|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไทยยังไร้ทิศทางนักลงทุนจับตาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังกกต.เตรียมประกาศผู้ที่ได้ใบดำ-ใบแดงเพิ่ม ขณะที่ยังต้องจับตาทีมเศรษฐกิจ รายย่อยทิ้งเพิ่ม 2 พันล้าน ด้านโบรกฯชี้นักลงทุนขายทำกำไรหลัง 2วันหุ้นขึ้น 50 จุด ขณะที่ฝรั่งเริ่มหยุดเทรดเหตุใกล้ช่วงวันหยุดปีใหม่ ด้านกองทุนเร่งเก็บหุ้นตามยอด LTF-RMF ที่เพิ่มขึ้น
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (26 ธ.ค.) ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมยังเป็นประเด็นที่กดดันการเข้ามาลงทุนของนักลงทุน ประกอบกับสิ่งที่นักลงทุนยังคงติดตามคือการประกาศทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่พร้อมนโยบายเพื่อกระตุ้นการลงทุน โดยตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวสลับกันทั้งในแดนลบและบวกก่อนมาปิดที่ 841.20 จุด ลดลง 2.08 จุด หรือ 0.25% โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ 848.80 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 836.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14,821.90 ล้านบาท
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,109.62 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 818.79 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,928.41 ล้านบาท
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนตลอดทั้งวันจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาหลังจากวันก่อนนี้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3.65% หลังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยการปรับตัวในรอบนี้เป็นเพียงการปรับฐานเท่านั้น ประกอบกับส่วนหนึ่งนักลงทุนยังรอความชัดเจนทางการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลนั้น รวมถึงต้องรอผลการประกาศให้ใบแดงและใบเหลือ แก่ผู้ที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ทั้งนี้ เชื่อว่าในช่วงปลายสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น จึงทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนก่อน แต่ยังมีแรงซื้อเข้ามาจากกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเป็นการทำราคาปิดงบ (Window Dressing) จึงทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงไม่มากนัก
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพื่อรอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ประกอบกับเป็นช่วงใกล้วันหยุดปีใหม่ ซึ่งมีนักลงทุนบางส่วนก็มีการหยุดแล้วจึงทำให้การซื้อขายอาจจะไม่คึกคักมากนัก
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นยังรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระตุ้นทำให้มีแรงทำกำไรออกมาเนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 50 จุด แต่ก็ยังคงมีแรงหนุนจากที่กองทุนเข้ามาซื้อเพื่อทำราคาปิดงบบัญชี จึงช่วยทำให้เป็นแรงพยุงให้ ขณะที่สิ่งที่นักลงทุนจับตาเป็นพิเศษคือบุคคลเข้ามาดำรงตำแน่งรัฐมนตรี ต่างๆรวมถึงรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
“ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบๆรอปัจจัยบวกใหม่ และมีแรงเทขายหุ้นออกมาบ้างจากช่วงที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวแรง และนักลงทุนต่างประเทศชะลอการลงทุนเป็นช่วงวันหยุด ซึ่งตลาดหุ้นในต่างประเทศก็มีการปิดทำการแต่การที่ดัชนีปรับตัวลดลงไม่แรงนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ”นายเจริญ กล่าวว่า
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้ จากมีแรงซื้อของกองทุนเข้ามาซื้อ เพื่อทำราคาปิดงบบัญชี แต่ก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยคาดว่าแนวต้านที่ระดับ 855 จุด แนวรับที่ระดับ 832 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า มูลค่าการซื้อขายเริ่มปรับตัวลดลงจากที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18,000 – 19,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติบางส่วนหยุดการซื้อขายเพราะใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ โดยคาดว่านักลงทุนจะกลับมาลงทุนอีกครั้งหลังปีใหม่
สำหรับการที่นักลงทุนเข้ามาซื้อจะเป็นนักลงทุนในประเทศ ทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย โดยมองว่าการซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (RMF) อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มปริมาณการซื้อขายแต่ไม่มากนัก เพราะใกล้จะสิ้นปีทำให้มีการซื้อ LTF และ RMF เข้ามา เนื่องจากตลาดเปิดซื้อขายอีก 2 วันทำการก่อนหยุดช่วงปีใหม่
ในส่วนปัจจัยทางการเมือง มองว่านักลงทุนคลายความกังวลในส่วนของการมีการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยประเมินว่านักลงทุนไม่ได้กังวลกับการที่พรรคไหนจะเป็นพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาล แต่นักลงทุนหวังเพียงให้มีการจัดตั้งรัฐบาลตามระบบ และนโบายที่จะออกมาเพิ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มวันนี้ (27 ธ.ค.) คาดว่าดัชนีจะมีลักษณะการซื้อขายใกล้เคียงกับวานนี้ โดยแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบสลับทั้งแดนบวกและลบ รวมถึงปริมาณการซื้อขายที่ชะลอลง ซึ่งประเมินแนวรับที่ 836-830 จุด และแนวต้านที่ 850 จุด แต่หากดัชนีปรับเพิ่มขึ้นถึง 860 จุด อาจมีการขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง
|
|
 |
|
|