จากนี้ไปความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างธุรกิจไทยจะปรากฏโฉมใหม่ๆ ที ละฉากๆ
จากความล่มสลายของอาณาจักรธุรกิจแบบเดิมของธุรกิจระบบครอบครัวไทย ก็จะค่อยๆ
สถาปนาเครือข่ายธุรกิจแบบใหม่ ที่สร้างขึ้นจากผลประโยชน์ ที่ร่วมกันทางธุรกิจโดยตรงมากขึ้น
อาณาจักรธุรกิจเดิม ที่เริ่มจากการตั้งกิจการอย่างมากมายจากความคิดเชิงครบวงจร
(หรืออีกความหมายก็คือ การผูกขาด) เพื่อให้อาณาจักรธุรกิจยิ่งใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าจะมีความสามารถในการแข่งขัน
ขณะเดียวกันก็เชื่อว่า ผลประโยชน์ทางธุรกิจในขั้นตอนต่างๆ ถูกรวบไว้อาณาจักรธุรกิจเดียว
ย่อมจะมี ผลตอบแทนอย่างมาก แต่ในที่สุดนอกจากจะเป็นธุรกิจกลวงเทอะทะไม่แข็งแรง
แล้วก็กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจ ที่แยกไม่ออกระหว่างบริษัทกับกระเป๋าเงินในครอบครัว
บางขณะก็ทำให้นักแต่งตัวเลขทางการเงิน ซึ่งมีอำนาจในการโยกย้ายถ่ายเทตัวเลขทางการเงินต่างๆ
ซึ่งไม่สามารถสะท้อนภาพของแต่ละกิจการอย่างตรงไปตรงมา เขามีอำนาจมากเกินไป
จนไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตาม
ยิ่งเมื่อขยายเครือข่ายข้ามไปมาระหว่างครอบครัวหนึ่งไปอีกครอบครัวหนึ่ง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน ก็จะยิ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากยิ่งขึ้น
แม้แต่เมื่อเข้าระดมเงินจากสาธารณชนในตลาดหุ้น ก็ไม่ทำให้ปัญหา "ลวงโลก"
เหล่านั้น หมดไป ซ้ำร้ายได้กลายเป็นการ "ลวงโลก" ระดับโลกไป ทั้งการกระทำเช่นนั้น ได้สร้างผลตอบแทนทางธุรกิจอย่างมากมาย
เท่า ที่ประวัติศาสตร์ธุรกิจไทยได้บันทึกไว้ โดยเฉพาะมากกว่าผลตอบแทนของผู้บุกเบิก
ธุรกิจไทยในช่วงวิกฤติสงครามโลกครั้ง ที่สอง ที่อาศัย "ความยากลำบากอย่างแสนสาหัส"
ของผู้บริโภคเป็นเงื่อนไขในการทำกำไรอย่างมากมายหลายเท่านัก
สิ่งที่ไม่คาดว่าการผูกโยงอย่างหยาบๆ กับความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร ธุรกิจ ที่ว่าจะเกิดขึ้นก็คือ
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ที่จุดจุดเดียวจากวิกฤติการณ ์ ก็สร้าง "โดมิโน" กระทบพังครืนไปทั้งวงจร
ความคิดของตะวันตก ที่ส่งผ่านเข้ามา ภายใต้โปรแกรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการปรับโครงสร้างธุรกิจไทยให้เข้มแข็ง
ที่ว่าด้วยธรรมาภิบาล ได้ สร้างโมเดลใหม่ของ ระบบธนาคารไทย ในการสนับสนุนธุรกิจ ที่พลิกชนิด
180 องศา ทำให้โครงสร้างแบบเดิมทำงาน และฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้ยากขึ้น
จึงเป็นที่มาของการล่มสลายของอาณาจักรธุรกิจ "ลวงโลก" ที่ว่านั้น
สังคมธุรกิจไทยกำลังมีคู่แข่งขัน ที่น่ากลัว มีพลัง และความสามารถเหนือกว่าแทบทุกด้านเข้ามาต่อสู้ในสมรภูมิของเราเอง
ทำให้มีการปรับกระบวนธุรกิจกันครั้งใหญ่ โดยเฉพาะธุรกิจธนาคาร โทรคมนาคม
และอินเตอร์เน็ต
การสร้างเครือข่ายใหม่ครั้งใหญ่นี้ แม้ดูเหมือนจะมองไป ที่การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ที่วาดความฝันไว้ว่าจะเข้าระดมทุนจากทั่วโลก ที่ตลาดหุ้นแนส
แดค ในสหรัฐฯ ก็ตาม แต่พวกเขาก็ต้องพยายามสร้างธุรกิจ ที่เป็นจริงขึ้นมาด้วย
เพราะการลวงโลกแบบเก่าใช้ไม่ได้แล้ว
แนวความคิดนี้จึงมุ่งไป ที่การแสวงหา "ลูกค้า" มากกว่าการสร้าง "ขนาด" เช่นอดีตเมื่อไม่นานมานี้
นั่นคือ โมเดลของการสร้างระบบ เพื่อก่อให้มี transaction การค้าแบบใหม่มากขึ้น
ระหว่างกลุ่มลูกค้า ที่นำมารวมกัน เพื่อผูกโยงอย่างแน่นหนา เพื่อประโยชน์ธุรกิจร่วมกัน
ระหว่างลูกค้าของธนาคาร ผู้ใช้โทรศัพท์ และระบบสื่อสารประจำชนิดต่างๆ ไปจนถึงผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
ขณะนี้กำลังเริ่มต้นวาดภาพ ที่ยังไม่ครบสามเส้าเสียทีเดียว ไม่ว่ากรณี ธนาคารบางแห่งเชื่อมโยงลูกค้า ที่มีโทรศัพท์มือถือบางระบบเข้ากับธนาคาร
ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่ก็บางธุรกิจก็เชื่อมโยงระหว่างลูกค้า ที่ใช้ระบบโทรศัพท์ต่างๆ
ไปเชื่อมกับลูกค้าเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ตามก็เชื่อว่าไม่นานจากนี้ โมเดลสามประสาน ที่ว่านี้ก็จะเกิดขึ้น
เครือข่ายธุรกิจแบบใหม่ ที่ว่านี้เกิดขึ้นภายใต้ระบบ ที่ใช้เทคโนโลยีสมัย ใหม่
เข้าช่วยจัดการ เพื่อการทำ transaction อัตโนมัติ ซึ่งดูเหมือนทำให้เครือข่ายด้วยตัวมันเอง
ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบข้อมูล ระบบเก็บ เงิน และเคลียริ่งระหว่างกันอย่างชัดเจน
และถูกต้อง
โดยภาพรวมทุกฝ่ายได้ประโยชน์จากการนำลูกค้ามาแชร์กัน แน่ละการเชื่อมประโยชน์
ที่ว่าจะมีการเข้าถือครองกิจการระหว่างกันด้วยในบางส่วน เพื่อผลประโยชน์จากราคาหุ้นด้วย
อีกทางหนึ่ง
นี่คือ โครงสร้างพันธมิตรธุรกิจแบบใหม่ หรืออีกนัยก็คือ เครือข่ายธุรกิจ ที่พยายามสร้างความสามารถในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง
ซึ่งในระยะต้นไม่แน่ใจ ว่าโมเดล ที่ว่านี้มีความปรารถนาจะแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศ
ที่กำลังเข้ามาแย่งชิงลูกค้าไทยอย่างจริงจังหรือไม่
แต่ ที่แน่ๆ ดูเหมือนเครือข่ายธุรกิจไทยยุคใหม่ กำลังสร้างวงจรของตน เองขึ้น
2-3 วง เพื่อแข่งขันกันเองเสียก่อน ภายใต้ฐานลูกค้า ที่มีอยู่อย่างจำกัด พอสมควร
จนบอบช้ำกันไประดับหนึ่งก่อน แล้วค่อยๆ เข้าใจความจำ เป็นในการรวมกัน กลายเป็นแบ่งปัน
หรือใช้ระบบพื้นฐานร่วมกันอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันโดยรวมต่อไปหรือไม่
ผมไม่ใคร่จะคาดเดา
แต่เป็นปุจฉา ที่ผมตั้งไว้ก่อน แม้ว่าเหตุการณ์จะยังไม่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็ตาม