"พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ"ผนึกต่างชาติ ภายใต้ชื่อบริษัท ทิมเบอร์ไลน์ อินเวสเม้นท์ พีทีอี.ลิมิเต็ด จำกัด ผุดโครงการศูนย์การค้าโซนรัชดาภิเษกใกล้สถานีรถไฟฟ้า "ชายนิด" ระบุช่วยเสริมศักยภาพทางด้านรายได้จากค่าเช่าในระยะยาว ควบคู่ไปกับยอดขายจากการสร้างบ้าน ฟุ้งปี 51ขอโต30% พร้อมเดินหน้าผุด12โครงการหวังดันยอดขายแตะ9,000ล้านบาท
นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เมื่อวันที่24 ก.ย.50 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ เพื่อรองรับการประกอบธุรกิจศูนย์การค้า ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม50 โดยบริษัทใหม่ดังกล่าวใช้ชื่อว่า บริษัท เซ็นเตอร์พ้อยท์ ชอปปิ้ง มอลล์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน1 ล้านบาท มีจำนวนหุ้นสามัญจำนวนรวม 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับ ระหว่างบริษัทฯกับ บริษัท ทิมเบอร์ไลน์ อินเวสเม้นท์ พีทีอี.ลิมิเต็ด จำกัด ในการจัดตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งในบริษัทดังกล่าว เพอร์เฟคฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 5,995 หุ้น คิดเป็น60% ของจํานวนทุนชําระแล้ว และบริษัท ทิมเบอร์ไลน์ อินเวสเม้นท์ พีทีอี.ลิมิเต็ด ถือหุ้น จํานวน 4,000 หุ้น คิดเป็นประมาณ 40% ของจำนวนทุนชำระแล้ว
นายชายนิด กล่าวว่าการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้แก่บริษัท ในการเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน ขณะเดียวกันยังเป็นการบริหารความเสี่ยงให้แก่บริษัทในอนาคต ซึ่งการลงทุนสู่ธุรกิจศูนย์การค้า จะช่วยเพิ่มรายได้จากค่าเช่าในระยะยาว นอกเหนือจากรายได้โครงการบ้านจัดสรร ที่ทางบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย
" ศูนย์การค้าจะเป็นรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยทำเลของศูนย์การค้าจะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ารัชดาภิเษก ซึ่งทางบริษัทมีที่ดินรองรับ และยังมีที่ดินในบริเวณรัชดาภิเษก ที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมูลค่าโครงการและการลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและประเมินความชัดเจน แต่คาดว่าพื้นที่รวมของศูนย์การค้าจะประมาณ 50,000-60,000 ตารางเมตร "ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
นายชายนิด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2551 ว่า ความต้องการบ้านในปีหน้า เชื่อว่า คอนโดมิเนียมยังมาแรง เนื่องจากปัจจัยน้ำมันแพง และความต้องการมีบ้านในเมืองของผู้บริโภค และตลาดบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทและสูงกว่า 5 ล้านบาทจะกลับมา เพราะที่ผ่านมาสินค้า(ซัพพลาย)หากไปจากตลาดจำนวนมาก ส่วนทาวน์เฮาส์ในเมืองนั้นโอกาสจะเกิดยาก ทั้งนี้ ในปีหน้าผู้ประกอบการที่จะแข่งในตลาด จะต้องมีสินค้าครบทุกประเภทเพื่อให้พร้อมกับการแข่งขันได้ โดยในปี 2551 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 9,000 ล้านบาทและคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 8,000 ล้านบาท เติบโตเกิน 30% ต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ในปีหน้าประมาณ 3,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขาย 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับ ผลการดำเนินงานของปี 2550 โดยสรุปบริษัทฯคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 6,500 ล้านบาทจากเป้ายอดขายเดิมที่วางไว้ทั้งปี 8,000 ล้านบาท ทำให้ในปีนี้ บริษัทมียอดขายรวมต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเลื่อนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนรัชดาภิเษก ที่เดิมเตรียมจะเปิดตัวขายในไตรมาสที่ 4/2550 ออกไป และการเปิดขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 500 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีการเลื่อนเปิดโครงการเมโทร พาร์ค รัชดาภิเษกนั้น เป็นเพราะยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า จะพัฒนาเป็นคอนโดฯสูงไม่เกิน 8 ชั้น (โลว์ไรส์) หรือคอนโดฯตึกสูง (ไฮไรส์) ซึ่งข้อดีของการพัฒนาเป็นคอนโดฯแบบโลว์ไรส์ คือ จะมีมูลค่าการขายที่สูงขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาท เพราะจำนวนยูนิตจะเพิ่มขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก สำหรับแบบโลว์ไรท์ คือ ต้องมีที่จอดรถและใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีครึ่ง แต่จากการปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อม มีแนวโน้มว่าจะพัฒนาเป็นแบบโลว์ไรส์ ขนาดความสูงที่ 8 ชั้น เพราะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยกว่าการพัฒนาเป็นอาคารสูง
โดยโครงการใหม่ดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะมียอดขายปีละประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยจะใช้เวลาในการขายและสามารถปิดการขายโครงการภายใน 2 ปี โดยโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวนยูนิตทั้งสิ้น 815 ยูนิต มูลค่าการขาย 2,734 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆ ละ 2 อาคาร ราคาขายยูนิตละ 2 ล้านบาท โดยห้องชุดในโครงการนี้ จะมีพื้นที่เริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร (ตร.ม.)ราคาขาย 60,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งราคาขายดังกล่าวอาจจะสูงกว่าคอนโดฯที่เปิดขายในย่านรัชดาภิเษกในปี 2550 เล็กหน่อย เนื่องมาจากการคำนวณเผื่อต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้นในปีหน้าแล้ว และเชื่อว่าในปี 2551 ราคาคอนโดฯขนาด 30 ตร.ม.จะมีราคาขายเริ่มต้นที่2 ล้านบาทต่อยูนิต เพราะเป็นผลสืบเนื่องมาจากราคาวัสดุก่อสร้างที่แพงขึ้น
ทั้งนี้ โครงการเมโทร พาร์ค รัชดาภิเษก มีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ที่ดินอยู่ติดกับโพรไซดอน หน้ากว้าง 200 เมตร ห่างสถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารเพียง 400 เมตร ซึ่งขณะนี้
สำหรับการลงทุนในแนวสูง นอกจากโครงการเมโทร พาร์ค รัชดาภิเษกแล้ว ยังมีโครงการเมโทร พาร์ค สาทร เฟส 3/1 ที่จะเปิดขายในไตรมาสที่สองของปีหน้าอีก โดยในเฟส 3 มีจำนวนทั้งหมด 3 เฟส มูลค่าโครงการประมาณ 5,000 ล้านบาท ใช้เวลาในการขาย 3 ปี ส่วนโครงการในแนวราบนั้นจะมีเปิดใหม่ 10 โครงการ กระจายอยู่ทุกโซน ทั้งโซนรัตนาธิเบศร์, โซนบางใหญ่-ราชพฤกษ์, โซนรามคำแหง และโซนพัฒนาการ
|