Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 มกราคม 2551
ตลาดอนุพันธุ์ปลื้มวอลุ่มเทรดปี50 เหตุนักลงทุนเปิดบัญชีเพิ่มเท่าตัว             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)- TFEX

   
search resources

เกศรา มัญชุศรี
Investment
ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย), บมจ.-TFEX




ตลาดอนุพันธ์ ปลื้มวอลุ่มเทรดปี50 เข้าเป้า 5.17 พันสัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 330% จากปีก่อนที่มี 1.2 พันสัญญาต่อวัน โดยมีนักลงทุนเปิดบัญชีซื้อขายทั้งสิ้น 9.41 พันบัญชี เพิ่มขึ้น100%จากปีก่อน ด้านบล.เคจีไอ ยังคงครองแชมป์โบรกเกอร์อันดับ1 ขณะที่ตราสารหนี้ปริมาณการซื้อขายพุ่งกว่า 600%

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ TFEX เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2550 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากภาวะการซื้อขายเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยปีนี้(ถึงวันที่ 25 ธ.ค.)อยู่ที่ 5,172 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 330% จากปี 2549 ที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 1,204 สัญญาต่อวัน แบ่งเป็น การซื้อขาย SET50Index Futures จำนวน 4,976 สัญญาต่อวัน และ SET50 Index Options 196สัญญาต่อวัน จากที่การซื้อขายออปชั่นเพิ่งเริ่มเปิดการซื้อขายเมื่อปลายเดือนตุลาคม2550

ทั้งนี้ มีนักลงทุนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นในการเข้ามาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์โดยมีการเข้ามาเปิดบัญชีซื้อขายจำนวนทั้งสิ้น 9,415 บัญชี เพิ่มขึ้น 108 % จากปีก่อนที่มีจำนวน 4,513 บัญชี ซึ่งประเภทบัญชีที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ ผู้ลงทุนทั่วไป เพิ่มขึ้น 112% ผู้ลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น 85% และผู้ลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น 52% โดยสัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนแบ่งเป็น นักลงทุนทั่วไป จำนวน 55% นักลงทุนสถาบัน 25.5 % นักลงทุนต่างประเทศ 19.5%

สำหรับ สมาชิกที่ซื้อขายสูงสุดห้าอันดับแรก ได้ แก่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ KGI บริษัท ทรีนีตี้ โพลาริส ฟิวเจอร์ส จำกัด บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) บล.บัวหลวง โดยในปีหน้าตลาดอนุพันธ์ยังคงเดินหน้าในการจัดสัมมนา โดยจะเน้นทั้งด้านการให้ความเข้าใจพื้นฐานของอนุพันธ์ และการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์การซื้อขายจริงและการเรียนรู้ด้านกลยุทธการซื้อขายรูปแบบต่างๆเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ลงทุน โดยโครงการLucky กับTFEX ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อนักลงทุนทั่วไปที่สามารถบริหารผลตอบแทนการซื้อขายขายของตนเองได้ดีและได้กำไรสูงสุด สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการนี้เพื่อมีสิทธิได้รับรางวัลประจำเดือนและรางวัลการดูงานที่ตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ

ส่วนในด้านผู้ลงทุนต่างประเทศนั้นตลาดอนุพันธ์จะยังคงร่วมงานและออกบูธประชาสัมพันธ์ในงานอนุพันธ์ระดับสากลของเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายฐานผู้ลงทุนในตลาดอนุพันธ์ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่านักลงทุนต่างๆจะให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยคาดว่าปริมาณการการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปีหน้าประมาณ 10,000 สัญญาต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากปี 2550

นายสันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้BEX (Bond Electronic Exchange)จะเดินหน้าพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยให้เป็นหนึ่งในเสาหลักที่มีประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและเป็นทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าบรรยากาศการออกตราสารหนี้ในปี 2551คาดว่าจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 เพราะเชื่อว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงกลางปีและหากธนาคารแห่งประเทศพิจารณายกเลิกให้มาตรการ30% น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดตราสารหนี้

สำหรับ ภาวะการซื้อขายตราสารหนี้ปี2550 มีมูลค่า 2.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 616% จากปี 2549 ที่มีมูลค่า การซื้อขายทั้งสิ้น 4.06 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อขายโดยสถาบันจำนวน 2.9 แสนล้านบาท และบุคคล 275.71 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในปี2550 จำนวน 1,270 ล้านบาท เทียบกับปี2549 ซึ่งอยู่ที่ 168 ล้านบาทต่อวัน โดยการซื้อขายยังคงกระจุกตัวในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐบาลและตั๋วเงินคลัง

ทั้งนี้ มีตราสารหนี้เข้าจดทะเบียนใน BEX 3.9ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปี 2549ที่มี ตราสารหนี้เข้าจดทะเบียนทั้งสิ้น 3.5 ล้านล้านบาท โดยปัจจุบันมีมูลค่าคงค้างรวมประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท โดย 90% เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐ ขณะนี้ BEX อยู่ระหว่างศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคของการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนให้เอกชนใช้ตราสารหนี้เป็นช่องทางการระดมทุนมากขึ้นรวมทั้ง เพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดด้วย นอกจากนี้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและซื้อขายตราสารหนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2551   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us