Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 ธันวาคม 2550
ฝรั่งทิ้งหุ้น5พันล้านแหยง"ปตท."ปรับเล่นสั้นตลท.ปลดSPหลังรับข้อมูล             
 


   
search resources

Stock Exchange




นักลงทุนต่างชาติตื่นมติครม.กรณีโอนท่อก๊าซคือให้กระทรวงการคลัง กระหน่ำทิ้ง PTT เพิ่มยอดขายสุทธิ 3 วันแตะหมื่นล้านบาท "ไพบูลย์" ระบุพฤติกรรมฝรั่งจะเปลี่ยนไปจากเดิม เน้นถือลงทุนยาวเป็นการลงทุนระยะสั้นลง เชื่อหลังจากนี้ตลาดหุ้นจะผันผวนหลังสูญเสียความมั่นใจ ขณะที่โบรกฯชี้จับตาสถานการณ์การเมืองหลังกรณีปตท.เริ่มชัดเจน บล.เคจีไอ ระบุการโอนท่อก๊าซคืนให้กระทรวงคลังพร้อมค่าเสียปรับฉุดกำไรปตท.ไตรมาส4 เฉียด 5,000ล้านบาท ชี้กระทบราคาหุ้นแน่แต่ไม่มาก ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน ยังแนะนำซื้อเผยราคาหุ้นสะท้อนข่าวร้ายไปหมดแล้ว

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (18 ธ.ค.) ตลอดทั้งวัน ดัชนีเคลื่อนไหวอย่างผันผวนก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามา จนส่งผลทำให้สามารถปรับตัวขึ้นไปแดนบวกหลังมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เกี่ยวกับกรณีบมจ.ปตท.ออกมาตามที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ขณะที่ในช่วงบ่ายหลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น PTT ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงก่อนปรับตัวลดลงมาปิดที่ 813.90 จุด ลดลง 3.72 จุด หรือ 0.45% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 824.62 จุดและจุดต่ำสุดอยู่ที่ 813.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,793.04 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,091.35 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 436.64 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 4,654.72 ล้านบาท

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ จำกัด กล่าวถึงผลกระทบต่อเนื่องจากกรณีคำตัดสินของศาลปกครองกรณีบมจ.ปตท.ว่า จากเรื่องดังกล่าวมุมมองนักลงต่างชาติค่อนข้างเปลี่ยนแปลง เริ่มเกิดความไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากกังวลต่อกฎเกณฑ์ในบางเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมา

ทั้งนี้ จากการสอบถามนักลงทุนต่างชาติพบว่า นักลงทุนต่างประเทศประมาณ 80% เปลี่ยนลักษณะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นการซื้อระยะสั้นลง จากเดิมที่จะเน้นการลงทุนในระยะยาว ซึ่งจากเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะทำให้ตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อจากนี้เคลื่อนไหวอย่างผันผวนมากขึ้น โดยปัจจัยที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นการลงทุน คือ การเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเข้ามาบริหารประเทศและมาตรการต่างๆที่จะเข้ามาเพื่อเรียกความมั่นใจในตลาดหุ้นมากขึ้น

สำหรับผลกระทบต่อบมจ.ปตท.หลังการพิจารณาของครม.ถือว่า มีผลกระทบน้อยมากต่อปตท.โดยแบ่งผลกระทบออกเป็น 2 ด้าน ประกอบด้วย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น ภาษีการโอนซึ่งคาดว่าจะไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยจะบันทึกบัญชีในปีนี้ ค่าเช่าท่อที่ค้างจ่าย 6 ปี เฉลี่ยประมาณ 200 ล้านบาทต่อปีก็จะเท่ากับ 1,200 ล้านบาท และเมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วก็จะต้องจ่ายค่าเช่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมกับค่าภาษีในการโอนประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีกระทบต่อมูลค่าทางบัญชีและอัตรากำไรต่อหุ้น(EPS)ประมาณ 1 บาท ส่วนมูลค่าสินทรัพย์ที่จะต้องมีการโอนให้กระทรวงการคลังนั้น15,000 ล้านบาทนั้น จากการสอบถามปตท.นั้นจะไม่มีการบันทึก เพราะสินทรัพย์ดังกล่าวเปรียบเสมือนกับว่าไม่มีสินทรัพย์นี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่มีต่อเนื่องกับปตท.จะเป็นเรื่องค่าเช่าท่อก๊าซจากที่ผ่านมาไม่เสีย เบื้องต้นประเมินว่าหากมีการคิดค่าเช่า 10% หรือ 20% ของค่ารายได้ค่าผ่านท่อก๊าซ ก็จะไม่มีผลกระทบต่อปตท.มากนัก เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิต่อปีที่มี 80,000-90,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ EPS ปรับตัวลดลงมาไม่ถึง 2 บาทเท่านั้น ซึ่งในแง่ความโปร่งใสนั้นน่าจะมีการบันทึกในงบการเงินของปตท.ในปีนี้จำนวน 3,000 ล้านบาท นั้นถือว่ามีผลดีต่อปตท. เพราะมูลค่าหุ้นของปตท.ลดลงเพียง 1-2 บาทเท่านั้น

นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค แต่ตลาดหุ้นไทยถูกมุ่งประเด็นไปที่กรณีความชัดเจนของบมจ.ปตท. ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยในประเทศ โดยหลังจากนี้จะต้องรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาว่าจะเป็นไปในทิศทางบวกหรือลบ

ทั้งนี้ กรณีบมจ.ปตท.ที่เกิดขึ้นนี้ ถือว่าไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานมากนัก เนื่องจากเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยบริษัทคาดว่าผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 5-50 บาท แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนนัก เช่น ค่าเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ปัญหาสังคม รวมถึงผลกระทบจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้คาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยนักลงทุนจะต้องติดตามประเด็นทางการเมืองว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่อย่างไร เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องที่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศค่อนข้างให้ความสนใจมาโดยตลอด

ตลท.ปลดล็อคเทรดPTT

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากที่ครม.มีมติเรื่องการโอนทรัพย์สินคืนแก่ภาครัฐของปตท.นั้น บัดนี้ตลท.ได้รับแจ้งข้อมูลจากบริษัทเรียบร้อยแล้ว จึงเปิดการซื้อขายหุ้นปตท.เป็นปกติ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น เนื่องจากผู้ถือหุ้นโดยตรงและทางอ้อมของปตท.มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน

ในส่วนของราคาหุ้น PTT หลังเปิดการซื้อขายในช่วงบ่ายราคาปรับตัวลดลงมาเปิดที่ 360 บาท ลดลง 8 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 358 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 2.72% มูลค่าการซื้อขาย 3,652.71 ล้านบาท ขณะที่ BANPU ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 392 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท หรือ 1.55% โดยระหว่างวันปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ 404 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,606.41 ล้านบาท ด้านหุ้น PTTEP ราคาปิดที่ 148 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 0.67% มูลค่าการซื้อขาย 2,791.42 ล้านบาท โดยจากการตรวจสอบในกระดานรายใหญ่พบว่าหุ้น PTT มีการซื้อขายจำนวน 307,500 หุ้น ในราคาเฉลี่ย 360.09 บาท มูลค่ารวม 110.72 ล้านบาท

ปตท.กำไรQ4หาย5,000ล้านบาท

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและกลยุทธ์ สถาบันวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลจากการต้องจ่ายค่าปรับในกรณีเช่าท่อส่งก๊าซย้อนหลังเป็นเวลา 5-6 ปีรวมถึงค่าใช้จ่ายกรณีการโอนย้ายสินทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบมจ.ปตท. โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทในงวดไตรมาส4/50 ประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งคงส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ คาดเสียหายทีเกิดขึ้นถือว่าน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิไม่น่าจะเกิน 5-10% โดยในตามทฤษฎีก็น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในระดับที่สอดคล้องกัน

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการโอนทรัพย์สินบางรายการของปตท.คืนให้กระทรวงการคลังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทโดยคาดว่าจะกระทบต่อราคาหุ้นไม่เกิน 5 บาทซึ่งทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายราคาในปีหน้าอยู่ที่ 444 บาท

ทั้งนี้ หากราคาปรับตัวลดลงมาแตะระดับ 350-354 บาท บริษัทแนะนำให้ซื้อ เพราะในระยะยาวผลประกอบการทั้งกลุ่มในปีหน้ามีแนวโน้มที่ดี รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นก็รับรู้ไปหมดไปแล้ว จึงเป็นโอกาสที่จะลงทุนในระยะยาว

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า งบล.เอเซียพลัสประเมินว่าการจ่ายค่าเช่าท่อจำนวน 8,800 ล้านบาท จะกระทบต่อมูลค่าหุ้นของปตท.ลดลง 0.65 บาทต่อหุ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการโอนสินทรัพย์นั้นเป็นค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียว จำนวน 2,000 ล้านบาทนั้น มีผลต่อมูลค่าหุ้นปตท.ลดลง 0.70 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ หากคิดค่าปรับที่ยังไม่จ่ายค่าเช่า 6 ปี รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท มีผลทำให้มูลค่าหุ้นปตท.ลดลง 0.70 บาทในพื้นฐานค่าเช่า 5% มูลค่าหุ้นโดยรวมจะลดลงไป 2 บาท เท่านั้น แต่หากคิดค่าเช่า 10% มูลค่าหุ้นจะลดลง 2.40 บาท จากเดิมที่บริษัทประเมินราคาหุ้นเหมาะสมของปตท.อยู่ที่ 426 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาหุ้นเหมาะสมปตท.ดังกล่าวนั้นถือว่ายังมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 16% จึงมองว่าจะสนใจที่จะเข้าลงทุน

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า เดิมบริษัทมองว่าราคาหุ้นปตท.จะลดลง40 บาท แต่จากผลมติครม.นั้น ทำให้ขณะนี้ประเมินผลกระทบต่อราคาหุ้นปตท.เพียง 6 บาท เท่านั้น จึงมองว่าราคาหุ้นเหมาะสมของปตท.จะอยู่ที่ 450 บาทต่อหุ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us