|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มกราคม 2551
|
|
ความหวานและรสชาตินุ่มลิ้นของช็อกโกแลตปีนี้ อาจไม่เท่ากับปีที่ผ่านๆ มา เพราะความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มิสซิสฟลาวเวอร์ ธารัส สุทธิคำ ถึงกับเอ่ยปากว่า การขายช็อกโกแลตปี 2550 หนักหนาสาหัสที่สุด
ช็อกโกแลตเป็นสินค้าที่มีการขายเป็นเทศกาล แต่ละปีเทศกาลใหญ่ก็คือ ช่วงสิ้นปีและช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ แต่งานหลังก็คงเป็นเพียงกระแสเล็กๆ ที่ปลุกให้ธุรกิจนี้ตื่นเต้นได้เพียงเล็กน้อย งานใหญ่จริงๆ ก็ต้องเทศกาลปีใหม่
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในการขายช็อกโกแลตปลายปีนี้ ธารัสอธิบายว่า สินค้าที่ทำออกมาช่วงนี้มีการปรับขนาดและจำนวนให้น้อยลงเพื่อทำให้ราคาขายไม่สูงเกินไป โดยสามารถหาซื้อได้ในราคา 50 บาท ขึ้นไป และเป็นปีแรกที่เขาเริ่มทำพร้อมๆ กับเปิดร้านย่อยๆ ชั่วคราวอีก 30 ร้าน ในลักษณะของคีออสตามศูนย์การค้าต่างๆ
"ที่ผ่านมาสินค้าเราไม่ได้ขึ้นราคา เพราะว่าราคาของเราสูงอยู่แล้ว" ธารัสให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าทำไมต้องปรับรูปแบบการตลาดในช่วงนี้
การออกแบบหีบห่อและการจัดกล่องบรรจุช็อกโกแลตให้น่าสนใจเข้ากับเทศกาลต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทได้เริ่มทำแล้ว ที่เห็นชัดเจนคือเทศกาลปีใหม่ที่มีหีบห่อใหม่ๆ ออกมา รวมไปถึงการทำช็อกโกแลตในวาระพิเศษ
ช็อกโกแลตสีเหลืองทองสีสันน่ากิน คือสินค้าวาระพิเศษในการ เฉลิมฉลองร่วมกับคนไทยทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา สินค้าตัวนี้ประยุกต์แนวคิดขนมไทยที่มีทองคำเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ขนมทองเอก จ่ามงกุฎ ก็เลยมีช็อกโกแลตทองคำออกมาจำหน่าย โดย ในกลุ่มบรรจุช็อกโกแลต 16 ชิ้น และจะมีชิ้นเพิเศษ 1 ชิ้นที่มีทองคำ เปลวเป็นส่วนประกอบ ขายในราคากล่องละ 590 บาท ผลิตออกมา 300 ชุด ธารัสบอกว่า ต้องการให้ซื้อไปเป็นของฝากผู้ใหญ่
สิ่งหนึ่งที่บริษัทเริ่มทำก็คือ การสร้างและขยายกลุ่มลูกค้า เพื่อ เพิ่มการบริโภคช็อกโกแลต ด้วยการจัดทำเวิร์คชอปเกี่ยวกับช็อกโกแลต ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะเริ่มในปีนี้ โดยเน้นไปที่กลุ่มครอบครัว แม่บ้าน เด็ก วัยรุ่น เพื่อให้มีส่วนร่วมและเข้าใจสินค้าของบริษัทได้มากขึ้น
ตลาดต่างประเทศก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ยอดขายของบริษัทดีขึ้น ซึ่งบริษัทขยายออกไปสู่ตลาดในเอเชียเป็นหลัก ด้วย การนำผลไม้ไทยๆ เช่น มะพร้าว มะม่วง ทุเรียน ทำเป็นช็อกโกแลต รสผลไม้ ซึ่งสอดคล้องกับสินค้าเดิมที่ทำมา เช่น ชาเขียวและสมุนไพร ทำให้ตลาดเอเชียเปิดกว้างให้กับสินค้าตัวนี้
ส่วนตลาดในยุโรป ธารัสก็สนใจแต่ติดปัญหาเรื่องการขนส่งที่จะมีราคาสูงมาก เพราะการส่งช็อกโกแลตต้องไปถึงลูกค้าให้เร็ว ที่สุด ซึ่งวิธีการที่ทำได้ก็คือการส่งโดยเครื่องบิน แต่ราคาขายก็สูงตาม ไปด้วย อีกทั้งในยุโรปเองก็มีสินค้าช็อกโกแลตของตัวเองหลายประเทศ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคยอมรับและมีชื่อเสียง
การยึดครองตลาดเอเชียจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
เพราะฝรั่งยังไงก็ต้องเชื่อว่า ฝรั่งทำช็อกโกแลตได้ดีกว่าคนเอเชีย แม้จะไม่มีข้อพิสูจน์ก็ตาม
|
|
|
|
|