Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์10 ธันวาคม 2550
จอห์นสันฯรุกเลนส์รายวัน ขึ้นแท่นผู้นำครองแชร์40%             
 


   
search resources

จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
Marketing




จอห์นสันฯ วางงบปี'51 เพิ่มขึ้น 10% เตรียมรุกตลาดคอนแทกต์เลนส์ชนิดเปลี่ยนรายวันต่อเนื่อง หวังดันสัดส่วนผู้บริโภคใช้เลนส์รายวันแตะ 20% ในปีหน้า ชูกลยุทธ์ให้ความรู้ผู้บริโภคผ่านสถาบัน วิชั่นแคร์ ล่าสุด เพิ่มเม็ดเงินอีก10-15% ประชาสัมพันธ์สถาบันอย่างเต็มที่ หลังเปิดให้บริการครบ 1 ปี พร้อมจัดแคมเปญ "วิชั่น แคมป์" รับโอลิมปิค 2008 หวังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากนี้ต่อไป เป้าหมายของจอห์นสันฯคือการบุกตลาดเลนส์รายวัน เพื่อคว้าแชร์ 40% เป็นผู้นำตลาดคอนแทกต์เลนส์อย่างชัดเจน

ปัจจุบัน ตลาดคอนแทกต์เลนส์ในเมืองไทยมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท โดยแบรนด์ "แอคคิววิว" ของค่าย จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ครองแชร์ราว 35% ใกล้เคียงกับเบอร์สองในตลาด ทำให้ภาพความเป็นผู้นำของ "แอคคิววิว" จึงยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเมื่อพิจารณาตามประเภทคอนแทกต์เลนส์ ที่แบ่งเป็น ชนิดรายเดือน 60% ซึ่งเป็นสัดส่วนมากสุดในตลาดคอนแทกต์เลนส์ มีแบรนด์ "บอช แอนด์ ลอมบ์" ผู้เล่นหลักในตลาดอีกรายหนึ่งเป็นผู้นำอยู่ในเซกเมนต์นี้ ขณะที่คอนแทกต์เลนส์ชนิดรายวันที่มีสัดส่วนประมาณ10-15% ทั้งแบรนด์แอคคิววิว และบอช แอนด์ ลอมบ์ มีส่วนแบ่งใกล้เคียงกัน และที่เหลืออีกประมาณ 25% เป็นคอนแทกต์เลนส์เพื่อแฟชั่น (แบบสี)

ดังนั้น เป้าหมายของจอห์นสันฯในตอนนี้ คือ การรุกตลาดคอนแทกต์เลนส์รายวัน เพื่อผลักดันให้คอนแทกต์เลนส์ชนิดดังกล่าวขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ดูสูสีและสามารถเบียดคู่แข่งขึ้นมาเป็นผู้นำได้ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับเซกเมนต์อื่น ซึ่งหากเป็นไปตามเทรนด์ของตลาดคอนแทกต์เลนส์ในเอเชีย อย่างเช่น ญี่ปุ่นที่พบว่าคอนแทกต์เลนส์แบบวันเดย์ได้รับความนิยมสูงสุด ส่วนชนิดเปลี่ยนรายเดือนกับรายปีมีสัดส่วนลดลง ย่อมถือเป็นโอกาสที่แอคคิววิวจะขึ้นมาเป็นผู้นำได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

"สำหรับตลาดในเมืองไทยเชื่อว่าจะเป็นไปตามเทรนด์ของตลาดเอเชีย โดยคาดว่าภายใน3-5 ปี ตลาดคอนแทกต์แบบรายวันจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 70% จากตอนนี้ที่มีอยู่ประมาณ 10-15%" เป็นคำกล่าวของ สุวิมล วานิชวรานนท์ ผู้จัดการ ฝ่ายวิชั่นแคร์ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) เมื่อครั้งเปิดตัว1-Day Acuvue DEFINE และ 1-Day Acuvue Moist เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ฉะนั้น การบุกตลาดในปีหน้า จอห์นสันฯจึงโฟกัสไปที่ตลาดคอนแทกต์เลนส์ชนิดรายวันเช่นเดิม ด้วยการเตรียมงบตลาดที่เพิ่มจากปีนี้อีก 10 -15% สำหรับการทำตลาดอย่างเต็มที่ หลังจากที่ต้นปีนี้ลอนช์ -Day Acuvue DEFINE และ 1-Day Acuvue Moist มาเป็นหัวหอกบุกตลาดคอนแทกต์เลนส์รายวัน โดยเฉพาะโปรดักส์ตัวหลังเป็นนวัตกรรมที่ลอนช์ออกมา เพื่อแก้จุดอ่อนของคอนแทกต์เลนส์รายวันให้สามารถใส่ได้นานเพิ่มจากปกติอีก 2 - 3ชั่วโมง จากเดิมที่คอนแทกต์เลนส์ชนิดนี้จะให้ความชุ่มชื้นและสามารถใส่ได้เฉลี่ยเพียง 8 ชั่วโมง และในปีหน้าค่ายนี้ก็จะทำการลอนช์โปรดักส์ตัวใหม่เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาสนใจคอนแทกต์เลนส์ชนิรายวันอย่าต่อเนื่อง โดยเน้นเรื่องความสบาย สุขภาพของดวงตา ความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากเป็นปัจจัยการตัดสินใจซื้ออันดับต้นๆของลูกค้า ขณะที่ราคา เป็นปัจจัยท้ายๆในการตัดสินใจซื้อทำให้การวางตำแหน่งราคาสูงกว่าผู้เล่นรายอื่นราว 25-30% จึงไม่เป็นข้อเสียเปรียบ เช่น 1-Day แบบแพ็ค 15 คู่ ราคาประมาณ 1,200 บาท หรือแบบชนิดรายเดือนคู่ละ 200 บาท

พร้อมกันนี้จอห์นสันฯจะเน้นการให้ความรู้กับผู้บริโภคอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องการดูแลสายตา หรือการเลือกใช้คอนแทกต์เลนส์อย่างถูกต้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานคนที่มีปัญหาสายตาให้หันมาใช้ ด้วยการนำเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของดวงตา ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์เข้ามาเป็นแรงจูงใจ ซึ่งเป็นการนำอีโมชันนัลและฟังก์ชันนัลเข้ามาช่วยสร้างตลาด ซึ่งเครื่องมือหลักที่ค่ายนี้นำมาใช้ คือ สถาบัน วิชั่นแคร์ ที่เปิดให้บริการครบ 1 ปีเมื่อเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ไทยเป็น 1 ใน 7 ประเทศที่มีสถาบัน วิชั่นแคร์ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, กรุงโซล เกาหลีใต้, ไทเป ไต้หวัน, กรุงปราก สาธารณรัฐเชค, โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, เซี่ยงไฮ้ และมิลาน ประเทศอิตาลี สำหรับสาขาในไทยที่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จอห์นสันฯได้มีการจัดกิจกรรมเปิดอบรมผู้เชี่ยวชาญทางการดูแลสายตาจำนวนกว่า 600 คน แบ่งเป็นคนไทย 600 คน ที่เหลือเป็นชาวสิงคโปร์ และมาเลเซีย 200 คน ซึ่งค่ายนี้ตั้งเป้าว่าในปี 2551 จะเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับการอบรมต่อเนื่อง โดยเป็นชาวไทย 1,200 คน และเป็น ชาวต่างชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 2,000 คน ขณะเดียวกัน จอห์นสันฯได้เตรียมจัดสรรงบส่วนหนึ่งเพื่อจัดกิจกรรมสำหรับเด็กนักเรียนระดับมัธยม เพื่อแนะนำการใช้สายตาอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นกีฬา การเรียน และขยายวงกว้างไปยังผู้บริโภคทั่วไปอีกด้วย อาทิ การส่งหนังสือเสียงเข้าร่วมโครงการ พร้อมมอบเงินตามจำนวนเทปที่เข้าร่วมโครงการให้กับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยและการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย

พร้อมกันนี้ เพื่อขยายฐานและต่อยอดแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จอห์นสันฯจึงเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง ปี 2008 ภายใต้แคมเปญ "วิชั่น แคมป์" ด้วยการร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิค เพื่อตรวจเช็คสภาพสายตาให้นักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมแนะนำการแก้ปัญหาด้วยคอนแทกต์เลนส์ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการมองเห็น โดยเบื้องต้นตั้งเป้าตรวจให้นักกีฬาไทยจำนวน 50 คน และนักกีฬาในประเทศจีนอีก 100 คน

การรุกตลาดอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในครั้งนี้ จอห์นสันฯมั่นใจว่าสัดส่วนของคอนแทกต์เลนส์ชนิดรายวันจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3-4% ในปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีสัดส่วนเกือบ 20% จากตลาดคอนแทกต์เลนส์ทั้งหมด โดยจะมาจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้แบบชนิดรายเดือน และกลุ่มที่เคยใช้แต่แว่นตา ซึ่งผู้จัดการ ฝ่ายวิชั่น แคร์ ของจอห์นสัน บอกว่า ผู้บริโภคในกลุ่มหลังจะมีแนวโน้มเปลี่ยนมาใช้คอนแทกต์เลนส์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลการสำรวจกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15 - 19 ปี ที่มีปัญหาสายตา พบว่า หันมาใช้คอนแทกส์เลนส์ 100% เนื่องจากต้องการมีบุคลิกภาพที่ดีเนื่องจาก ผู้บริโภคต้องการมีบุคลิกภาพและความสะดวกในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น

สำหรับ เป้าหมายที่จอห์นสันฯวางไว้ต่อจากนี้ คือ การผลักดันคอนแทกต์เลนส์รายวันให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์ในแถบเอเชีย เพื่อขึ้นเป็นผู้นำตลาดอย่างชัดเจน ด้วยการครองแชร์มากกว่า 40% ในอนาคตอันใกล้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 35%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us