Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2546
Building an Asia Care U             
โดย ฐิติเมธ โภคชัย
 

   
related stories

Glow in the Dark
From Ruins to Standard Chartered Nakornthon
ความแตกต่างที่ลงตัว
การปฏิวัติบุคลากร
ความท้าทาย
รู้จัก รู้ใจ

   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารเอเชีย

   
search resources

ธนาคารเอเชีย, บมจ.
Banking




ทุกวันนี้ ความคาดหวังของผู้บริโภคสูงมากขึ้น เพราะตลาดสร้างให้เกิดความต้องการดังกล่าว ดังนั้นธนาคารเอเชีย สมาชิกของเอบีเอ็น แอมโร ต้องดำเนินการเพื่อฉีกหนีคู่แข่ง แต่ถ้าจะทำธุรกิจในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อสนองตอบลูกค้าไม่ใช่เฉพาะแค่ปรับเปลี่ยนหน้าตาสาขาเท่านั้น จะต้องจัดการภายในองค์กรด้วย

เนื่องจากความต้องการเพิ่มศักยภาพของบรรดาธนาคารพาณิชย์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าของตนเองและรองรับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นการค้นหา กลยุทธ์ใหม่ (New Strategies) มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสามารถในการทำกำไร หลังจากที่เผชิญความผันผวนทางเศรษฐกิจมาอย่างหนักหน่วง

อย่างไรก็ดี รูปแบบที่ธนาคารพาณิชย์สร้างสรรค์ขึ้นมาอาจจะล้มเหลวถ้าไม่มี แผนการปฏิบัติที่สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามที่ว่า ธนาคารจะก้าวไปทิศทางไหนและพวกเขาต้องมีคำตอบชัดเจนก่อนว่า พลังของกลยุทธ์ใหม่จะสามารถสนับสนุนและช่วยให้อยู่รอด ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขันได้หรือไม่

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ครอบคลุมทุกตลาดเหมือนกับในอดีตอีกต่อไป แต่มุ่งเน้นในเส้นทางที่คิดว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญ หรือพยายามสร้างความแตกต่างไปจากคู่แข่งมากที่สุด

"ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาแนวความคิดหลักของธนาคารพาณิชย์ต้องการทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น วาณิชธนกิจ, กองทุนส่วนบุคคล, กองทุนรวม, อิเล็กทรอนิกส์ แบงกิ้ง หรือ Cross-Selling เช่น ประกันชีวิตหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ โดยให้บริการทุกช่องทางแล้วเรียกตัวเองว่า Financial Firm" John Leonard นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง ชโรเดอร์ ซาโลมอน สมิธ บาร์นีย์ กล่าว (นิตยสาร The Banker ธันวาคม 2545)

หลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจผสมผสานกับการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์หันกลับมาพิจารณาตัวเองใหม่ กรณีความเหมาะสม ในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคตด้วยการแยกธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจ หลัก (Non-Core Business) ออกไป รวมถึงการใช้บริการในรูปแบบ Outsourcing หรือ ดำเนินธุรกิจลักษณะร่วมลงทุน (Joint Venture)

แม้ว่าการให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) ของธนาคารพาณิชย์สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากเปรียบเทียบกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนแล้วยังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาที่ธนาคารกำลังเพิ่มตัวเลขผลกำไร

"การพัฒนาเทคโนโลยี คือ ความเป็นไปได้ที่จะรวมผลิตภัณฑ์บริการทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน และสามารถนำ เสนอต่อลูกค้าตรงตามความต้องการ" Dr.Chris Gentle ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาการบริการทางการเงินแห่งดีลอยท์ แอนด์ ทู้ช บอก (นิตยสาร The Banker ธันวาคม 2545)

กระนั้นก็ดี ธนาคารพาณิชย์ต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า อะไรเป็นสิ่งที่ตนเองต้องการมากที่สุด เพราะนี่คือรูปแบบที่มีความแตกต่างไปจากคู่แข่ง และเป็นความท้าทายในการทำงานและเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งว่ากันว่าโลกแห่งอุตสาหกรรมดังกล่าวแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่ ผู้เล่นระดับโลก (Global Player), ผู้เล่นระดับภูมิภาคและผู้นำระดับท้องถิ่น (Regional & Major Domestic Player) และผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการพิเศษ (Product or Service Specialists)

โดยความท้าทายสำหรับการเจริญเติบโตในยุคปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์จะต้องมีปัจจัยพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ Product Innovation, Customer Intimacy และ Least Cost Provider "เป็นมิติสำคัญ แต่ก่อนที่พวกเขาจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ได้ต้องเข้าใจกลยุทธ์ที่กำลังดำเนินการทั้งรูปแบบการปฏิบัติการ กระบวนการ องค์กร โครงสร้างพื้นฐานและวัฒนธรรม" Michel Driessen ที่ปรึกษาการให้บริการทางการเงินแห่งเอคเซนเชอร์อธิบาย (นิตยสาร The Banker ธันวาคม 2545)

Asia Care U เป็นโครงการล่าสุดของธนาคารเอเชีย ภายใต้ความคิดให้ความสำคัญกับลูกค้า เนื่องจากแต่ละคนต่างความต้องการ รูปแบบบริการเดิมๆ ผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกัน ไม่สามารถสนองตอบความต้องการที่หลากหลายได้

ธนาคารเอเชียจึงสร้างสรรค์งานบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ด้วยการนำระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ซึ่งเรียกว่า Asia Care U เทคโนโลยีข้อมูลที่จะมาช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารและลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทำให้ได้ ทราบความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าแต่ละคน เพื่อที่จะดูแล ให้คำปรึกษา และ นำเสนอบริการได้ตรงใจ

โครงการดังกล่าวเป็นความต่อเนื่องจากโครงการปฏิรูประบบงานสาขา (Retail Transformations) ที่ธนาคารเอเชียดำเนินการตั้งแต่ปี 2539 โดยแนวทางและกลยุทธ์ หลักของ Asia Care U คือ การสร้างบริการแบบบูรณาการ (Service Integration) โดยให้ความสำคัญกับการอบรมและพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พัฒนาระบบ เทคโลยีสารสนเทศที่จะเป็นส่วนสนับสนุนและเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับพนักงานในการวิเคราะห์ และนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ และปรับขั้นตอนการทำให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

"ตราบใดที่ลูกค้าพอใจบริการก็จะอยู่กับธนาคารตลอดไป" จุลกร สิงหโกวินท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารเอเชีย เล่า "วิธีเดียวที่จะทำให้พอใจ คือ ธนาคารต้อง รู้จัก และรู้ใจลูกค้า จึงจะถือได้ว่าเป็นการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ดังนั้น กลยุทธ์คือการให้บริการเพื่อดูแลพวกเขาในทุกช่องทางที่เข้ามาติดต่อกับธนาคาร เพื่อให้ได้รับบริการมาตรฐานเดียวกัน"

โครงการ Asia Care U เป็นความ พยายามตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจ หลังจากที่ธนาคารเอเชียมีเป้าหมายอย่างชัดเจนในการเข้าสู่ตลาดลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) โดยวัตถุประสงค์ดังกล่าวนับเป็นรูปแบบใหม่ของธนาคารพาณิชย์ไทย แต่ธนาคารแห่งนี้กลับแสดงจุดยืนด้วยการปฏิรูประบบงานสาขาเพื่อตอบสนองตลาดรายย่อยก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ

จนกระทั่งวิกฤติเศรษฐกิจลุกลามและกระทบต่อการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้สถานการณ์ธนาคารเอเชีย ย่ำแย่ลงและถูกรบกวนจากต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่พุ่งสูง ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดปี 2541 ก็ต้อง กลายเป็นสมาชิกของธนาคารเอบีเอ็น แอมโร และธนาคารเอเชียสามารถดำเนิน ธุรกิจต่อได้จากการสนับสนุนของพันธมิตร ใหม่

"หากจะทำตลาดรายย่อย ต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะมาร์จินน้อยมาก ดังนั้น ประสิทธิภาพในการทำกำไรต้องดีที่สุด พวกเราให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและบุคลากร" จิตราพร แตงสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานปฏิบัติการ ธนาคารเอเชียกล่าว

ภารกิจอันดับแรกของธนาคารเอเชีย ก็คือ งานบัญชีทั้งหมด การปฏิบัติงานและขอบเขตการปล่อยสินเชื่อที่เคยรับผิดชอบของสาขาถูกย้ายเข้าสู่ศูนย์กลางที่สำนักงานใหญ่ ขณะที่พนักงานสาขามุ่งเน้นงานขายและบริการ โดยธนาคารกระจายฐานข้อมูลและเชื่อม ระบบเทคโนโลยีใหม่ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้า การปรับปรุงระบบการทำงานแบบนี้ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีจากตะวันตกแล้วนำมาผสมผสานกับบุคลากรท้องถิ่น ความลงตัวจึงเกิดขึ้น

"สิ่งที่พวกเรายึดมาโดยตลอด คือ ลูกค้าต้องการอะไรที่ธนาคารทำมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเชื่อมโยงมาถึงโครงการ Asia Care U แต่เมื่อเกิดวิกฤติต้องกลับมาดูภายในก่อนว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร และเมื่อเอบีเอ็น แอมโร ใส่เงินเข้ามา พวกเราดำเนิน การทันที" จิตราพรเปิดเผย

หลังจากจัดการกับปัญหา Y2K สำเร็จไปแล้ว โครงการ Asia Care U เริ่มเป็นรูปเป็นร่างตั้งแต่กลางปี 2544 "เป็นการจับเอาบริการมารวมและเชื่อมเข้าด้วยกัน ซึ่งมีความท้าทายสำหรับพวกเรา เพราะทุกวันนี้ธนาคารมีสินค้ากว่า 70 ชนิด" จุลกรบอก

โครงการดังกล่าวจะบอกลูกค้าว่าไม่ต้องเดินมาหาธนาคาร แต่ธนาคารจะพยายาม ไปหาอีกฝ่ายให้มากและสะดวกที่สุด และสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม นี่คือ ความฝันของธนาคารเอเชียที่ต้องการเชื่อมระบบข้อมูล และผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกันทุกช่องทาง โดยลูกค้าสามารถใช้บริการได้และไม่มีความแตกต่างไม่ว่าจะผ่านสาขา โทรศัพท์ (Call Center), อินเทอร์เน็ต, พนักงานขายตรง (Direct Sales Force), เอทีเอ็ม หรือโทรศัพท์มือถือ

"มีคนจำนวนมากคิดว่าจะทำธุรกรรมกับธนาคารต้องเดินไปสาขา แต่พวกเราไม่ได้มองอย่างนั้นเพียงอย่างเดียว ต่อไปลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปสาขาหรือว่าไปแล้วไม่ต้องพึ่งพนักงานมาคอยให้บริการ" ธรรมศักดิ์ จิตติมาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการขายผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคและลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารเอเชียกล่าว

ปัจจุบัน Asia Care U นำร่องด้วย การเชื่อมระบบให้บริการทางโทรศัพท์ หรือ Call Center และระบบข้อมูลทีมงานขาย ตรง หรือ Direct Sales Force โดยขณะนี้ พนักงานที่ Call Center จะมีข้อมูลลูกค้า มากเพียงพอที่จะตัดสินใจได้ทันทีตามขอบเขตที่ธนาคารกำหนดไว้

ดังนั้นกระบวนการทำงานไม่ได้ขึ้น อยู่กับพนักงานและขั้นตอนที่ยุ่งยากและยาวนาน แต่ขึ้นกับเงื่อนไขและประวัติของ ลูกค้าซึ่งพนักงานสามารถอธิบายให้กับลูกค้าได้มากพอสมควร

ด้านทีมงานขายตรงมีข้อมูลและประวัติลูกค้าเช่นเดียวกับ Call Center "พวกเขาถือโน้ตบุ๊คออกไปหาลูกค้าและสามารถบอกได้ว่า ลูกค้ารายนี้เป็นใคร ทำธุรกรรมอะไรกับธนาคารอยู่ มีบุคลิกอย่างไร และเป็นไปได้ว่าเราจะตามการใช้บัตรเครดิตของลูกค้าด้วย" จิตราพรชี้ "จากการดำเนิน การดังกล่าวธนาคารขายสินค้าให้ลูกค้ารายเดียวได้มากกว่าหนึ่งอย่าง คือ ทำงานในลักษณะ Cross Selling ได้เพิ่มมากขึ้น"

หลังจากนั้น ธนาคารเอเชียจะเชื่อมระบบการให้บริการผ่านช่องทางสาขา, eChannal และคาดว่าจะเชื่อมโยงทุกช่องทางได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า "การแข่งขันในอนาคต ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนสาขาเท่านั้น แต่เกิดจากความสามารถในการเข้าหาและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก" จุลกรให้เหตุผล

โครงการ Asia Care U มีผลกระทบกับการดำเนินงานของธนาคารเอเชียอย่าง มาก ทั้งพนักงาน ระบบการทำงาน องค์กรซึ่งต้องจัดรูปแบบใหม่เพื่อจัดกระบวนทัพใหม่ ในแต่ละแผนกต้องใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้นหากโครงการสมบูรณ์แบบสามารถ เอื้อประโยชน์ให้กับอีกฝ่ายได้ ซึ่งการทำงานนี้เหมาะสมกับตลาดในปัจจุบันที่มีความ ยืดหยุ่นสูง มีความสามารถในการปรับตัวที่ธนาคารพยายามหารูปแบบทางธุรกิจ (Business Model) ที่นำไปสู่ความสำเร็จหรืออยู่รอด

"ทุกวันนี้มีคนเข้าใจ Retail Banking น้อยมาก เพราะไม่เคยทำมาก่อน ในอดีต ลูกค้ารายเล็กพวกเราไม่ต้อนรับ" จุลกรเล่า "รูปแบบธุรกิจเปลี่ยนแปลงเร็วมาก กระบวน การทำงานก็ต้องเปลี่ยน จะไปขายของอย่างเดียวโดยไม่เปลี่ยนข้างในไม่ได้ ซึ่งพวกเราโชคดีที่เปลี่ยนช่วงธนาคารยังมีขนาดไม่ใหญ่"

หลังเปิดตัวโครงการ Asia Care U ดูเหมือนว่าธนาคารเอเชียเชื่อมั่นอย่างมากในทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความ สอดคล้องกับสภาวะตลาด โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการสร้างความแตกต่าง และมีผลิตภัณฑ์ ที่หลากหลาย ซึ่งธนาคารเชื่อว่าความอยู่รอด ก็คือ การฉีกตัวหนีคู่แข่ง รวมถึงเน้นกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

"ทางเลือกสำหรับลูกค้าและสินค้ามีมากมาย แต่ธนาคารไม่ใช่โรงงานน้ำตาล ที่มีผลผลิตออกมาเป็นน้ำตาล แต่เป็น Multi Product ซึ่งแต่ละสินค้ากลายเป็น Commodity"

ปัจจุบัน บทสรุปความสำเร็จของ Asia Care U ยังไม่สามารถแสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่อธิบายได้ คือ จะทำอย่างไรที่จะดึงลูกค้ามาให้ได้ โดยธนาคารลงทุนในขอบเขตเป็นไปได้ เนื่องเพราะสิ่งที่ต้องการคือ การยอมรับและจงรัก ภักดี ซึ่งเกิดผลดีสำหรับการเป็นธนาคารแรกไม่ใช่แห่งที่สองที่ลูกค้าเลือก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us