Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 ธันวาคม 2550
เครื่องสำอาง2หมื่นล.แข่งเดือดคิวท์เพรสชูไซส์ซิ่ง-ปรับองค์กร             
 


   
www resources

โฮมเพจ เอสเอสยูพี กรุงเทพ 1991

   
search resources

Cosmetics
เอสเอสยูพี กรุงเทพฯ 1991, บจก.




สมรภูมิเครื่องสำอาง 2 หมื่นล้านบาทปีชวดแข่งเดือด หลังตลาดโตไม่ถึง 8% ระบุราคาน้ำมันพุ่งพ่นพิษ กำลังการซื้อลด สาวไทยบ่ายหน้าซื้อสินค้าคุ้มค่าคุ้มราคา คิวท์เพรส ปรับตัวชูกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง ปรับโครงสร้างองค์กรยืดหยุ่น จัดแยกแผนกเพิ่มความเข้มข้น พร้อมเท 15-30 ล้านบาท ผุด 30 สาขาใหม่ โชว์ปีนี้กวาดรายได้ 1,100 ล้านบาท

นายธีระทัศน์ รังสิวรโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสเอสยูพี กรุงเทพ 1991 จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ในปีหน้า คาดว่าจะเติบโตไม่ถึง 8% เมื่อเทียบกับปีนี้เติบโต 8% เนื่องจากผลพวงจากภาวะน้ำมันที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในปีหน้านี้ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น การตัดสินใจซื้อสินค้าเน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา เปรียบเทียบคุณภาพ ราคา ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคมีความเป็นปัจเจกและเฉพาะเจาะจง ดังนั้นคาดว่าปีหน้านี้ตลาดเครื่องสำอาง จะมีการแข่งขันอย่างรุนแรง เพื่อช่วงชิงกำลังการซื้อของผู้บริโภค

แผนการตลาดบริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ภายในองค์กร โดยมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เหมาะกับการแข่งขันในตลาด ตลอดจนแบ่งแยกแผนกการทำตลาดให้ชัดเจน เพื่อรองรับกับการเพิ่มบุคลากรใหม่ จากการที่ในปีหน้านี้ตั้งเป้าขยายสาขา 30 แห่ง ภายใต้การใช้งบ 15-30 ล้านบาท และการขยายดีลเลอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีราว 289 ราย อีกทั้งยังนำกลยุทธ์ไซส์ซิ่งมาดำเนินการตลาดเชิงรุก เพื่อสอดรับกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคขณะเดียวกันเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น ตลอดจนการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์เจาะกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

สำหรับผลประกอบการสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 23% หรือมีรายได้ 1,100 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แบ่งเป็น รายได้กลุ่มเมคอัพ สัดส่วน 52% เติบโต 19% กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล 27% เติบโต 11% และสกินแคร์ 21% เติบโต 41% โดยยอดขายล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ รวมแล้วราว 1,020 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากดีลเลอร์ 50-55% และชอป 45-50% ซึ่งทั้งสองช่องทางเติบโต 23.42% ขณะที่การซื้อต่อบิลของชอปมาจากสมาชิกเพิ่มขึ้น 50% ส่วนดีลเลอร์ยอดต่อบิลโต 21% ถือว่าสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

นายธีระทัศน์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้คิวท์เพรสประสบความสำเร็จ มาจากการทุ่มงบ 135 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการทุ่มงบ 120 ล้านบาท จัดแคมเปญการตลาดใหญ่ 4 รายการ ได้แก่ กลุ่มเมคอัพ คิวท์เพรส อิเวอร์รี่ ไวท์เทนนิ่ง ฟาวเดชั่น พาวเดอร์ และคิวท์เพรส เจ็ทเซ็ท แลช เอ็กซ์-ตรีม มาสคาร่า กลุ่มสกินแคร์ ครีมกันแดด คิวท์เพรส ยูวี เอ็กซ์เพิร์ท โพรเทคชั่น เอสพีเอฟ 50 และคิวท์เพรส อัลฟ่า อาร์บูติน มิราเคิล สปอท ไบร์เทนนิ่ง และอีก 15 ล้านบาท ใช้ในการปรับปรุงชอปใหม่ให้มีความทันสมัย และขยายสาขา 30 แห่ง ส่งให้มีสาขาทั้งหมด 161 แห่ง ตลอดจนการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ พร้อมกับใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็มควบคู่กัน ส่งผลให้คิวท์เพรสขยายฐานลูกค้าอายุต่ำกว่า 25 ปีมากขึ้นหรือคิดเป็นสัดส่วน 25%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us