Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 ธันวาคม 2550
ฮาริสันฯ เพิ่มพอร์ตโครงการเมืองท่องเที่ยว เล็งปี51 ขยับ 30%-ลุยบริหารคอนโดฯ มือ2             
 


   
www resources

โฮมเพจ ฮาริสัน

   
search resources

Real Estate
ฮาริสัน, บมจ.
อลัน หลิน




ฮาริสันฯเตรียมเพิ่มพอร์ตบริหารโครงการอสังหาฯตามแหล่งท่องเที่ยว ตั้งเป้าปี 51 ขยับเพิ่มอีก 20% รวมเป็น 30% คาดถ้าทำตามเป้า โอกาสยอดขายปีหน้าเติบโตได้อีก 20-30% ระบุลูกค้าต่างประเทศยังเติบโตได้ ยอดขายนำโครงการไปโรดโชว์นอกช่วง 11 เดือนขายได้กว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมขยายตลาดบริหารคอนโดฯมือสองทั้งลูกค้าโครงการที่บริหารอยู่และลูกค้าโครงการอื่น

นายอลัน หลิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2551 ว่า ปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแหล่งท่องเที่ยว มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะชะลอตัวลง แต่ตลาดในกลุ่มนี้ยังได้รับความสนใจจากลูกค้าคนไทยและต่างประเทศ โดยทางบริษัทจะพยายามเข้าไปเพิ่มการบริหารการขายให้แก่กลุ่มลูกค้าโครงการในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ทั้งในจังหวัดภูเก็ต สมุย หัวหิน พัทยา และเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายที่จะเพิ่มโครงสร้าง(พอร์ต)ลูกค้าโครงการอสังหาฯตามเมืองท่องเที่ยวจากปัจจุบันที่มีประมาณ 10% เพิ่มอีก 20 % และหากสามารถทำเป้าลูกค้าโครงการตามเมืองท่องเที่ยวได้ คาดว่าภาพรวมของยอดขายปี 2551 จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20-30% จากที่คาดว่ายอดขายรวมในปี 2550 จะทำได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มียอดขายประมาณ 7,000 ล้านบาท

" ยอดขายโครงการปีนี้ ใช่ว่าไม่ดี เทียบกับปี 49 ถือว่าเติบโตขึ้นมาได้ดี แต่หากพิจารณาเป็นภาพรวมแล้ว เรายอมรับว่าตลาดค่อนข้างชะลอตัวลงบ้าง ยกเว้นตลาดคอนโดมิเนียมที่ยังเติบโตได้ อย่างเช่น โครงการบางกอก คานส์ ของกลุ่มนักลงทุนจากฮ่องกงที่เปิดโครงการคอนโดมิเนียมเฟสแรก 4 ตึก 15 ไร่ จำนวน 2,700 ยูนิต บริเวณเส้นจรัญสนิทวงศ์ โดยเปิดขายตึกแรกประมาณ 500 ยูนิต ลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลาม และกลุ่มนี้ ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่บริษัทฮาริสัน เข้าไปบริหารการขายให้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีจำนวนโครงการที่บริหารอยู่ประมาณ 20 โครงการ รวมมูลค่าโครงการที่บริหาร 15,000-20,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีแล้ว บริษัทจะสามารถรับโครงการมาบริหารได้ประมาณ 20 โครงการและสูงสุดไม่เกิน 30 โครงการ เพราะต้องพิจารณาศักยภาพของโครงการและจำนวนบุคลากร เราต้องการมุ่งคุณภาพที่เหมาะสมกับโครงการที่ต้องทำ " นายอลันกล่าว

นายอลัน กล่าวถึงในส่วนของการนำโครงการไปโรดโชว์ยังตลาดต่างประเทศว่า ยังเป็นตลาดที่ดี แม้ขณะนี้ค่าเงินบาทของไทยจะแข็งค่า แต่ลูกค้าก็ยังให้ความสนใจ จะเห็นได้ว่าในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทได้นำโครงการอสังหาฯของไทยและโครงการต่างประเทศที่อยู่ในไทยไปโรดโชว์ ก็สามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากที่ได้ไปโรดโชว์มาหลายครั้ง เช่น ที่ประเทศฮ่องกงประมาณ 7-8 ครั้ง เซี่ยงไฮ้ 2 ครั้ง และที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 1 ครั้ง

ประธานกรรมการบริหารกล่าวถึงธุรกิจการบริหารคอนโดมิเนียมมือสองนั้น เป็นธุรกิจที่ทางบริษัทเริ่มเข้าสู่ตลาดในส่วนนี้ ซึ่งในปีหน้า จะเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากสินค้าคอนโดมิเนียมมือสองยังมีช่องทางที่จะเติบโตได้อีก และยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้เกิดการซื้อขายของคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มขึ้น เพียงแต่จะพัฒนาคอนโดฯมือสองอย่างไรให้เกิดสภาพคล่องสูงสุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทางบริษัทมีห้องชุดมือสองที่มาฝากขายกับบริษัทประมาณ 7,000-8,000 ยูนิต ราคาประมาณ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และเป็นส่วนของห้องชุดที่บริษัทบริหารห้องชุดให้แก่ลูกค้าโครงการไม่เกิน 3,000 หน่วย ที่เหลือจะมาจากลูกค้าภายนอกที่มาฝากขายกับทางบริษัท ทั้งนี้คาดว่า ในปีหน้า จำนวนห้องชุดมือสองที่มาฝากขายกับบริษัทน่าจะเกิน 10,000 ยูนิต ซึ่งในส่วนของค่าคอมมิชชันจะขึ้นอยู่กับขนาดและการตกลงกับลูกค้า

"จริงๆแล้ว เจ้าของห้องชุดมือสองนั้น ควรคิดว่า หากต้องการเสนอขายในราคาสูงหรือใกล้เคียงกับห้องชุดใหม่นั้น คงเป็นเรื่องที่ลำบาก เพียงแต่อาจจะต้องยอมลดราคาลงมาบ้าง เพราะอย่างน้อยก็ยังมีกำไรจากการขายอยู่ดี "   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us