บล. แอ๊ดคินซัน เตรียมนำเงินไปลงทุนต่างประเทศปีหน้า หลังได้เงินจากขายหุ้นบล.เอเพกซ์-ล้างขาดทุนสะสม เล็งเปิดสาขาไซเบอร์บลานซ์ เจาะนักลงทุนรุ่นใหม่ ด้านผู้บริหารคาด ปี51 ได้ลูกค้าเปิดบัญชีเพิ่มอีก 3 พันบัญชี จากปัจจุบันที่มี 3 หมื่นบัญชี พร้อมขออนุญาตดำเนิน3 ธุรกิจใหม่ "เอสบีแอล-ไอบี -อนุพันธ์"

นายสุรพล ขวัญใจธัญญา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2551 ว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ซึ่งจะลงทุนหุ้นและพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยจะเน้นการลงทุนระยะกลางและยาว โดยเม็ดเงินที่จะนำไปลงทุนจะมาจากการที่บริษัทได้จากการเขายใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์บล.เอเพกซ์ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาวงเงินที่จะไปลงทุนต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทมีเม็ดเงินลงทุนในประเทศจำนวน 500-1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานนักลงทุนมากขึ้น โดยตั้งเป้าจะมีบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3 ,000 บัญชี ในปีหน้า ซึ่งบริษัทกำลังพิจารณาที่จะมีการเปิดสาขาอิเล็กทรอนิกส์ (ไซเบอร์บลานซ์) และมีการเน้นธุรกิจด้านการซื้อขายผ่านทางด้าน อินเตอร์เน็ต มากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ปัจจุบันมีลูกค้าเปิดบัญชีจำนวน 30,000 บัญชี ซึ่งแบ่งเป็นลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ปีนี้จำนวน 2,000 -3,000 บัญชี

"ปีหน้าบริษัทจะเน้นในเรื่องการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะรักษามาร์เกตแชร์ไว้ที่ 5-6% เหมือนกับปีนี้ เพราะ ในปีหน้าการแข่งขันด้านการเทรดผ่านอินเตอร์เน็ตมีสูง โดยบริษัทจะมีการพัฒนาในเรื่องดังกล่าวให้มาขึ้น และครบวงจรกมาขึ้น โดยจะมีการเปิดสาขาไซเบอร์บลานซ์ ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำ และถึงจุดคุ้มทุนในระยะเวลาที่สั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา"นายสุรพล กล่าว

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทจะมีการดำเนินธุรกิจด้านการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาส 2-3 ในปีหน้า และบริษัทจะมีการดำเนินธุรกิจด้านอนุพันธ์ ซึ่งบริษัทจะมีการขอใบอนุญาตในปีหน้า รวมถึงการขอใบอนุญาตสำหรับประกอบธุรกิจด้านวาณิชธุรกิจ (IB) เพื่อเป็นการกระจายฐานรายได้ของบริษัท เพราะไม่ต้องการที่จะพึ่งพารายได้ที่มาจากนายหน้าค้าหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียวจากที่ธุรกิจดังกล่าวในอนาคตจะมีการแข่งขันที่สูง

นายสุรพล กล่าวว่า การที่กองทุน Ellerston Capital Limited จากประเทศออสเตรเลียที่เข้ามาถือหุ้นในบล.ประมาณ 5.2%นั้น ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเข้ามาสนับสนุนบริษัทในการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันของบริษัทมากขึ้น เป็น 10% จากปัจจุบันที่มีเพียง 5% โดยบริษัทคาดส่วนแล่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ปี 2551 อยู่ที่ 3.5% ซึ่งคาดว่ามาร์เกตแชร์สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 2.5%

สำหรับความคืบหน้าในการขายใบไลเซนต์ บล.เอเพกซ์ จำนวน 319 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวมข้อมูลให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะขายใบไลเซนต์ดังกล่าวได้ภายในสิ้นปีนี้ แต่หากไม่ทันปีนี้ก็จะเป็นช่วงไตรมาส1/2551 โดยเงินที่ได้บริษัทจะนำไปล้างขาดทุนสะสม และ นำไปลงทุนต่างประเทศ