Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 ธันวาคม 2550
วัสดุก่อสร้าง-รับสร้างบ้านขึ้นราคาขาย "ตราเพชร"หั่นส่วนลดตัวแทนจำหน่ายอีก3%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด

   
search resources

กระเบื้องหลังคาตราเพชร, บมจ.
Tiles and Roofs
สาธิต สุดบรรทัด




ธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และบริษัทรับสร้างบ้าน สุดอั้นปรับราคาขาย หลังต้นทุนการผลิตพุ่ง "กระเบื้องหลังคาตราเพชร" ปี2551ขอตัดส่วนลดตัวแทนจำหน่ายอย่างน้อย 3% หวังรักษากำไร พร้อมเผยลูกค้าขอชะลอก่อสร้างโครงการกว่า 80% โดยเฉพาะโครงการภาคตะวันออก คาดว่าทั้งปียอดขายรวม2,600ล้านบาท โต 6% ด้านกลุ่มบริษัท บิวท์ ทู บิวด์ ปรับขึ้นราคารับสร้างบ้านต้นธ.ค.ที่ผ่านมาอีก 5%

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาต้นทุนก่อสร้างได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลสืบเนื่องมาจากภาวะราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาวัสดุเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 3% ดังนั้นในปี 2551 บริษัทมีแผนจะปรับราคาขายขึ้นอย่างน้อย 3% โดยจะเป็นการตัดส่วนลดที่ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายลง จากเดิมที่จะได้ส่วนลดจากสินค้าปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 20% จะลดลงเหลือ 17% ขณะที่ตลาดส่งออกต่างประเทศก็ตัดส่วนลดให้แก่ตัวแทนจำหน่ายลงเช่นกัน เนื่องจากต้นทุนในการผลิตขยับสูงขึ้นมาจากวัตถุดิบจากปูนซีเมนต์ ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและวัตถุดิบจากสี

"แม้ว่าบริษัทฯ จะพยายามปรับกลยุทธ์ด้านการขนส่ง เพื่อลดต้นทุนเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว โดยให้ร้านค้ามารับสินค้าเองมากขึ้น และยังหันมาขนส่งสินค้าทางน้ำในเส้นทางที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนบริษัทฯได้หันมาใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถบรรทุกขนส่งสินค้าของบริษัทฯ แทนน้ำมันดีเซล เชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ ประหยัดต้นทุนได้ระดับหนึ่ง แต่ต้นทุนการผลิตก็ยังปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสีที่เป็นวัตถุดิบ ราคาขยับสูงขึ้น"

ที่ผ่านมา ลูกค้างานก่อสร้างของบริษัทในปีนี้มีถึง 80% ที่ขอชะลอการก่อสร้างออกไป โดยเฉพาะโครงการในภาคตะวันตก ประเภทโครงการรีสอร์ตและสปา เนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและการเมือง แต่คาดว่าในต้นปีหน้าสถานการณ์จะเริ่มปรับสู่ทิศทางที่ดีขึ้น เพราะเศรษฐกิจไทยผ่านช่วงตกต่ำที่สุดมาแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าการเมืองหลังจากการเลือกตั้งจะมีความชัดเจนขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนเป็นเงิน 465 ล้านบาทเพื่อเดินสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ ขนาดตั้งแต่ 4 มม.-20 มม. เพื่อผลิตแผ่นพื้นผนัง ในไลน์ที่ 9 โดยใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน คาดว่าจะเริ่มกำลังการผลิตได้ในไตรมาส 2 ของปี 2552 จะมีกำลังการผลิต 60,000 ตันต่อปี ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 600 ล้านบาท สำหรับในปี 2549 บริษัทมียอดขาย 2,400 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมียอดขาย 1,974 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะมียอดขายรวม 2,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 6% คิดเป็นยอดขายในประเทศ 90% อีก 10% เป็นยอดขายจากต่างประเทศ ส่วนในปี 2551 คาดว่าจะมียอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 10%

นายสาธิตกล่าวต่อว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะออกสินค้าในกลุ่มเจียระไนอีก 2-3 แบบ ในกลุ่มแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ โดยจะมีกระเบื้องหลังคาดีไซน์ใหม่ นอกจากรูปแบบเดิมที่เป็นกระเบื้องว่าว โดยจะดีไซน์ออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมพื้น ,สี่เหลี่ยมคางหมู และรูปปลายมน โดยที่การทำตลาดจะเน้นไปยังตลาดซ่อมแซมบ้านมากขึ้น(รีโนเวท) ขณะเดียวกันในปีหน้าบริษัทมีแผนจะตั้งทีมฝึกอบรมในต่างจังหวัด อีก 2-3 แห่ง

ด้านนายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านระดับคุณภาพ กล่าวว่า จากภาวะต้นทุนก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น บริษัทจึงได้มีการปรับราคาค่าก่อสร้างไปขึ้นมา 5% ในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยราคาก่อสร้างของบิวท์ทูบิวด์อยู่ที่ 14,000-18,000 บาทต่อตร.ม. ขณะที่ บางกอกเฮ้าส์ราคาอยู่ที่ 8,000-11,000 บาทต่อตร.ม. ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนยูนิตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 100 ยูนิต และทำสัญญาแล้วอีก 60 ยูนิต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us