ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา ผู้บริหารดีแทคพาบรรดาสื่อมวลชนรวมทั้งทีมงานในบริษัทเกิน 100 ชีวิต ไปถึงจังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมงานแถลงข่าวการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา รวมถึงร่วมเปิดตัวซิมการ์ดรุ่นใหม่เพื่อหวังใช้เจาะกลุ่มลูกค้าในภาคเหนือ

ในงานแถลงข่าวดีแทคบอกว่าสัดส่วนจำนวนลูกค้าและรายได้ ล่าสุดของตนอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับส่วนแบ่งจากตลาดบนสุดของแผนที่สยามอย่างภาคเหนือกลับมีสัดส่วนของลูกค้าเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

เมื่อนำข้อมูลการสำรวจที่ได้มานั่งวิเคราะห์ ดีแทคพบว่าสาเหตุ เรื่องเครือข่ายหรือสถานีฐานที่ยังน้อยน่าจะเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ โดยปี 2549 ดีแทคมีเสาสัญญาณเพียง 900 ต้น เทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ที่มีมากกว่า 1,000 ต้น ดังนั้นปีที่ผ่านมาดีแทคจึงเพิ่มเสาสัญญาณเข้าไปอีก 450 ต้น และยังจะเพิ่มอีกในจำนวนเท่ากันในปีนี้

ซิมการ์ดรุ่นใหม่ที่ดีแทคออกแบบมาเพื่อใช้เจาะกลุ่มลูกค้าในภาคเหนือโดยเฉพาะ จึงเป็นหนึ่งในแผนงานที่จำเป็นของดีแทคที่วาง โครงการเอาไว้มาตั้งแต่ต้น หลังจากก่อนหน้าเคยเปิดตัวซิมการ์ดสำหรับคนในภาคอีสาน เพื่อหนีตลาดหลักอย่างกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว

ซิมการ์ดสำหรับโทรศัพท์แบบเติมเงิน ซับแบรนด์แฮปปี้ที่ชื่อ "ม่วนอ๊กม่วนใจ๋" นี้เป็นซิมการ์ดที่เกาะกระแสซิมแฝดที่ดีแทคประสบ ความสำเร็จเป็นอย่างมากเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะดีแทคออกแบบให้ 1 แพ็กเกจมี 4 หมายเลขโทรศัพท์

ทั้ง 4 หมายเลขจะมีลักษณะของหมายเลขใกล้เคียงกันมาก เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มหมายเลขกลุ่มเดียวกัน คนซื้อสามารถโทรศัพท์หากันได้ในกลุ่มเบอร์ในราคาที่กำหนดเอาไว้ว่าถูกมาก แม้ผู้ขายจะสามารถแยกขายเป็นหมายเลขได้แต่ผู้บริหารก็หวังว่า คนจะซื้อมาใช้ กันเป็นกลุ่ม เพิ่มยอดจำนวนการใช้งานที่มากขึ้นแทนที่จะเป็นการใช้หมายเลขเดียว

นอกเหนือจากนั้นผู้บริหารของดีแทคยังหวังว่าเมื่อคนเหนือใช้งานซิมการ์ดม่วนอ๊กม่วนใจ๋จะช่วยให้ส่วนแบ่งในภาคเหนือของดีแทค เพิ่มเป็น 30 เปอร์เซ็นต์จาก 20 เปอร์เซ็นต์ และหวังจะให้ซิมการ์ดรุ่นใหม่ติดอยู่ในใจของคนทุกภาค ให้เหมือนของฝากจากภาคเหนือ

"ใครไปเหนือก็ฝากซื้อซิมการ์ดม่วนอ๊กม่วนใจ๋มาฝากกัน เหมือนไส้อั่วที่คนนิยมหาซื้อเป็นของฝากให้กันนั่นเอง" รองซีอีโอของดีแทคบอกเอาไว้