|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เงินเฟ้อธ.ค.พุ่งปรี๊ด 3.2% สูงสุดในรอบปี แต่เฉลี่ยทั้งปี 2.3% ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ “พาณิชย์"เป็นปลื้มมาตรการบริหารจัดการราคาสินค้าได้ผล ทำให้คุมเงินเฟ้อได้อยู่หมัด ส่วนเงินเฟ้อปีนี้ตั้งเป้าเพิ่ม 3-3.5% หลังสินค้าจ่อคิวขยับราคา “ศิริพล”สั่งกรมการค้าภายในเพิ่มมาตรการช่วยค่าครองชีพผู้บริโภค ขู่ใครทำสินค้าปั่นป่วนจับยัดบัญชีควบคุมทันที
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ประจำเดือนธ.ค.2550 เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.1% เทียบกับเดือนธ.ค.2549 สูงขึ้น 3.2% เป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบปี2550 และเทียบเฉลี่ยทั้งปี 2550 กับปี2549 สูงขึ้น 2.3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ว่าอัตราเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 2-2.5%
ทั้งนี้ เงินเฟ้อทั้งปีที่สูงขึ้น 2.3% นั้น เป็นอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่เงินเฟ้อทั้งปีสูงถึง 4.7% เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรกราคาเฉลี่ยน้ำมันในประเทศมีแนวโน้มลดลง และเริ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีตามภาวะราคาตลาดโลก ที่ส่งผลให้มีการปรับค่าโดยสารสาธารณะ สินค้าต่างๆ มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และยังมีการปรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่และสุราสูงขึ้น ทำให้ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 1.2% ถึงแม้ค่าไฟฟ้าจะปรับลดลงก็ตาม
ส่วนดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มในรอบปีสูงขึ้นค่อนข้างมาก 4% จากการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มใช้ประกอบอาหารในช่วงครึ่งปีหลัง เช่น น้ำมันพืช น้ำปลา กาแฟ ถึงแม้กลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักและผลไม้ราคาจะมีแนวโน้มลดลง แต่ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา ดัชนียังคงสูงขึ้นถึง 11.9%
“ผลจากการชะลอตัวของราคาสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปี ประกอบกับการบริหารจัดการด้านราคาของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ผล ทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อในปี 2550 อ่อนตัวลงกว่าปีที่ผ่านมา และอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้”นายศิริพลกล่าว
ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศ ที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหาร และกลุ่มพลังงาน คิดเป็น 24% ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดออก เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.2550 สูงขึ้น 0.1% เทียบกับเดือนธ.ค.2549 สูงขึ้น 1.2% และเฉลี่ยทั้งปี 2550 สูงขึ้น 1.1%
นายศิริพลกล่าวว่า สำหรับเงินเฟ้อในปี 2551 กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยอยู่ในระดับ 3-3.5% ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ 80-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 33-33.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 4-5% โดยมั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์จะดูแลอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แม้ว่าในปีนี้จะมีแรงกดดันจากการปรับขึ้นราคาสินค้าหลายๆ รายการก็ตาม
“การที่สินค้าจะปรับขึ้นราคาช่วงปีใหม่ แน่นอนว่าจะมีผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่การประเมินเงินเฟ้อไม่ใช่ดูแค่สินค้ารายการใดรายการหนึ่ง ต้องดูภาพรวมสินค้าทั้งหมด ซึ่งมีทั้งปรับขึ้น และลดลง ดังนั้น จึงมั่นใจว่าคุมเงินเฟ้อได้ตามเป้าหมายแน่”นายศิริพลกล่าว
นายศิริพลกล่าวว่า ในการดูแลค่าครองชีพของประชาชนในปีนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มมาตรการที่ดำเนินการอยู่แล้วให้เข้มข้นมากขึ้น ทั้งการดูแลภาวะราคาสินค้า โครงการธงฟ้า และโครงการอิ่มทั่วฟ้าราคาประหยัด
ขณะเดียวกัน อยากจะขอเตือนผู้ประกอบการอย่าปรับขึ้นราคาสินค้าโดยคำนึงถึงแค่ตัวเอง ขอให้ดูผลกระทบต่อผู้ประกอบการหรือผู้ใช้สินค้าในขั้นถัดไปด้วยว่าได้รับผลกระทบหรือไม่ โดยหากพบเห็นการปรับขึ้นราคาแบบไม่มีเหตุอันควร ขอให้กรมการค้าภายในดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ รวมทั้งให้พิจารณานำเข้าเป็นสินค้าควบคุม ส่วนผู้บริโภคหากพบเห็นภาวะราคาสินค้าผิดปกติให้แจ้งสายด่วนแม่บ้าน 1569 กระทรวงพาณิชย์จะรีบเข้าไปดูแลทันที
|
|
|
|
|