บล.ฟิลลิป ลุ้นแบงก์ชาติปลดล็อคให้นักลงทุนลงทุนต่างประเทศได้โดยตรง ชูตลาดหุ้นหลัก 4 แห่ง "ญี่ปุ่น-ฮ่องกง-สิงคโปร์-สหรัฐฯ" ยังน่าสนใจ ชี้ช่วงแรกต้องเป็นสินค้าอ้างอิงดัชนี ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการลงทุนหุ้นโดยตรง เชื่อการให้บริการและสินค้าที่หลากหลายจะช่วยขยายฐานลูกค้าได้ในอนาคต

นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนงานในปีหน้าของบริษัทที่จะเน้นการเพิ่มสินค้าและบริการให้กับลูกค้ามากขึ้นโดยเฉพาะการเสนอบริการให้ลูกค้าไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้รอเพียงการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยคาดว่าทั้งในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลและการลงทุนโดยตรงจะได้รับจากสนับสนุนเนื่องจากก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ก็ค่อนข้างสนับสนุนนโยบายในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อธปท.อนุมัติในการออกไปลงทุนในต่างประเทศ บริษัทคาดว่าในช่วงแรกจะแนะนำให้นักลงทุนออกไปลงทุนในตลาดหุ้นหลัก 4 แห่ง คือตลาดหุ้นในประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยสินค้าแรกคงเป็นสินค้าในลักษณะ ETF ซึ่งเป็นการลงทุนในดัชนีของตลาดหุ้นนั้นๆเพื่อให้นักลงทุนปรับสภาพและทำความเข้าใจกับระบบการซื้อขายในแต่ละประเทศก่อน โดยในอนาคตบริษัทอาจจะมีการพิจารณาเลือกหุ้นบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้นักลงทุนต่อไป

สำหรับแผนในการสร้างความแตกต่างเพื่อเป็นจุดขายกับนักลงทุนก่อนการเปิดเสรีที่จะเกิดขึ้น บริษัทจะยังคงเน้นการนำเสนอสินค้าที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตัวเองและจะทำให้นักลงทุนไม่เปลี่ยนใจไปใช้บริการบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ

"เราอยากนำเสนอโปรดักส์ที่หลากหลายเราเชื่อว่าระบบการเตรียมที่เราพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปีพร้อมรองรับสินค้าที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งพร้อมในเรื่องการเชื่อมการซื้อขายกับตลาดหุ้นในต่างประเทศเพราะเรามีเครือข่ายและสาขาในต่างประเทศรองรับอยู่แล้ว"นายสุชายกล่าว

ส่วนเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% ขณะที่จำนวนบัญชีลูกค้าในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่าบัญชี โดยเป็นบัญชีลูกค้าที่ซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตประมาณ 1.5 หมื่นบัญชี ซึ่งซื้อขายสม่ำเสมอประมาณ 4.5 พันบัญชี