|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ซัมซุงเตรียมเพิ่มการลงทุน 2.5-3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายกำลังการผลิตแอลซีดีทีวี และเครื่องปรับอากาศ หลังพบความต้องการในตลาดโลกปีหน้าสูงถึง 260 ล้านเครื่อง เผยไทยมีศักยภาพมากกว่าจีน จึงเน้นการลงทุนในไทย คาดปีนี้รายได้ในประเทศแตะ 17,950 ล้านบาท โตอีก 23%
นายควัง คี ปาร์ค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯแผนที่จะขยายกำลังการผลิตในกลุ่มจอภาพเพิ่มขึ้นอีก 1 ไลน์ หลังจากที่มีอยู่แล้ว 2 ไลน์ กำลังการผลิตต่อวันอยู่ที่ 8,000 เครื่อง ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 20% จึงจะเต็มกำลังการผลิต ดังนั้นจึงต้องดูก่อนว่า หากเพิ่มกำลังการผลิตแล้วพอก็จะไม่ขยายไลน์ แต่ถ้าไม่เพียงพอ ปีหน้าทางบริษัทฯได้เตรียมเม็ดเงินไว้ไม่ต่ำกว่า 2.5-3 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 100 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว โดยจำนวนเงินดังกล่าวจะใช้เพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของเครื่องปรับอากาศด้วยประมาณ 5 แสนเหรียญสหรัฐ
สาเหตุที่อาจจะมีการขยายไลน์กำลังการผลิตจอแอลซีดี ทีวี เพิ่มครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการในตลาดโลกมีเพิ่มสูงขึ้นถึง 260 ล้านเครื่องในปีหน้า จาก 160 ล้านเครื่องในปีนี้ ดังนั้นกลุ่มซัมซุงจึงต้องมีการเพิ่มกำลังการผลิตจอภาพจากฐานการผลิตที่มีอยู่ ซึ่งนอกจากที่ไทยแล้วยังมีโรงงานอีก 1 แห่งที่ซูโจว ประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นฐานกำลังการผลิตที่สำคัญในกลุ่มจอภาพและเครื่องปรับอากาศที่สำคัญเช่นกัน แต่ทางกลุ่มซัมซุงยังไม่มีแผนที่จะขยายไลน์การผลิตในโรงงานดังกล่าว
เนื่องจากมองว่าไทยมีศักยภาพที่ดีกว่า แม้ว่าค่าแรงจะสูงกว่าแต่งานออกมามีคุณภาพ ดังนั้นจึงมุ่งเน้นเพิ่มการลงทุนขยายกำลังการผลิตในประเทศไทยแทน เพื่อให้เป็นฮับในกลุ่มประเทศอาเซียนต่อไปด้วย จากเดิมไทยกำลังการผลิตจอภาพต่อปีอยู่ที่ 2.4 ล้านเครื่อง จะเพิ่มเป็น 4 ล้านเครื่องในปีหน้า
สำหรับโรงงานการผลิตของซัมซุงในประเทศไทยจะผลิตเพื่อการส่งออก 65% จำนวน 108 ประเทศทั่วโลก และในประเทศ 35% ซึ่งในปี 2550 นี้ การผลิตเพื่อการส่งออกคิดเป็นมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท และผลิตสำหรับจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท โดยโรงงานกล่าวประกอบด้วย 1.โรงงานผลิตโทรทัศน์และจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งจอคอมพิวเตอร์มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 7.2 แสนจอต่อปี 2.โรงงานผลิตเครื่องซักผ้า กำลังการผลิต 1.2 ล้านเครื่องต่อปี
3. โรงงานผลิตตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ กำลังการผลิตตู้เย็น 7.2แสนเครื่องต่อปี และเครื่องปรับอากาศ 4.8แสนเครื่องต่อปี 4.โรงงานผลิตเตาอบไมโครเวฟ กำลังการผลิต 2.4 ล้านเครื่องต่อปี 5.โรงงาน ผลิแผ่นวงจรใส่ชิพสำหรับโทรทัศน์ เครื่องซักผ้าและเตาอบไมโครเวฟ และ6.โรงงานประกอบชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า
นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับรายได้ในประเทศของปี 2550 นี้ คาดว่าจะปิดยอดขายที่ 17,950 ล้านบาท โตขึ้น 23% โดยมาจากการเติบโตของ 4หน่วยธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มภาพและเสียงโตขึ้น 27% กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน โตขึ้น 32% กลุ่มไอทีโตขึ้น 6% และกลุ่มมือถือ โตขึ้น 20% ซึ่งมีสินค้าอีก 4 รายการที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้ คือ โฮมเธียเตอร์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 20% แทนไพโอเนียร์ ผู้นำรายเดิม
2.เอ็มพีสาม ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งด้วยแชร์ 16% แทนครีเอทีฟและโซนี่ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 3.เครื่องซักผ้าประเภทถังเดี่ยว อัตโนมัติ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนชาร์ป ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 32% เมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคมที่ผ่านมา และ4.เตาอบไมโครเวฟ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนชาร์ป ไปเมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ด้วยแชร์กว่า 33% รวมขณะนี้ซัมซุงมีสินค้าขึ้นเป็นผู้นำของตลาดกว่า 10 ประเภท
สำหรับความสำเร็จดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่งมาจาจากการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นจากเดิมปีละ 1-2 ครั้ง ปัจจุบันทำได้ถึง 4 ครั้งต่อปี เฉลี่ย 3 เดือนครั้ง ซึ่งช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง อีกส่วนหนึ่งของการออกสินค้าใหม่ถี่ขึ้น สามารถช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้นประมาณ 14-15% ในปีนี้ เพราะการพัฒนาสินค้าใหม่ จะมีต้นทุนที่ถูกลงเรื่อยๆ จึงเป็นผลให้ยอดขายในปีนี้เติบโตขึ้นด้วย
|
|
 |
|
|