Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 ธันวาคม 2550
"ทีพีไอโพลีน"ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น "ประชัย"โอนให้คนในตระกูล30ล.หุ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทีพีไอโพลีน

   
search resources

ทีพีไอ โพลีน, บมจ.
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์
Stock Exchange
Cement




"ประชัย" ยันไม่ทิ้ง "ทีพีไอโพลีน" หลังโอนหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดให้ตระกูลเลี่ยวไพรัตน์กว่า 30 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8.35 บาท รวมมูลค่า 256 ล้านบาท เพื่อเดินเข้าสู่สนามการเมืองอย่างใสสะอาด ด้านนักวิเคราะห์ แนะเก็งกำไร หลังราคาบนกระดานต่ำกว่าราคาเหมาะสมที่ 10.50 บาท

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL และหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แจ้งขายหุ้น TPIPL จำนวน 30.76 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8.35 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 256.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โครงสร้างผู้ถือหุ้น TPIPL ณ วันที่ 14 กันยายน 2550 นายประชัย ถือหุ้น TPIPL อยู่จำนวนทั้งสิ้น 30.77 ล้านหุ้น หรือ 1.52% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในอันดับที่ 14

ด้านนายประชัย กล่าวว่า การโอนหุ้นทีพีไอโพลีนให้กับกลุ่มตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ เป็นเพียงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น เพื่อเคลียร์บัญชีทรัพย์สินส่วนตัวรองรับการเข้ามาทำกิจกรรมทางการเมือง ในฐานะหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ขณะที่ตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และมีอำนาจบริหารกิจการทีพีไอโพลีนต่อไป

"โดยหลักการแล้วผมจะต้องไม่มีสัดส่วนการถือหุ้นเหลืออยู่เลย และไม่รู้ตอนนี้คงเหลือการถือหุ้นอยู่เท่าไหร่ แต่ผมยืนยันไม่ทิ้งทีพีไอโพลีนแน่นอน"

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวให้ความเห็นเพิ่มเติม การขายหุ้นออกมาของนายประชัย ส่งผลให้ราคาหุ้นทีพีไอโพลีนปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้า แต่การที่นายประชัยขายหุ้นออกมาน่าจะเป็นการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นก่อนที่จะก้าวสู่สนามการเมืองอย่างใสสะอาด บวกกับยังมีปัจจัยลบอื่นที่เข้ามากระทบ อาทิ ประเด็นเรื่องของค่าปรับคดีปั่นหุ้นกว่า 6 พันล้านบาท และการขยายระยะเวลาฟื้นฟูกิจการออกไปอีก 1 ปี

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น TPIPL ได้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 10.50 บาท ดังนั้น จึงปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อเก็งกำไร" ด้วยความระมัดระวัง จากเดิมแนะนำ "ขาย" แต่ยังเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงในประเด็นความเกี่ยวพันทางการเมือง และ คดีที่ฟ้องร้องในศาล

ด้านปัจจัยพื้นฐาน ทีพีไอโพลีน ยังมีฐานะแข็งแกร่ง พิจารณาจากฐานะการเงิน และ EBITDA ที่สูงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท ทำให้มีความสามารถที่จะรองรับภาระหนี้ที่จะเพิ่มขึ้นจากการเสียค่าปรับ 6,900 ล้านบาท ในกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาว่ากระทำผิดและต้องชำระค่าปรับจริง

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (13 ธ.ค.) ราคาหุ้นได้ปรับตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยมีราคาสูงสุดที่ 8.25 บาท ต่ำสุดที่ 7.75 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 7.80 บาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.50 บาท หรือคิดเป็น 6.02% มูลค่าการซื้อขายรวม 335.99 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us