Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 ธันวาคม 2550
ฟิทช์คงอันดับเครดิตAEON-UOB             
 


   
www resources

โฮมเพจ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

   
search resources

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย), บจก.
Loan




ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ ระยะยาวของบริษัทอิออน ธนสินทรัพย์ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F2(tha)’ พร้อมประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารยูโอบี

บริษัทบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า อันดับเครดิตของอิออนสะท้อนให้เห็นถึงจุดแข็งของบริษัทในการให้บริการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ผลกำไรและความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในประเทศไทย เงินกองทุนที่แข็งแกร่ง และการสนับสนุนบางส่วนจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ กลยุทธการปล่อยสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโตสูงของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้เกิดความเสี่ยงต่อคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัท

ดังจะเห็นได้จากอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่มีแนวโน้มที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสภาวการณ์ในการดำเนินธุรกิจได้อ่อนแอลงในปี 2549 และ 2550 แต่การเพิ่มขึ้นของอัตราการผิดนัดชำระหนี้และค่าใช้จ่ายการกันสำรองมีแนวโน้มคงตัวแม้ว่ายังอาจมีความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายการกันสำรองที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีกจากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง กำไรสุทธิของบริษัทเติบโตในระดับปานกลาง ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับหลายปีก่อนหน้านี้เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและการกันสำรองหนี้ด้อยคุณภาพที่สูงขึ้น ต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อส่วนต่างกำไร (margin) ของบริษัทได้ถูกชดเชยด้วยรายได้จากค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น

อิออนขยายตัวไปตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนในปัจจุบันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด บริษัทได้เสริมความแข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงในด้านนโยบายการปล่อยสินเชื่อและการดำเนินการจัดเก็บหนี้ บริษัทได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่เพื่อจะช่วยจำแนกความเสี่ยงของลูกค้าและเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียดลูกค้าเพื่อการจัดเก็บหนี้

นอกจากนี้อิออนยังตั้งศูนย์การจัดเก็บหนี้ในภูมิภาคทั้งหมดสี่แห่ง และกระจายภาระความรับผิดชอบเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อิออนเป็นผู้ประกอบการรายสำคัญในตลาดสินเชื่อรายย่อยสำหรับลูกค้ารายได้ต่ำ ธุรกิจของบริษัทคือการให้บริการแก่ลูกค้าในรูปแบบสินเชื่อประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึง สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และการซื้อสิทธิเรียกร้อง (Factoring)

คงอันดับเครดิตของธนาคารยูโอบี

นอกจากนี้ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (ไทย) (UOBT; ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นธนาคารเอเชีย) ดังต่อไปนี้: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating (IDR)) ที่ ‘A-’ (A ลบ) แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘C/D’ อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘1’ อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’

อันดับเครดิตของ UOBT มีพื้นฐานมาจากการที่ United Overseas Bank ของสิงคโปร์ (“UOB” ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘AA-’(AA ลบ)) ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นซึ่งมีอำนาจในการบริหารธนาคาร ถึงแม้ว่าข้อจำกัดในการถือหุ้นของต่างชาติอาจจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ UOB ลดลงหลังจากปี 2551 ผลกระทบดังกล่าวจะถูกลดทอนลงจากความแข็งแกร่งของฐานเงินทุนของ UOBT ที่เพิ่มขึ้นให้อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจในระยะยาว ซึ่งจะช่วยจำกัดการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน UOBT ของ UOB ให้น้อยที่สุด

เมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงและทรัพยากรของ UOB รวมทั้งชื่อของ UOBT ที่ใกล้เคียงกับบริษัทแม่ของธนาคาร ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ UOBT จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่อย่าง UOB ในกรณีที่มีความจำเป็น การเปลี่ยนแปลงใดๆในการถือหุ้นของ UOB รวมทั้งข้อผูกพันและการสนับสนุนของธนาคารที่มีต่อ UOBT ย่อมส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT

UOBT รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 521.7 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2550 ลดลงอย่างมากจาก ผลกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2549 โดยมีสาเหตุหลักมาจากหลักเกณฑ์การกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เข้มงวดขึ้นตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศฉบับที่ 39 (IAS 39)

รวมถึงผลขาดทุนจากการขายลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น รายได้จากดอกเบี้ยยังคงที่ในระดับเดิมเนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ค่อนข้างต่ำ ผลประกอบการของธนาคารน่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2551 จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นและจากงบดุลของธนาคารที่ดีขึ้น อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT มีแนวโน้มดีขึ้นจากผลกำไรที่คาดว่าจะดีขึ้นและการเติบโตของธนาคารในอีก 1 ถึง 2 ปีข้างหน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us