|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ทุ่มกว่า 300 ล้านบาท ขยายอาณาจักรนอนแอลกอฮอล์ รุกการตลาดแนวลึก-กว้าง จ่อคิวแตกไลน์ฟังก์ชันนัลดริงก์ 2 แบรนด์ใหม่ ปั้นบีอิ้งรสชาติใหม่ รับกระแสสุขภาพบูม พร้อมปลุกไอโอระเบิดศึกตลาดน้ำแร่ หวังเป็นสินค้าตอกย้ำบัลลังก์น้ำดื่มสิงห์ครองแชร์ 40% มั่นใจอนาคตสัดส่วนรายได้นอนแอลกอฮอล์เพิ่มจาก 20% เป็น 40%
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มนอนแอลกอฮอล์ และฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่ม โซดาตราสิงห์ และบีอิ้ง เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดกลุ่มนอน แอลกอฮอล์ บริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 20% เป็น 30-40% ในอนาคต โดยจะดำเนินการตลาดในแนวลึก ด้วยการแตกไลน์เครื่องดื่มใหม่ และแนวกว้างด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่ๆ ลงสู่ตลาด ภายใต้การทุ่มงบการตลาดในปีหน้านี้มากกว่า 300 ล้านบาท
สำหรับปีหน้านี้บริษัทวางแผนเปิดตัวเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ลงสู่ตลาด 2 ตัว จากการมีสินค้าที่พัฒนาและพร้อมจะเปิดตัวร่วม 20 ตัว โดยจะวางตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี ซึ่งจะเป็นแบรนด์ใหม่หรือใช้แบรนด์ชาเขียวโมชิ เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ดังนั้นปลายปีนี้บริษัทลงทุนเครื่องจักรใหม่ เพื่อผลิตเครื่องดื่มตัวใหม่ อีกทั้งยังจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นบริษัทคนไทย มีความเชี่ยวชาญด้านฟังก์ชันนัลดริงก์ เพื่อผลักดันสินค้าแจ้งเกิดตลาดอย่างเต็มตัว
อีกทั้งยังเตรียมเปิดตัวบีอิ้งรสชาติใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย จากปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รสชาติ รวมทั้งวางแผนส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเจาะตลาดที่กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเปิดตลาดแล้ว อาทิ อังกฤษ เยอรมัน และตะวันออกกลาง
สำหรับฟังก์ชันนัลดริงก์ยังเป็นตลาดที่เล็กอยู่ แต่ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยขณะนี้คนไทยยังไม่รู้จักฟังก์ชันนัลดริงก์มากนัก แม้ว่ากระแสสุขภาพจะมาแรง แต่พฤติกรรมการกินอาหารและเครื่องดื่มยังเน้นความอร่อยของรสชาติมากกว่าในเรื่องของสุขภาพ นอกจากนี้ยังติดข้อจำกัดจากทางอย.จึงไม่สามารถกล่าวถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคการเติบโต
และเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดน้ำดื่ม ซึ่งสิงห์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 40% จากมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท บริษัทจะดำเนินการตลาดในเชิงรุกน้ำแร่ไอโอมากขึ้น จากปีนี้ไม่ค่อยเคลื่อนไหวทางการตลาดมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยพบว่าจากกระสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด ซึ่งรวมถึงตลาดน้ำแร่ด้วยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายสันต์ กล่าวว่า ตลาดโซดาการแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก โดยแผนการตลาดกลุ่มโซดาสิงห์เน้นการขยายฐานลูกค้าในตลาดมิกซ์กับน้ำผลไม้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนรักษาฐานลูกค้ากลุ่มมิกซ์กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดโซดาสิงห์ครองส่วนแบ่ง 95-97% จากมูลค่า 4,000 ล้านบาท
|
|
 |
|
|