโร 4 และใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร แบบหัวฉีดตรง

ทาทา มอเตอร์ส ซึ่งมีส่วนแบ่งประมาณ 60% ในตลาดรถโดยสารขนาดใหญ่ และรถบรรทุกในประเทศอินเดีย จะนำรถปิกอัพรุ่นดังกล่าวไปเปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์ โชว์ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งนำ "เอลิแกนท์" รถเก๋งต้นแบบไปจัดแสดงด้วย

โดยรถปิกอัพรุ่นใหม่ของทาทา มอเตอร์ส จะผลิตที่โรงงานของบริษัทธนบุรี เพื่อจำหน่ายสู่ตลาดภายในประเทศและส่งออกด้วย โดยทาทา มอเตอร์ส จะถือหุ้น 70% ในหน่วยงานร่วมทุนกับบริษัทธนบุรี นอกจากนี้ ทาทา มอเตอร์ส ยังจะทำการผลิตรถปิกอัพที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ในอินเดียด้วย โดยจะส่งออกไปยังยุโรป แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นั่นเป็นรายงานข่าวเมื่อหลายเดือนที่แล้ว แต่ล่าสุด ความเคลื่อนไหวของ ทาทา มอเตอร์สชัดเจนขึ้นอีกระดับแล้ว

ช่วยสร้างกระแสรถต่างชาติยี่ห้อใหม่ ที่เดินหน้าบุกเข้าตลาดไทย

"เราได้ลงทุนร่วมกัน 1.3 พันล้านบาท เพื่อขึ้นไลน์ประกอบปิกอัพทาทา เป็นโมเดลแรกสำหรับทำตลาดในไทย ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า และตั้งใจว่าจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถ สำหรับภูมิภาคอาเซียนในอนาคต รวมถึงมีแผนที่จะมีผลิตภัณฑ์ไลน์ต่างๆ ที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมาก" อาจิต เวนคาทารามัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ซึ่งล่าสุดนอกจากปิกอัพแล้ว ทาทา มอเตอร์ส ได้ยื่นความจำนงกับรัฐบาลไทย ที่จะรวมโครงการผลิตรถยนต์นั่งประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ด้วย

ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ทาทา มอเตอร์ส ประเทศอินเดีย กับบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ ในอัตราส่วน 70 :30 เพื่อประกอบและทำตลาดรถยนต์ทาทาในไทย

กลุ่มทาทา เป็นกลุ่มผู้ผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่ของโลก และเพิ่งเข้ามาซื้อกิจการเหล็กในไทยจาก บมจ.มิลเลนเนียม สตีล (MS) ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.ทาทา สตีล (TSTH)

เบื้องต้นทาทาจะเริ่มจากการผลิตปิกอัพ 1 ตัน โดยได้มีการขึ้นไลน์ผลิตในไทยใหม่หมด ในพื้นที่ของบริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ จังหวัดสมุทรปราการ ด้วยกำลังการผลิตอยู่ที่ปีละกว่า 3.5 หมื่นคันต่อปี ซึ่งระยะแรกจะใช้ชิ้นส่วนประกอบในประเทศไทยประมาณ 45% และอีกไม่นานก็จะเพิ่มเป็น 50% โดยปัจจุบันมีซัพพลายเออร์ในไทยกว่า 40 ราย ซึ่งนอกจากจะผลิตชิ้นส่วนสนับสนุนทาทาในไทยแล้ว ยังได้มีการสั่งซื้อชิ้นส่วนส่งโรงงานทาทาที่อินเดียเช่นกัน

ทาทาฯ ตั้งเป้าไว้ว่า ภายใน 5 ปี จะครองแชร์ปิกอัพ 5% ให้ได้

"แม้ตลาดรถยนต์ไทยจะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และทำตลาดมานานหลายยี่ห้อ แต่ทาทาก็มีความมั่นใจ เพราะการที่จะผลิตรถออกมาแต่ละรุ่น ได้ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรก จึงมีการสำรวจความต้องการ และผลิตรถออกมาตอบสนองผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของปิกอัพทาทาฯ อยู่ที่เรื่องของดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ รวมถึงเครื่องยนต์คอมมอนเรล เจนเนอเรชั่น 2" อาจิตกล่าวอย่างมั่นใจ

"จากการมุ่งตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งปิกอัพที่ทำตลาดจะมีทั้งแบบมาตรฐาน มีแค็บ และดับเบิลแค็ป พร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง 2.2 และ 3.0 ลิตร คอมมอนเรล โดยเบื้องต้นตั้งเป้ายอดขายตลอดทั้งปีประมาณ 5 พันคน และตั้งเป้าภายใน 5 ปี ทาทาฯ จะมีส่วนแบ่งในตลาดปิกอัพ 5%"

ในส่วนของเครือข่ายการจำหน่าย คาดว่าเดือนมีนาคมจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณ 20-25 ราย ครอบคลุมตามกลุ่มเป้าหมายของทาทาฯ ซึ่งจะกระจายทั่วประเทศ และที่สำคัญช่วงแรกหากรถของลูกค้าเกิดปัญหาในพื้นที่จังหวัดไม่มีศูนย์บริการ ทาทาฯ มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้น ลูกค้าที่ซื้อรถจากทาทาไม่ต้องกลัวปัญหาการเข้าศูนย์บริการแต่อย่างใด

และหลังจากการเปิดตลาดด้วยปิกอัพ ก็พร้อมจะนำรถประเภทอื่นๆ เข้ามาลุยในตลาดต่อ

ทาทาฯ เข้ามาลงทุนในไทยมองความมั่นคงระยะยาว ฉะนั้นการดำเนินงานทุกอย่างจึงไม่ได้มองที่ตัวเลขระยะสั้น โดยเฉพาะการใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องผลักดันให้ปิกอัพของทาทาฯ ประสบความสำเร็จ และก็มีความพร้อมที่จะผลิตรถยนต์ประเภทอื่นๆ ด้วย เพราะทาทาฯ มีรถยนต์ที่หลากหลายแทบจะทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์นั่ง รถบรรทุกขนาดเล็ก ไปจนถึงรถขนาดใหญ่

นอกจากทาทาฯ แล้ว ค่ายรถจากจีนอย่าง "เชอรี่" (Chery) ก็พร้อมจะบุกตลาดไทย ผ่านการของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ โดยจะร่วมกับกลุ่มยนตรกิจอีกทางหนึ่ง

ปิกอัพของทาทาฯ จะประสบความสำเร็จในเมืองไทยหรือไม่? เพราะอะไร?

และอนาคตของของแบรนด์ทาทาฯ จะสดใสหรือเปล่า?

บทวิเคราะห์

ถามว่าระหว่างพญามังกรจีนและพยัคฆ์ลำพองอินเดียจะกลายเป็นเจ้าโลกแห่งศตวรรษที่ 21 นั้น ยังไม่มีใครตอบได้ แม้ว่าในช่วงทศวรรษแรก จีนจะทิ้งอินเดีย แบบไม่เห็นฝุ่นก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความอินเดียจะไม่มีวันแซงจีน

ในโลกแห่งการแข่งขันนั้น รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้แข่งขัน บรรษัทต่างหากที่ออกไปสู้รบปรบมือ ดังนั้น ความเข้มแข็งของบรรษัทจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญแห่งการครองโลกเศรษฐกิจ

หนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญในโลกเก่าก็คืออุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง เพราะสามยักษ์ของดีทรอยส์กำลังประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนัก ขณะที่ตลาดจีนและอินเดียกำลังเติบโตมากๆ อาจเรียกได้ว่าเป็นเพียงสองประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตของประชากรรถยนต์สูงที่สุดในโลก เพราะอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่คนมีรถน้อย ดังนั้น โอกาสทางการตลาดสูงมาก

บริษัทต่างชาติจึงบุกตลาดมังกรพยัคฆ์เต็มสูบ อย่างไรก็ตามบริษัทรถยนต์ในประเทศก็พยายามปกป้องตลาดของตนเองด้วยการกระโจนเข้ามาแข่งขัน ในจีนก็มีบริษัทเชอรี่ ที่เริ่มต้นด้วยการลอก หลังจากนั้น ก็พยายามพัฒนาเครื่องยนต์ของตนเอง เพราะรู้แล้วว่าการลอกคู่แข่งนั้น สามารถอยู่ได้แต่ในประเทศ ทว่าไม่สามารถเติบโตในตลาดต่างประเทศได้เลย

ทาทา มอเตอร์ส บริษัทในเครือทาทา เจ้าพ่อเหล็กรายใหญ่ของโลก ซึ่งขยายมาสู่อุตสาหกรรมรถ เพราะเป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากรถยนต์ต้องใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบเป็นหลักอยู่แล้ว

ทาทา มอเตอร์ส ไม่ได้ทำรถยนต์แบบขำๆ เพื่อ Forward Integration เท่านั้น หากเอาจริงเอาจังอุตสาหกรรมรถยนต์มากๆ

เมื่อเร็วๆ นี้ได้ยื่นเสนอซื้อจากัวร์ ที่ฟอร์ดต้องการโละออกจากพอร์ตในราคา 2.5 พันล้านเหรียญ สหภาพแรงงานจากัวร์ที่ตอนแรกคัดค้าน ทว่าไม่เป็นผล ภายหลังได้ข้อสรุปว่า ทาทา มอเตอร์ส เป็น "the only company" among the final bidders "with enough money, clout and experience in our industry" to successfully manage the brands.

แสดงให้เห็นถึงการยอมรับใน ทาทา มอเตอร์ส ไม่ใช่น้อยทีเดียว

ดังนั้น การบุกตลาดปิ๊กอัพไทยในครั้งนี้มีนัยสำคัญทีเดียว

คนทั้งบางรู้อยู่ว่าไทยเป็นประเทศที่ตลาดปิ๊กอัพโตเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ทั้งๆ ที่ประเทศเล็กนิดเดียว เหตุผลหนึ่งก็เพราะราคาปิ๊กอัพถูก เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ภาคชนบทซื้อปิ๊กอัพใช้กันเยอะมาก ปิ๊กอัพจึงกลายเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ไปโดยปริยาย

โตโยต้าย้ายฐานอาร์แอนด์ดีจากญี่ปุ่นมาอยู่ประเทศไทย และใช้ไทยเป็นฐานผลิตวีโก้ส่งออกไปขายทั่วโลก ส่วนอีซูซุซึ่งเป็นเจ้าปิ๊กอัพเดิมก็ไม่ยอมแพ้ ใช้ไทยเป็นฐานเช่นกัน ทั้งสองแบรนด์ต่างสู้รบปรบมือกันอย่างถึงพริกถึงขิง งัดกลยุทธ์ทุกรูปแบบออกมาสู้

ขนาดรถสัญชาติญี่ปุ่นด้วยกันยังไม่สามารถเจาะตลาดของโตโยต้า และอีซูซุได้เลย

ทาทา มอเตอร์ส เป็นใครกันจึงจะสามารถเจาะตลาดไทยได้

คำตอบน่าจะอยู่ที่การผลิตปิ๊กอัพราคาถูกนั่นเอง

อย่าลืมว่า ทาทา มอเตอร์ส มีฐานอยู่ในประเทศอินเดียซึ่งมีประชากรมาก ส่วนใหญ่เป็นคนยากจน ดังนั้น ถ้าจะขายได้ต้องทำรถยนต์ราคาถูกออกมาจำหน่าย อีกทั้งกลุ่มทาทายังเป็นเจ้าอุตสาหกรรมเหล็กรายใหญ่ของโลก

การได้พาร์ทเนอร์ที่ดีอย่างกลุ่มธนบุรี

ไม่อาจดูแคลนปิ๊กอัพ ทาทา มอเตอร์ได้เลย

ลองคิดดูว่าหากทาทาฯ สร้างปิ๊กอัพราคาประหยัดอย่างที่ Asus สร้าง EEE PC อะไรจะเกิดขึ้น

ขายถล่มทลายไปสิจ๊ะ