บิ๊กเอ็มเอไอ ปลื้มยอดระดมทุนปีนี้ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งมา 2.3 พันล้านบาท ขณะที่วอลุ่ม 7.6หมื่นล้านบาท สูงกว่า 3 เท่า จากปี 49 ที่มี 2.7 หมื่นล้านบาท คาดปีหน้ามีบริษัทเข้าจดทะเบียน 10-15 แห่ง หวังรัฐบาลใหม่หนุนบริษัทขนาดเล็ก

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เปิดเผยว่า ในปี 2551 ตลาดเอ็มเอไอตั้งเป้าบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนไว้จำนวน 10-15 บริษัท โดยคาดว่าบริษัท บิวเดอร์ สมาร์ท จำกัด (มหาชน) จะเป็นบริษัทแรกที่เข้ามาระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอ และเชื่อว่าหลังจากเลือกตั้งมีรัฐบาลชุดใหม่จะสามารถเข้ามาจัดตั้งทีมเศรษฐกิจที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้เข้ามามาลงทุนได้

ขณะเดียวกัน ยังหวังว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในเรื่องของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้มีขีดความแข่งขันในอนาคตเพิ่มขึ้น รวมถึงจะมีการระดมทุนมากขึ้น โดย mai จะยังคงช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบกาารคนไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากการระดมทุนโดยไม่พึ่งพิงตลาดเงินหรือการกู้เงินจากสถาบันการเงินแต่เพียงอย่างเดียว

"ขณะนี้เอ็มเอไอยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานได้ เพราะจะมีการแถลงในวันที่ 10 หรือ 14 มกราคมปีหน้า ซึ่งจะเปิดเผยในเรื่องเป้าหมายมาร์เกตแคป" นายชนิตร กล่าว

สำหรับมูลค่าระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) และการเพิ่มทุนบริษัทในเอ็มเอไอปีนี้มีมูลค่า 2,295 ล้านบาท (ไม่รวมบริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) หรือ D1 และบริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ที่มีมูลค่าระดมทุน มูลค่า 695 ล้านบาท) ซึ่งถือว่ามีการระดมทุนสูงที่สุดตั้งแต่จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2542 โดยมีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอปีนี้แล้วจำนวน 6 บริษัท รวมบริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เข้าเทรดวันนี้ (12ธ.ค.) โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวมปีนี้จะอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ปัจจุบันอยู่ที่ 76,376.32 ล้านบาท คิดเป็นเฉลี่ยต่อวันที่ 329.21 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 27,423.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นเฉลี่ยต่อวันที่ 112.81 ล้านบาท ซึ่งการที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเพราะ มีหุ้นใหม่ที่เข้ามาจดทะเบียน และนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมาขึ้น จากที่ตลาด mai ได้ออกบทวิเคราะห์มามากกว่า 300 ฉบับ ซึ่งได้ออกบทวิเคราะห์ให้กับบจ.ใน mai รวมจำนวน 37 บริษัท จากจำนวนทั้งสิ้น 46 บริษัท ประกอบกับบริษัทต่างๆ มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจเข้ามาลงทุนได้